เรื่องเล่าบ่ายนี้


“สวัสดีเธอจ๋า ขอสัญญาเป็นเพื่อนกับเธอ

ขึ้นรถเมล์ชอบสังเกตสิ่งแวดล้อมรอบๆตัวทำให้ได้ข้อคิดและสติเตือนใจอย่างเช่นวันนี้ มีคุณป้าท่านหนึ่งอายุน่าจะมากกว่า 60 ปีหน่อยๆขึ้นมาบนรถยื่นเงินให้กระเป๋ารถเมล์หญิง(อายุน่าจะประมาณ 45 ปี)ได้ยินเสียงกระเป๋าพูดว่า ยังไม่เก้าโมงครึ่งเลยต้องจ่ายเต็ม เดาว่าคุณป้าคงจะจ่ายค่ารถครึ่งหนึ่งตามสิทธิ์แต่กระเป๋าไม่ยอม คุณป้ามองหน้าแบบไม่พอใจสังเกตว่าปากคุณป้าบ่นขมุบขมิบและทำท่าจะเปิดกระเป๋าตังค์   ดิฉันคิดว่าคุณป้าคงจะหยิบเงินจ่ายค่ารถเพิ่มแต่ตรงกันข้ามคุณป้าลุกขึ้นยืนจะเดินลงจากรถ กระเป๋าสนองตอบบอกให้คนขับจอดรถ  แล้วคุณป้าก็เดินลงจากรถไปอย่างไม่พอใจ  จากภาพที่เห็นทำให้นึกถึงตัวมานะ(ความสำคัญตน)กับ ตัวอัตตา(ความมีตัวตน)  คุณป้ามีอัตตา(ฉันเป็นผู้สูงอายุฉันใช้สิทธิ์ได้)  กระเป๋ามีมานะ(ฉันทำตามหน้าที่ตามคำสั่งฉันไม่ผิด)  กลับมาดูความคิดตัวเอง หากกระเป๋ามองว่าหญิงชราผู้นี้เปรียบเสมือนเป็นญาติหรือเป็นตัวเองยามแก่ ก็อาจจะอะลุ้มอล่วยคิดเสียว่าอุตส่าห์ยอมเหนื่อยมาขึ้นรถเมล์แกจ่ายครึ่งหนึ่งก็ยังดีกว่าไม่ได้จ่ายเลย  ถ้าคุณป้าใจเย็นลงอีกนิดและยอมรับว่า ป้าไม่รู้ว่าเขามีกำหนดระยะเวลา ขอโทษทีและยื่นเงินให้ คุณป้าก็ได้นั่งรถต่อโดยไม่ต้องเสียเวลาไปยืนรอรถเมล์คันใหม่  มองดูผู้สูงวัยแล้วทีนี้มามองดูเด็กๆกันบ้าง สาวน้อย 2 คน (คนหนึ่งเป็นอาหมวยน้อย อีกคนเป็นสาวแขก)อายุ 3 ย่าง4 ขวบปี้นี้เท่ากัน  มารับยาARV ดิฉันมองว่าคู่นี้จะต้องมาเจอกันอีกนานแสนนานจึงคิดผูกสมานสามัคคีให้เด็กน้อย 2 คนนี้ ได้รู้จักกัน  จึงเรียกทั้งคู่มาแล้วบอกว่า

มารู้จักกันหน่อย บอกเพื่อนซิหนูชื่ออะไร ทั้งคู่หุบปากอย่างกับกลัวว่ามันจะเผยอพูดออกมา 

จับมือเชคแฮนด์กันหน่อย ทั้งคู่รีบเอามือไขว้หวัง ไม่ยอมให้ความร่วมมือเอาเสียเลย

ดิฉันมองเด็กน้อยทั้งสองคน เอจะทำยังไงดี อ้อนึกออกแล้ว

วันนี้ป้าหน่อยจะสอนร้องเพลง ใครชอบร้องเพลงบ้าง รีบยกมือขึ้นพร้อมกันทั้งสองคน

เอาล่ะเพลงที่ป้าหน่อยจะร้องให้ฟังหนูต้องทำท่าประกอบด้วย  เริ่มเลยน่ะ ดิฉันร้องเพลงที่เคยเรียนสมัยป.1 ซึ่งประทับใจมากไม่เคยล้าสมัยและไม่เคยตกยุค

เนื้อเพลงมีอยู่ว่า  สวัสดีเธอจ๋า     ขอสัญญาเป็นเพื่อนกับเธอ                                                              ฉันใฝ่ฝันมานานนะเออ   อยากพบเธอขอสวัสดี

 

ระหว่างร้องและทำท่าประกอบเพลงเด็กมีใบหน้ายิ้มแย้ม หัวเราะ สนุกสนานและหลังจากร้องจบก็ยอมจับมือถ่ายรูปด้วยกัน            นอกจากความน่ารักของเด็กๆที่ทำให้เรารู้สึกแช่มชื่นหัวใจแล้ว  ยังได้แง่คิดว่าการยอมทำตัวเป็นเด็กบ้างในบางเรื่อง(ลดอัตตา ลดความมีตัวตน ไม่ยึดติดรูปแบบ ติดพิธีรีตอง )ก็ดีนะ

หมายเลขบันทึก: 61043เขียนเมื่อ 19 พฤศจิกายน 2006 14:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 16:25 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)
"น้องหน่อย" มีเทคนิคที่ใช้ในการละลายพฤติกรรมหลายกระบวนท่าอยู่แล้ว ยกนิ้วให้ค่ะ
ถ้าทำให้ผู้ใหญ่ที่ไม่ถูกกันทำให้ดีกันบ้างน่าจะดีนะคะ     แต่จะยากหน่อยเพราะยังไม่รู้จะร้องเพลงอะไรดี?
  • พี่เห็นข้อดีของการที่หน่อยไม่สบายแล้วล่ะ หน่อยได้เขียนบันทึกบ่อย ๆ เป็นสิ่งที่ดีต่อพวกพี่ค่ะที่ได้อ่านบันทึกดี ๆ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท