วันที่สี่สิบสี่ บทลงโทษ (13 กรกฎาคม 2559)

วันนี้เป็นเรื่องการกล่าวถึงบทลงโทษของนักเรียนชั้นป.2/1

ไม่ใช่ห้องใครที่ไหนห้องประจำเรานี่แหละ เริ่มต้นตั้งเเต่เช้าในกิจกรรมเข้าเเถวหน้าเสาธงที่เล่นกันบ่อยมาก ตอนนั่งสมาธิก็คุยกันตลอด หลายคนโดนเตือนไปแล้วหลายรอบเเต่ก็ยังคงเล่นอยู่

มาที่โฮมรูมก่อนเข้าเรียนคาบเเรก ก็อบรมเรื่องมารยาทอีกครั้ง และให้บทลงโทษโดยการนั่งสมาธิ 5 นาที ทำจิตใจให้สงบก่อนเริ่มเรียนในคาบแรก ส่วนครูโต้งพอเริ่มเรียนในคาบแรกของครูพี่เลี้ยงก็ขอตัวมาเตรียมการสอนกับ ประวัติศาสตร์ ป.1อีกครั้ง ถ้าวันนี้อาจารย์นิเทศมานี่คือตายเเน่ เพราะรอบนี้ไม่ได้เตรียมแผนการสอนเลย มีเเต่สื่อกับใบงานที่พึ่งตื่นมานั่งทำตอนตี 5 เช้านี้ จากที่เมื่อวานไปปลูกป่ามา สลบหลับทันทีที่ถึงที่นอน เช้านี้เลยมีเเค่ใบงานกับสื่อการสอน วันนี้เป็นเรื่องของสิ่งของเครื่องใช้ในอดีตและในปัจจุบัน ครูโต้งเลยใช้บัตรภาพเป็นหลัก บวกกับการเล่าเรื่องถึงการใช้สิ่งของในอดีตว่าเป็นอย่างไร ตอนนี้มันเป็นอย่างไร เปลี่ยนแปลงไปมากน้อยเเค่ไหน วันนี้ ป.1 ที่รักจึงให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีค่อยโล่งใจกันหน่อย ขอให้เป็นอย่างนี้ทุก ๆ คาบนะ ป.1 ที่รัก

เหลังสอนเสร็จกลับมาที่ห้อง ป.2/1 ของเราเอาอีกเเล้วในคาบสุดท้ายกิจกรรมสร้างสรรค์เสียงดังและเล่น ไม่ทำงานกันอีกเเล้ว คราวนี้เพิ่มบทลงโทษไปกับการคัดกฏของห้อง "ผมจะไม่เล่นและส่งเสียงดังในห้องเรียนอีกเเล้วครับ" 20 จบ ได้คัดกันทุกคน ก่อนจะอบรมเรื่องมารยาทอีกรอบพร้อมกับการนั่งสมาธิอีก 10 นาที คราวนี้ 10 นาทีจริง ๆ ใครเล่น ใครขยับ ใครลืมตา เพิ่มอีก 1 นาที งานนี้เเน่นอนมีบางคนยังไม่นิ่งยังแอบลืมตาดูเพื่อน งานนี้เลยเพิ่มเวลาไป ๆ มา ๆ ได้อีก 7 นาที จนเงียบกริบทั้งห้อง...

"สมาธิและนั่งนิ่งกอดอกรอกลับบ้าน"

วันนี้ 2/1 จึงได้บทลงโทษ เป็นการนั่งสมาธิทั้งวันเลยก็ว่าได้

กว่าจะกลับบ้านได้วันนี้เลยปล่อยนักเรียนช้าหน่อย 4 โมง 15 นาที เพราะต้องอบรมนิสัยของนักเรียนให้ถูกต้องมีมารยาท ให้รู้จักเวลาไหนเวลาเรียน เวลาไหนเวลาเล่น เป็นการฝึกวินัยในตนเองของเด็ก ๆ ที่ต้องกระทำบ่อย ๆ เพื่อจะให้เด็กติดเป็นนิสัย ให้รู้จักกาลเทศะว่าควรทำสิ่งใดไม่ควรทำสิ่งใด

[เฉลิมพล บุญฉายา]

สู้ๆๆครับคุณครู

[ธรรมดี]

ขอบคุณครับ

เฉลิมพล บุญฉายา