ข้อมูล จาก ER หนองจิก
รายการยาที่ประกาศเป็น High alert drug ในโรงพยาบาลหนองจิก
แต่ในคู่มือการให้พยาบาล HIGH ALERT DRUG ของห้องอุบัติเหตุ-ฉุกเฉินมี 9 ตัว ยกเว้น Potassium chloride injectionและ Gentamicin injection เนื่องจากภาวะแทรกซ้อนไม่เกิดทันทีทันใดต้องใช้ระยะเวลา
แนวทางการพยาบาล HIGH ALERT DRUG
ชื่อ |
การบริหารยา |
บทบาทพยาบาล |
1.Pethidine HCL เป็นยาแก้ปวดชนิดปานกลางถึงรุนแรง ขนาดที่ใช้ในโรงพยาบาล Pethidine injection 50 mg/ml (1 ml) |
ให้ทาง IV IM SC - I.V. push เจือจางด้วย NSS ให้ได้ความเข้มข้น 10 mg/ml - I.V.infusion (ถ้าสั่งมากกว่า50 mg)เจือจางใน D5W ให้ได้ความเข้มข้น 1mg/ml - กรณี I.M.ต้องฉีดเข้ากล้ามเนื้อมัดใหญ่ - กรณี I.V. push ให้ฉีดช้าๆใช้เวลาอย่างน้อย 5 นาที - ห้ามผสมยาฉีด pethidine กับ barbiturates(เช่น phenobarbital) aminophylline heparin phenytoin และ sodium bicarbonate เพราะเพราะจะเกิดการตกตะกอน สารละลายที่สามารถใช้เจือจาง : D5W, NSS, Lactate ringer's dextrose-saline |
- check v/s หากอัตราการเต้นของหัวใจน้อยกว่า 50 ครั้ง/นาที BP< 90/60 mmHg. RR < 10 ครั้ง/นาที O2 sat < 95 %ให้รายงานแพทย์ - หลังให้ยาแบบ I.V. push ให้นอนพักสังเกตุอาการ 30 นาทีอาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียน เวียนศีรษะ - ถ้าได้รับยาเกินขนาดมากจะมีอาการ รูม่านตาขยาย ความดันโลหิตต่ำ กล้ามเนื้ออ่อนแรง กระตุก ชัก สั่น คลั่ง |
ชื่อ |
การบริหารยา |
บทบาทพยาบาล |
2.Mophine Sulfate เป็นยาแก้ปวดชนิดปานกลางถึงรุนแรง ขนาดที่ใช้ในโรงพยาบาล Mophine Sulfate injection 10 mg/ml(1 ml)
|
ให้ทาง IV IM - I.V. push เจือจางด้วย NSS up to 10 ml ให้ฉีดช้าๆใช้เวลาอย่างน้อย 5 นาที
|
- check v/s ติดตามอัตราการหายใจไม่ควรน้อยกว่า 10 ครั้ง/นาที และติดตาม score pain - บางรายอาจมีคลื่นไส้อาเจียนเวียนศีรษะมากหลังได้รับยา ครั้งแรก นอกจากนั้นอาจเกิดอาการคัน หน้าแดงอย่างรวดเร็ว เหงื่อออกมาก พยาบาลต้องเช็ดตัวให้บ่อยๆและให้เครื่องดื่มเย็นๆเพื่อป้องกันการขาดน้ำ - ถ้า over dose ม่านตาจะหดเป็นรูเล็กๆ(miosis)จึงควรตรวจรูม่านยาด้วย - ประเมินการปวดท้องจาก billiary colic ตรวจดูการเคลื่อนไหวของลำไส้ - ในการให้ยาทางหลอดเลือดดำ ควรมีการเตรียมยาแก้พิษของ morphine คือ naloxone ไว้ทุกครั้ง |
3.Magnesium Sulfate ใช้เพื่อป้องกันและแก้ไขภาวะ pre- eclampsiaหรือ eclampsia ใช้ควบคุมการชักที่เกี่ยวข้องกับภาวะ epilepsy, glomerulonephitis หรือ hypothyroidism รักษาภาวะ acute magnesium deficiency และลดอาการของบาดทะยัก ขนาดที่ใช้ในโรงพยาบาล Magnesium Sulfate injection 50% (2 ml) 1gm/amp. Magnesium Sulfate injection 10% (10 ml) 1gm/amp. |
ให้ทาง IV IM - กรณีใช้รักษา eclampsia , pre- eclampsia ให้ 10% MgSO4 3gm(30 ml)I.V.ช้าๆ (10นาที) และ 50% MgSO4 |
- check v/s ทุก 15 นาที 2ครั้ง ต่อไปทุก 1 ชม.ถ้า RR <14 ครั้ง/นาที หรือ PR< 60 ครั้ง/นาทีให้รายงานแพทย์ - ตรวจ Deep tendon reflex โดยดู knee jerk reflex ถ้า negative ให้ทำ bicep jerk reflex ถ้า negative(<2+) ให้แพทย์พิจารณาหยุดยา - ต้องมี 10%calcium gluconate ไว้เสมอเพื่อเป็น antidose |
ชื่อ |
การบริหารยา |
บทบาทพยาบาล |
4.Dopamine เป็นยาที่ใช้ร่วมในการรักษาภาวะช๊อคภายหลังการให้สารน้ำที่เหมาะสมแล้ว และยังใช้รักษาภาวะ bradycardia หรือ heart blok ที่รักษาด้วย atropine ไม่ได้ผล ขนาดที่ใช้ในโรงพยาบาล Dopamine injection 250 mg/ml |
ให้ทาง IV - บริหารยาแบบ I.V.infusion ผ่านหลอดเลือดดำใหญ่โดยใช้ infusion pump - อ่านแผนการรักษาให้เข้าใจก่อนรับ order.ในกรณีที่แพทย์เขียน order 1:1 หรือ 2:1 เลขตัวหน้าคือ Dopamine : เลขตัวหลังคือสารละลายที่มาผสม แต่ไม่นิยมให้ order ควรระบุจำนวนให้แน่ชัด เช่น Dopamine 250 mg:D5W 250 ml. - ต้องเจือจางยาก่อนฉีดให้ได้ความเข้มข้นอย่างต่ำ 800 mcg(0.8mg)per ml กรณีผู้ป่วยจำกัดน้ำหรือบริหารยาอย่างช้าๆสามารถละลายยาให้ได้ความเข้มข้น 3.0mg/ml - สารละลายที่สามารถผสมเข้ากันได้คือ D5W,D10W, D5S/2 D5S, NSS, LR แต่ที่นิยมใช้คือ D5W - ห้ามผสมร่วมกับ alkaline solution(เช่น sodium bicarbonate) - น้ำยาที่เจือจางแล้วควรใช้ให้หมดภายใน 24 ชม.ป้องกันแสง น้ำยาที่เจือจางจะมีสีจางๆหากน้ำยามีสีเปลี่ยนไปหรือสีเข้มขึ้นไม่ควรใช้ |
- check v/s ทุก15 นาทีหาก BP>160/90mmHg.หรือ HR>120ครั้ง/นาทีในผู้ใหญ่ และ BP>120/80 mmHg.หรือ HR>180 ครั้ง/นาทีให้รายงานแพทย์ - มีภาวะใจสั่น เจ็บหน้าอก agitation ให้ติดตาม EKG - ห้ามใช้ยาร่วมกับ phenutoin เพราะทำให้ความดันต่ำและหัวใจเต้นช้าลง(bradycardia) - สังเกตฤทธิ์ข้างเคียงและพิษของยาได้แก่ ectopic beat คลื่นไส้อาเจียน หัวใจเต้นเร็ว หายใจลำบาก ปวดศีรษะ ความดันโลหิตต่ำ หลอดเลือดหดตัว หัวใจเต้นช้า QRS complex กว้าง มีของเสียคั่งในเลือด เนื้อเยื่อตายเนื่องจากน้ำยารั่วซึมออกนอกหลอดเลือด |
ชื่อ |
การบริหารยา |
บทบาทพยาบาล |
5.Adrenaline คือ Epinephine ใช้ในกรณีแพ้ยา หลอดเลือดตีบ หัวใจหยุดเต้น และสามารถใช้ห้ามเลือดเฉพาะที่ได้แต่ ไม่สามารถใช้ในกรณี internal hemorrhage ขนาดที่ใช้ในโรงพยาบาล Adrenaline injection 1mg/ml ( 1:1,000) in 1 ml. |
ให้ทาง IV IM SC Intracardiac injection - I.V. infusion เตรียมโดยผสม adrenaline 1:1,000 ปริมาณ 1 mg (1 ml)ใน D5W หรือ NSS 250 ml 4 mcg/ml - I.V.direct injection เตรียมโดยผสมยา adrenaline 1:1,000 ปริมาณ 1 mg (1 ml) กับNSS หรือ water for injection 9 mlจะได้ความเข้มข้น 100 mcg/ml (dose rang 100-1000mcg of 1:1,000 ฉีดทุก5-15 นาทีตามข้อบ่งใช้) - ยาที่สามารถผสมเข้ากันได้: Dopamine Dobutamine Verapamil Amikacin และ Furosemine - ยาที่ไม่สามารถผสมเข้ากันได้ : aminophyline sodium bicarbonate alkaline solution และ hyaluronidase |
- ตรวจวัดความดันเลือดและชีพจรสม่ำเสมอหรืออย่างน้อย15 นาทีในระยะ acute shock - หลีกเลี่ยงการฉีดยาเข้าเส้นเลือดแดงโดยตรงและการฉีดเข้ากล้ามเนื้อบริเวณสะโพกเนื่องจากอาจทำให้หลอดเลือดตีบจนกล้ามเนื้อตาย - ควรรักษาภาวะ Hypovolemic ก่อนให้ยา - หากผู้ป่วยเกิดปวดศีรษะ ผู้ป่วยอาจมีความดันเลือดสูงเนื่องจากได้รับยามากเกินไป - กรณี Cardiopulmonary resuscitation (CPR) บันทึก HR/BP หลังจากเริ่มมีสัญญาณชีพ - กรณี Anaphylaxis บันทึก PR/BP ทุก 30 นาที - กรณี Hypotension ให้ยาแบบ IV drip บันทึก HR/BP ทุก 1 ชม.ตลอดระยะเวลาที่มีการให้ยา หากพบ- BP> 160/90 mmHg หรือ HR > 120 ครั้ง/นาที ในผู้ใหญ่ หรือ - BP> 120/80 mmHg หรือ HR > 180 ครั้ง/นาที ในเด็ก ให้รายงานแพทย์ |
ชื่อ |
การบริหารยา |
บทบาทพยาบาล |
6.Digoxin เป็น Cardiotonic glycoside ใช้รักษา heart failure and/or flutter , supraventicular tachycardia และ cardiogenic shock ขนาดที่ใช้ในโรงพยาบาล Lanoxin Table 0.625 mg Lanoxin Injection 0.5 mg/2 ml |
ให้ทาง IV IM Oral - ระดับยาในเลือดที่มีผลต่อการรักษาคือ 0.5-2 ng/ml เวลาที่เหมาะสมในการวัดระดับยาคือภายหลังการได้รับยาแบบ I.V. อย่างน้อย 4 ชม. หรืออย่างน้อย 9 ชม.ภายหลังการกินยา digoxin (ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดคือ 12-24 ชม.หลังได้รับยา) - ยาฉีดที่อาจให้โดยไม่เจือจางแต่ถ้าจะเจือจางต้องเจือจางมากกว่า 4 เท่า - สารละลายที่สามารถผสมเข้ากันได้: D5W NSS sterile water for injection - การให้ I.V. bolus จะต้องนานกว่า 5 นาที |
-ก่อนให้ยาทุกครั้งต้องนับอัตราชีพจรใน 1 นาทีถ้าเท่ากับหรือน้อยกว่า 60 ครั้ง/นาทีหรือมีจังหวะความแรงไม่สม่ำเสมอ แล้วรายงานแพทย์ - ในกรณีที่เป็น IV injection ต้อง monitor EKG ขณะให้ยาและหลังให้ยา 1 ชม. - หากอ่านคำสั่งแพทย์เป็นdigoxin และให้รับประทานมากกว่าวันละครั้งให้ถือว่าคลาดเคลื่อนต้องปรึกษาแพทย์ทันที |
7.Adenosine ใช้รักษาภาวะ stable Narrow complex Regular tachycardia หรือ Supraventricular (SVT) ขนาดที่ใช้ในโรงพยาบาล Adenosine injection 6 mg/2 ml |
ให้ทาง I.V. - เปิด I.V.ใกล้ๆหัวใจ - เตรียมต่อ 3- way ซึ่งใช้ syring 20 ml ที่ใส่ NSS ไว้คอย flush ตามนาที่ฉีดอย่างรวดเร็ว - ยกแขนข้างนั้นขึ้น - ติด monitor EKG - เริ่มต้นฉีดครั้งแรกที่ 6 mg (1 vial ) ถ้าไม่ตอบสนองเพิ่มยาเป็น 12 mg (2 vial) หากไม่ตอบสนองอีกให้ขนาด 12 mg ซ้ำได้อีก 1 ครั้ง |
- ควรมีการติด montitor EKG เพราะการฉีดยาและ flush ต้องทำอย่างเร็ว เร็วมากและผลที่ได้ก็ทันใจผู้ป่วยจะมีอาการเหมือนตกจากที่สูงแล้วรู้สึกหวิวๆๆซึ่งเมื่อดูจากจอ monitor จะเห็นเป็น asystoleเป็นช่วงสั้นๆ -กรณีที่ได้ยาแล้วไม่ตอบสนองให้ลองทบทวนหาสาเหตุดังนี้ เช่น วิธีการฉีดไม่ถูกต้อง(ฉีดยาหรือ flush saline ตามไม่เร็วพอ เปิดเส้นที่แขนส่วนปลาย(ข้อมือ)ทำให้ยาหมดฤทธืก่อน)วินิจฉัย EKG ผิด เช่น rate regular แต่เป็น sinus tachycardia |
ชื่อ |
การบริหารยา |
บทบาทพยาบาล |
8.Calcium Gluconate ใช้เพื่อเพิ่มแคลเซียมในพลาสมาทันที เช่น neonatal tatany หรือเกร็งกระตุกจากภาวะพร่อง parathyroid hormone วิตามินดี และเลือดเป็นด่างใช้ภายหลัง open heart surgeryเพื่อกระตุ้นกล้ามเนื้อหัวใจหรือใช้เสริมการรักษาโรคอื่น ขนาดที่ใช้ในโรงพยาบาล 10 % Calcium gluconate injection 1 gm/10ml |
- standard diluent: 1 gm/100ml D5W or NSS ; 2 gm/100 ml D5W or NSS ใช้ในกรณี IV. - ควรผสม calcium gluconate ใน D5W ให้เลือกผสมใน NSS เฉพาะกรณีจำเป็นเพราะ sodium ทำให้ calcium ขับออกเร็วขึ้น - ห้ามผสมใน bicarbonates,carbonates ,phosphate ,sulfates,amphotericin B และ pantoprazole sodium เพราะจะตกตะกอน -ห้ามนำสารละลายของยาเก็บในตู้เย็นเพราะอาจตกตะกอน : I.V. infusion solution จะมีความคงตัว 24 ชม.ที่อุณหภูมิห้อง - บริหารยาโดยทางหลอดเลือดดำเท่านั้นทั้ง direct I.V. หรือ infusion -การบริหารยาทาง SC หรือ I.M. อาจทำให้เกิดเนื้อเยื่อหรือกล้ามเนื้อตายชนิดรุนแรง |
- ฉีด calcium ช้าๆไม่เกิน 0.7-1.8 mEq/min โดยใช้เข็มเล็กเข้าหลอดเลือดใหญ่เพื่อป้องกันระดับ calciumเพิ่มเร็วไปและป้องกันการแทงทะลุสู่เนื้อเยื่อโดยรอบซึ่งส่งผลให้เกิดเนื้อตายได้ -การฉีดcalcium เร็วอาจทำให้หลอดเลือดขยาย BP ลดลงหัวใจเต้นช้าไม่เป็นจังหวะหมดสติและหัวใจหยุดเต้นได้ -กรณีแก้ไข Hyperkalemia อาจต้องให้ calcium อย่างเร็วควร moniter EKG ขณะฉีด IV push ช้าๆ - กรณีใช้แก้ Magnesium Sulfate ให้ push 10 % Calcium gluconate 10 ml ใน 10 นาที |
ชื่อ |
การบริหารยา |
บทบาทพยาบาล |
9.Regular Insulin ใช้ในกรณีที่มีภาวะ น้ำตาลในเลือดสูง ขนาดที่ใช้ในโรงพยาบาล Regular (Regular insulin , Humulin 70/30 , NPH insulin) |
ให้ทาง IV IM - Insulin ที่เปิดใช้แล้วเมื่อเก็บไว้ที่อุณหภูมิตู้เย็น(2-8องศา)หรือที่อุณหภูมิห้อง(ไม่เกิน30 องศา)จะคงตัวอยู่ได้นาน 28 วันโดยต้องเก็บป้องกันแสง และ ใช้เทคนิคการเตรียมยาแบบปราศจากเชื้อ - Regular insulin ที่ผสมแล้ว มีความคงตัว 24 ชม.ที่อุณหภูมิห้อง(ไม่เกิน20 องศา)และที่ในอุณหภูมิตู้เย็น (4 องศา) -ห้ามใช้หาก Regular insulin เปลี่ยนสี ขุ่นมีตะกอนหรืออนุภาคเกิดขึ้นหรือหนืดผิดปกติ- standard diluent : 100 units/100ml หรือ 0.45% sodium - สารละลายที่สามารถผสมเข้ากันได้ : D5W, D5N/2 NSS |
- กรณีให้ IMติดตาม DTX อีก 2 ชม. และ IV push ติดตาม DTX อีก 2 ชม. และ - เฝ้าระวังการเกิดน้ำตาลในเลือดต่ำซึ่งจะมีอาการกระวนกระวาย หน้าซีด ใจสั่น เหงื่อออกตัวเย็น อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน กล้ามเนื้ออ่อนแรง หัวใจเต้นช้า หายใจตื้นและเร็ว หมดสติอาจเกิดเปลี่ยนแปลงบุคลิคภาพ ให้รายงานแพทย์ - แก้ไขภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำที่ไม่รุนแรงโดยการรับประทานอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต เช่น น้ำส้มคั้น ลูกอม |
ไม่มีความเห็น