...ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต..เป็นภาพหนึ่งที่ไม่ค่อยได้เห็น พระอาจารย์มั่นฯนั่งอยู่บนธรรมาสน์ มีรองเท้า กระโถน วางอยุ่ด้านล่าง ร่างกายของพระอาจารย์มั่นดูผอมจนเห็นกระดูกไหปลาร้าปูดโปน...
เสร็จจากการแสดงธรรมเทศนาคืนนั้น พระเณรทุกองค์ต่างทยอยกลับ แต่หลวงพ่อวิริยังค์ถูกพระอาจารย์มั่นเรียกเข้าไปห้องเพื่อบีบนวดซึ่งเป็นกิจวัตรอย่างหนึ่งที่พระกัมมัฏฐานผู้เป็นศิษย์ถือว่าการถวายการนวดนั้นเป็นกิจวัตรประจำ หลวงพ่อวิริยังค์ถิอว่าเป็นลาภอันประเสริฐที่ท่านอาจารย์มั่นได้ให้โอกาส เพราะยากนักที่ท่านจะให้โอกาสแก่ภิกษุรูปใด
หลวงพ่อวิริยังคืบันทึกในตอนนี้ว่า วันหนึ่งขณะที่กำลังเตรียมน้ำชา หมากพลูปูนยา มวนบุหรี่ถวายท่าน พอท่านสูปควันบุหรี่ก็กระทบจมูกจนเผลอพูดออกมาว่า "แหมบุหร่เหม็นจริง" เท่านั้นเองก็ถูกอาจารยืมั่นดุว่า "นี่วิริยังค์ การยกโทษผู้อื่นนั้นไม่สมควรอย่างยิ่ง" ว่าแล้วท่านก็มวนยาสูบมวนใหญ่แล้วยื่นให้ให้สูบบอกว่าสูปเสียเดี๋ยวนี้จะได้ไม่ยกโทษผู้อื่น หลวงพ่อวิริยังค์สูบจนสำลัก ท่านก็หัวเราะชอบใจ
...ท่านสอนทุกวิธีแม้แต่การสูบบุหรี่ ทำเอาต้องจดจำตลอดชีวิตว่า...การยกโทษผู้อื่นนั้นย่อมไม่เกิดประโยชน์อะไร เพราะต่างคนต่างก็มีความสามารถไปคนละอย่าง เมื่อเขาทำไม่เหมือนเราๆจะว่าเขาไม่ดีก็ควรนึกอยู่ ๒-๓ ครั้ง ท่านอาจารย์ก็ลุกขึ้นพลัน
ก่อนจะให้กลับกุฏิวันนั้นอาจารยืมั่นได้พูดเป็นปริศนากับหลวงพ่อวิริยังคืว่า "เราได้นิมิตดี คือปรากฏในนิมิตว่าได้รองเท้าคู่ใหม่ รองเท้าคู่นี้แปลกไม่มีแหว่งเว้าตรงกลางเหมือนรองเท้าทั่วๆไป..."
ในท้ายบันทึกตอนนี้ หลวงพ่อวิริยังค์ยังได้เขียนไว้ว่า ได้เคยถูกอาจารย์มั่นสั่งให้เทศน์พร้อมกับพระอาจารย์มหาบัว ญาณสัมปันโน ในเทศกาลหนึ่งบนศาลา เทศน์ให้ญาติโยมฟังคนละกัณฑ์ ...ท่านสั่งเสร็จก็เข้าห้องไป ผู้เขียนกับอาจารย์มหาบัว ก็มองหน้ากันว่าจะทำอย่างไร ข้าพเจ้าก็กลัว อาจารย์มหาบัวก็กลัว กลัวอะไร ไม่กลัวโยมหรอก แต่กลัวอาจารย์...
....................
ตอนต่อไป พระวิริยังค์เขียนมุตโตทัย
ไม่มีความเห็น