ต่อจาก บันทึกนี้ นะคะ
ปีนี้ทำงานมา ๖ เดือน ทบทวนกันสักนิด ก่อนก้าวเดินต่อในทางที่ดีขึ้นได้อย่างไร
ภาคเช้าฟังภาพรวมการเปลี่ยนแปลงของโลก AEC ประเทศไทยของเรา และจังหวัดหนองคายจะกระทบ
รวมท่านรองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองคาย ๕ ท่าน เพิ่มเติมสรุปความภาคภูมิใจในความดีงาม
ที่บุคลากรด้านสุขภาพ ภาคีเครือข่ายคนหนองคายและอื่น ๆ ได้ร่วมกันรังสรรค์ผลงานมา
เพื่อสุขภาวะผู้ที่มีโอกาสมาหนองคาย อยู่หนองคาย เกี่ยวข้องกับจังหวัดหนองคาย
สองวันนี้สัดส่วนความสุขในสาระงานและการใช้ชีวิตเป็นตัวเอง .... พอเหมาะพอดี สบายกายสบายใจ
^_,^
ภาคบ่ายย้ายไปชุมนุมกันที่ศาลาวัดป่าแก้งใหม่ อำเภอสังคม
พี่บัน ยีรัมย์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองคาย นำสวดมนต์ไหว้พระ สงบจิตใจ
ได้ฟังคำสอนจากพระอาจารย์วัดแก้งใหม่ ให้มีสติ ลดความตระหนี่ จะได้ถ่ายถอนตัวตน
ส่งพระอาจารย์เรียบร้อย
เกือบบ่ายสอง แจกจ่ายเบาะนั่งนุ่มสบาย จะใช้นอนก็ได้ แต่อย่าหันเท้าไปทางพระประธาน
ก่อนเที่ยงพิธีกรกรุณาแนะนำตัวไปแล้วว่าเป็นวิทยากรกลางดำเนินกิจกรรม “เรื่องเล่าเร้าพลัง งานได้ผลคนเป็นสุข”
ร่วมกับคุณหมอล่า ทันตแพทย์วัชรพงษ์ หอมวุฒิวงศ์
กำลังพยายามปรับบทบาทเป็นผู้เหนี่ยวนำกระบวนการ (Mentor) นั่งพื้นในระนาบเดียวกัน เราต่างมีความเป็นคนเสมอภาคกัน
ไม่มีหัวโขนใครใหญ่กว่ากัน เราต่างมีบทบาทหน้าที่ต่อสุขสาธารณะของชาวหนองคายที่ต่างกัน .... เท่านั้นเอง
แนะนำเพื่อน ๆ ทั้งศาลาวัดให้รู้จัก “ระฆังแห่งสติ”
เริ่มกิจกรรมด้วยการย้อนวัยเป็นเด็ก ๔ ขวบ วาดภาพความสุข ความประทับใจในงานยุทธศาสตร์หลักอย่างใดอย่างหนึ่งใน Goal setting ที่แต่ละอำเภอเตรียมแบ่งกันมาเรียบร้อย
ซึ่งทุกอำเภอได้สรุป One page learning ส่งล่วงหน้า (สมองซีกซ้าย) สสจ.หนองคายทำเอกสารเข้ารูปเล่มให้ทุกคนแล้ว
เพิ่มนิดกระตุ้นสมองซีกขวาหน่อย ชอบใช้การวาดภาพมากค่ะ ได้ใช้จินตนาการร้อยเรื่องราวสื่อออกมาอย่างสร้างสรรค์
มีอารมณ์ มีสีสัน มีความรู้สึกฉายออกมา
^_,^
ได้ภาพสวยงาม แยกย้ายกันเข้า ๖ กลุ่ม จำนวนทีม Fa และ Note - taker ที่เตรียมไว้พอดี แต่พื้นที่นั่งแออัดไปนิด
ทีม Fa (Facilitator : วิทยากรกระบวนการ) และผู้จดบันทึก (์Note - taker) ประจำกลุ่มทุกกลุ่ม แนะนำตัวเองเรียบร้อย
กลุ่ม ๕ แบ่งสมาชิกเป็นกลุ่ม ๕/๑ และ ๕/๒ ถ้าแบ่งบางกลุ่ม ได้เล็กกว่านี้ จะช่วยความสนใจในการรับฟังให้ง่ายขึ้น
แต่ไม่แน่เสมอไป .... ขึ้นกับวาระจิตด้วย
เหตุดังนั้น อะไรที่เกิดขึ้นผ่านไปแล้ว ดีงามเสมอ
สุดท้าย .... ทุกกลุ่มร่วมกิจกรรมได้อย่างดี ยิ้มแย่มแจ่มใส มีเสียงหัวเราะแทรกเป็นระยะ
เน้นการรับฟังอย่างไม่โต้แย้ง ส่วนใครจะถึงพร้อมในการใช้ใจฟังอย่างลึกซึ้ง อย่างไม่ตัดสินได้มากน้อยเพียงใด
สังเกตการปลี่ยนแปลงอารมณ์ ความรู้สึกที่เกิดภายในได้ละเอียดเพียงไหน
ท้าย ๆ กิจกรรมช่วง AAR (After Action Review) มีคำตอบนะคะ
^_,^
ค่อย ๆ ฝึกการให้เกียรติ ฝึกแบ่งปันในการใช้เวลา ใช้เวทีสาธารณะร่วมกัน
จากเรื่องราวความสุข ความประทับใจในงานและชีวิต จากมุมมองต่อโลกของคนหนึ่งสู่คนหนึ่ง เล่าออกจากใจสู่ใจ
จากเรื่องตนเองหนึ่งเรื่อง กลายเป็นได้ฟังรวมสี่เรื่องจากสี่อำเภอ ภายใน ๒๐ นาที
ช่วยกันเลือกเรื่องราวความประทับใจเหล่านั้น เล่าเป็นตัวอย่างให้ทั้งวงในกลุ่ม Goal setting ฟัง
^_,^
รับฟังมาทั้งหมด จับประเด็นเป็นความประทับใจ เขียนลงในบัตรคำ
จัดกลุ่มประเด็นความประทับใจ หาความสัมพันธ์ ร้อยเรื่องราวเชื่อมโยง อาจจะได้รูปแบบชัดเจนขึ้น
ช่วยกันเสนอปัจจัยที่ทำให้เกิดประเด็นความประทับใจนั้น ๆ หรือหากมีอุปสรรค เพื่อนฟันฝ่ามาได้อย่างไร
เตรียมสรุปและนำเสนอ ถนัดเสนอเป็นรูปภาพ สัญลักษณ์ ข้อความ ตาราง แผนภูมิ Fish bones Mind map หรือ Web of causes
ผสม ๆ กันหลากหลาย ได้ทั้งนั้น
^_,^
เดี๋ยวมาติดตามผลการระดมความคิดและจิตใจจากสมาชิกกลุ่มทุกคน
ไปทำสวนก่อนสักสองชั่วโมงนะคะ
สวัสดีค่ะ
^_,^
ท่าสบายๆ ... ผ่อนคลายแล้วคิดออกแบบ การเรียนรู้แบบ...ปิ๊งแว้บ คือ การรู้ที่
ขอบคุณนะคะ
ขอบคุณมากค่ะพี่เปิ้น สร้างบรรยากาศผ่อนคลาย สบาย ๆ ได้ การเรียนรู้ก็เกิดได้ง่ายค่ะ
ชอบใจสถานที่จัดกิจกรรม
ไม่ต้องใช้สถานที่หรู
แต่ได้งานมากครับ
ขอบคุณมากๆครับ
ในความรู้สึก ศาลาวัดสัปปายะ เหมาะสมกับกิจกรรมนี้มากค่ะ อ.ขจิต เรียบง่าย งาม
แต่ถ้าดูวัสดุก่อสร้าง ไม้เนื้อแข็งแท้ใช้ปูยกพื้นกลางศาลา แต่ละแผ่นหน้ากว้าง ๕๐ - ๗๐ cm.
ดูลายไม้ที่ใช้กลึงเป็นราวกันตกรอบศาลานัคั สวยมาก ๆ
และเสียดาย .... ลืมถ่ายภาพทั้งหลัง ศาลาทรงไทย บนไหล่เขา สวยงามมาก ๆ
อ.ขจิต จะเปลี่ยนใจบอกว่า เกินคำว่าหรู ไปมากเชียวค่ะ
ขอบคุณมากค่ะที่ อ.มาเยี่ยมชม
คุ้น ๆ เหมือนชื่อหนังสือ อาจารย์ หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช ไหมคะ