<p “=”“>หลักศาสนาพุทธแนวเดิมสอนว่า ตัณหามารับรู้อารมณ์(เวทนา)ที่เกิดจากการสัมผัสลิ้มรส ทำให้เกิดความยึดติด จนเป็นทุกข์
</p>
<p “=”“>เราตรองคิดภาวนามานานปีขอเห็นต่างว่า ขั้นตอนน่าเป็นว่า ต้องมีตัณหามาก่อน รวมถึงการร่วมด้วยของสังขาร/สัญญา ในจังหวะ/ขั้นตอนที่เหมาะสม
</p>
<p “=”“>….
</p>
<p “=”“>เมื่อมีการกระทบ(ผัสสะ) (เช่นลิ้นกระทบกับข้าวแกง) ก็ย่อมมีการ”รับรู้รส” (ไม่มีสอนมาก่อน)..จากนั้นตัณหา/สัญญา(ความจำ)/สังขาร เข้าทำงานปรุงแต่งรสแล้วเกิดอารมณ์ (เวทนา)..จากนั้นจึงเกิดความยึดมั่นว่า ชอบ/ไม่ชอบ (อุปาทาน) แล้วก็ว่ากันไปต่อจากนั้น เป็นวงจรชีวิต
</p>
<p “=”“>…
</p>
<p “=”“>ทฤษฎีนี้ต่างจากแบบเดิมแบบตรงข้ามตรงที่..ตัณหา มาก่อน เวทนา ไม่ใช่มาทีหลัง..อุปมาเช่น ตัณหาอยากไปกินก๊วยเตี๋ยวร้านอร่อยเจ้าประจำ ก็สู้ขับรถดั้นด้นไปก้นซอย (ทุกข์หนักมาก) กินแล้วอร่อยก็เกิดอารมณ(เวทนา) ดังนี้แล ตัณหาจึงต้องมาก่อน…ส่วนสัญญาที่ไม่มีในคำสอนเดิมนั้น สำคัญมาก เพราะว่าที่ว่า “อร่อย” นั้นก็เพราะ ความจำ(สัญญา)เดิม มิใช่หรือ
</p>
<p “=””>————คนถางธรรม (กค.๕๙)
</p>
ไม่มีความเห็น