การจัดการการเงินเพื่อเตรียมตัวเกษียณอายุของข้าพเจ้าแบ่งออกเป็น 4 ชั้นตอน ดังนี้
1. คำนวณเงินออมตอนเกษียณ ว่าเราควรที่จะมีเท่าไหร่ ณ วันที่ต้องเกษียณ
เงินออมตอนเกษียนคำนวณง่ายๆ นะครับ แค่ลองประมาณค่าใช้จ่ายต่อเดือนหลังเกษียณ (70% ของค่าใช้จ่ายปัจจุบัน*) x 12 เดือน เพื่อคิดเป็นค่าใช้จ่ายต่อปี และจากนั้นก็คูณด้วยจำนวนปีที่คาดว่าจะมีชีวิตอยู่หลังเกษียณ เพียงเท่านี้เราก็จะได้จำนวนเงินออมที่ต้องมี ณ วันที่เกษียณครับ
(70% ของค่าใช้จ่ายปัจจุบัน*) x 12 x จำนวนปีหลังเกษียณ = จำนวนเงินที่ต้องมี ณ วันเกษียณ
ยกตัวอย่างเช่น
* ที่มาของสูตรคำนวณ : TSI Thailand
2. คำนวณเงินออมเฉลี่ยต่อเดือน เพื่อให้มีพอใช้ยามเกษียณ
ต่อมาเมื่อเราได้เงินเกษียณเป็นที่เรียบร้อย เราก็มาดูว่าเราจะต้องเก็บเงินต่อเดือนเท่าไหร่กันครับ อันนี้ก็ง่ายๆ เพียงแค่เอาเงินเกษียณที่คำนวณได้จากข้อที่ 1 มาตั้ง แล้วหารด้วยจำนวนเดือนตั้งแต่วันนี้จนถึงเมื่อเราเกษียณครับ
จำนวนเงินที่ต้องมี ณ วันเกษียณ/จำนวนเดือนตั้งแต่วันนี้จนถึงเราเกษียณ
ยกตัวอย่างเช่น
เห็นไหมครับว่าเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างสูงทีเดียว ทั้งนี้ก็เพราะว่าเราเก็บเงินเพียงอย่างเดียว ไม่ได้ลงทุนหรือทำเงินให้งอกเงยขึ้นนั่นเอง แต่ถ้าเราเริ่มลงทุนเมื่อไหร่ละก็ เรามาดูกันครับว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น
และถ้าเราเพิ่มเป็นเก็บเดือนละ 5,000 บาททุกเดือน ก็แค่เอาเลข 5 ไปคูณกับ 883,827 ก็จะได้เป็น 4,419,135 บาทครับ เห็นไหมครับว่าการลงทุนทำให้เราเก็บเงินลดลงครึ่งนึง แต่กลับบรรลุเป้าหมายเกษียณเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ดังนั้น จะเห็นได้ว่ายิ่งมีเวลาออมมากเท่าไหร่เราก็ยิ่งมีโอกาสที่จะเกษียณได้ง่ายขึ้นเท่านั้น และถ้าเราหผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดีได้ ก็จะยิ่งทำให้เรามีเงินเกษียณที่มากขึ้นไปอีก หรือเราสามารถเกษียณรวย เกษียณเร็วได้นั่นเองครับ
คราวนี้เมื่อได้เงินที่ต้องออมในแต่ละเดือนแล้ว จากนั้นก็มาสำรวจกันนะครับ ว่าเรายังจะได้เงินเพิ่มจากที่ไหนบ้างที่จะมีไว้ใช้ยามเกษียณ ไม่ว่าจะเป็น
แหล่งเงินเหล่านี้ ถ้ามีเก็บไว้รวมกับที่เก็บเองในแต่ละเดือนแล้วละก็ ผมรับรองว่าเกษียณได้อย่าสบายใจแน่นอนครับ
3. แบ่งเงินออมเกษียณไปลงทุนเพื่อให้งอกเงย
หากคิดอย่างรอบคอบแล้ว เงินออมเกษียณนั้นควรแบ่งไปลงทุนตามความเสี่ยงที่ยอมรับได้ในแต่ละช่วงอายุกันด้วย เพื่อให้มีโอกาสรับผลตอบแทนที่ชนะเงินเฟ้อ แล้วจะได้เกษียณแบบชิลๆ สมใจครับ ซึ่งผมก็ได้รวบรวมตัวอย่างมาให้แล้ว นั่นก็คือ
4. วางแผนและสำรองค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพหลังเกษียณ
ค่าใช้จ่ายด้านรักษาพยาบาลนั้น มักจะเพิ่มมากขึ้นทุกๆ ปี และยิ่งปีท้ายๆ ของการเกษียณ จะยิ่งเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัวทีเดียวครับ ว่ากันว่าประมาณ 60-70% ของเงินในแต่ละเดือนนั้น คือค่ารักษาพยาบาล ดังนั้น ถ้าเป็นไปได้ละก็ ในช่วงที่อายุยังไม่มาก เราก็ควรที่จะวางแผนหรือสำรองค่าใช้จ่ายด้านรักษาพยาบาลไว้ เช่น การทำประกันสุขภาพ เนื่องจากค่าเบี้ยประกันยังไม่แพง และช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ดี ถ้าเรารอให้ป่วยก่อนที่จะเตรียมพร้อมไว้ ก็จะทำให้เราต้องเสียเงินมากกว่าการวางแผนและสำรองเงินไว้แน่ๆ ครับ
สุดท้ายนี้ผมขอทิ้งท้ายไว้ซักเล็กน้อยว่า การวางแผนเกษียณนั้น อาจจะต้องใช้เวลาหลายปี แต่ถ้าเรามีวินัยทางการเงิน ผมรับรองว่าไม่ยาก ยิ่งเรารู้จักแบ่งเงินมาลงทุน ยิ่งเริ่มต้นเร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งเกษียณเร็วขึ้นเท่านั้น และถ้าเราเกษียณเร็ว และเกษียณได้อย่างมีสุขภาพทางการเงินที่ดี ก็มีโอกาสได้พักผ่อน หรือท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ ในขณะที่ยังแข็งแรง มีสุขภาพที่ดีอยู่ แค่คิดก็มีความสุข สนุกขึ้นเป็นเท่าตัว ดังนั้นมาเริ่มต้นเสียตั้งแต่วันนี้กันนะครับ
วางแผนเกษียณให้รวย “ไม่ยาก” แค่เริ่มต้นดี เริ่มต้นเร็ว เท่านั้นเองคร้าบ^___^
อ้างอิง:http://www.aommoney.com
ไม่มีความเห็น