10 ข้อเท็จจริงที่น่าตกใจ Wi-Fi อันตรายต่อสุขภาพ


1. ก่อให้เกิดอาการนอนไม่หลับ

มีข้อมูลจากการศึกษามากมายว่าการนอนใกล้โทรศัพท์ในบ้านที่มีเครื่อง Wi-Fi ในอาคารอพาร์ทเมนที่มีหลายสัญญาณ Wi-Fi ตลอดจนวางโทรศัพท์มือถือไว้ใกล้ตัว สามารถสร้างปัญหาการนอนไม่หลับเรื้อรัง เรียกได้ว่าเป็นมลพิษ Wi-Fi ก็ว่าได้ ทำให้ความสามารถในการนอนหลับของคุณลดลง แถมยังเป็นเป็นสาเหตุของภาวะซึมเศร้าจากการใช้งานอย่างต่อเนื่องอยู่กับตัวเองเป็นเวลานานและความดันโลหิตสูงที่เป็นสาเหตุเชื่อมโยงกับการนอนหลับไม่เพียงพออีกด้วย →2,3

2. สร้างความเสียหายต่อพัฒนาการเด็กในเล็ก

เมื่อร่างกายได้สัมผัสรับรังสีคลื่นความถี่จาก Wi-Fi และโทรศัพท์มือถือ คลื่นความถี่เหล่านั้นสามารถส่งผลกระทบต่อการพัฒนาของเซลล์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาเซลล์ของทารกในครรภ์และต่อพัฒนาการเรียนรู้ในเด็กเล็ก ได้มีการศึกษาวิจัยและทดลองในสัตว์ขึ้นในปี 2004 จากการศึกษาบ่งบอกว่าคลื่นความถี่จาก Wi-Fi และโทรศัพท์มือถือ ส่งผลให้การพัฒนาการของไตล่าช้า จากการค้นพบนี้ยังได้รับการสนับสนุนการศึกษาอย่างต่อเนื่องในปี 2009 มาโดยตลอดโดยชาวออสเตรีย→4,5

3. ส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของเซลล์

ได้มีการทำการทดลอง ของกลุ่มนักเรียน 9 graders ในเดนมาร์ก โดยทำการทดลองนอนกับโทรศัพท์มือถือของพวกเขาโดยนำมือถือมาวางไว้ใกล้หัวของพวกเขาระหว่างนอนหลับ จากการทดลองค้นพบว่า การวางมือถือไว้ใกล้ตัว ทำให้พวกเขาประสบปัญหาในการนอนไม่หลับมากขึ้น และหลังจากนั้นพวกเขาดำเนินการทดลองอีกครั้งเพื่อทดสอบผลกระทบของ Wi-Fi routers ในสวนทดลอง โดย ชุดที่หนึ่ง พืชที่ถูกปลูกจะอยู่ในห้องพักที่ไม่มี Wi-Fi routers และเป็นห้องพักที่ไม่ถูกคลื่น Wi-Fi รบกวน และชุดที่สองโดยปลูกพืชอยู่ติดกับ 2 Wi-Fi routers เครื่องหนึ่งปล่อยสัญญาณ Wi-Fi ปกติ และอีกเครื่องเซตค่าคลื่นความถี่ที่ปล่อยออกมาเท่ากับจำนวนเดียวกันกับรังสีที่โทรศัพท์มือถือ ผลที่ได้จากการทดลองคือ พืชที่ใกล้ Wi-Fi routers ที่สุดไม่ได้เติบโต →6

4. ทำลายการทำงานของสมอง

จากการทดลองของนักเรียนในเดนมาร์ก ส่งผลให้นักวิทยาศาตร์ตื่นตัวในเรื่องนี้มากขึ้น นักวิทยาศาสตร์ได้เริ่มมองไปถึงผลกระทบของคลื่นความถี่ 4G ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการทำงานของสมอง ทดลองโดยใช้เทคโนโลยี MRI จากการวิจัยที่ดำเนินการเพียงแค่ปีที่ผ่านมา พบว่าการสัมผัสกับรังสีหรือคลื่นความถี่ระดับ 4G มีผลทำให้การทำงานของสมองลดลง →7

5. ลดการทำงานของสมองในเพศหญิง

ได้มีการทำการทดลองของกลุ่มอาสาสมัครสุขภาพดีจำนวน 30 คน , เป็นชาย 15 คนและหญิง 15 คน, โดยเข้ารับการทดสอบหน่วยความจำแบบง่ายๆ ครั้งแรก ทั้งกลุ่มได้รับการทดสอบโดยไม่สัมผัสกับรังสี Wi-Fi ใด ๆ ผลการทดลองที่ได้ “ไม่มีปัญหา” จากนั้นทั้งกลุ่มพวกเขาได้สัมผัสถึงคลื่น 2.4 GHz และมี Wi-Fi เชื่อมต่อ ใช่เวลาทดลองประมาณ 45 นาที จากการทดสอบพบว่าการทำงานของสมองที่วัดได้ ผู้หญิงมีการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจนกว่าผู้ชายในการทำงานของสมองและระดับพลังงาน →8

6. คุณภาพของสเปิร์มลดลง

เป็นที่รู้ๆ กันมาเป็นเวลานานแล้วว่าความร้อนที่เกิดจากแล็ปท็อปฆ่าสเปิร์มได้ จากการวิจัยพบว่าการสัมผัสกับความถี่ Wi-Fi ลดการเคลื่อนไหวการแหวกว่ายของสเปิร์มอสุจิและพบว่าทำให้อสุจิมีปัญหา DNA fragmentation คือมีการแตกหักของสารพันธุกรรมในส่วนหัวของตัวอสุจิ เมื่อนำไปผสมกับไข่ จะทำให้ได้ตัวอ่อนที่มีคุณภาพไม่ดี จึงทำให้อัตราการฝังตัวลดลง ได้มีการทดสอบทั้งมนุษย์และสัตว์ ได้รับการยืนยันแล้วว่าส่งผลกระทบต่อสเปิร์ม →9,10,11

7. ส่งผลกระทบต่อการเจริญพันธุ์

ผลของการศึกษาวิจัย ผลกระทบที่เกิดไม่ใช่แค่สเปิร์มเท่านั้น แต่การการทดลองทั้งในคนและสัตว์แสดงให้เห็นว่าความถี่ไร้สาย เจ้า Wi-Fi มีผลกระทบต่อการพัฒนาการของไข่ในรังไข่และการฝังตัวของไข่ →12,13

“Karolinska” สถาบันในสวีเดนได้ออกคำเตือนในปี 2011 ในเรื่องนี้ โดยระบุไว้ว่า:

  • หญิงที่ตั้งครรภ์ควรที่จะหลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ไร้สาย (wireless devices) ที่ตัวเองและควรห่างไกลจากผู้ใช้คนอื่น ๆ
  • ในปัจจุบันที่ สหรัฐฯ และแคนาดา มาตรฐานสำหรับความถี่ คลื่นวิทยุและรังสีไมโครเวฟจากเทคโนโลยีไร้สายนั้น ยังควบคุมได้ไม่เพียงพอ และในเรื่องมาตรฐานของความปลอดภัยของพัฒนาการในทารกในครรภ์จากผลกระทบของเทคโนโลยีไม่มีมาตรการเท่าที่ควร
8. กระตุ้นให้เกิดความเครียดและหัวใจเต้นผิดจังหวะ

จากการศึกษาที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ 69 วิจัย รายงานว่า จำนวนของคนที่เข้ารับการทดลองกับคลื่นความถี่เหล่านี้มีการตอบสนองทางกายภาพจริง สิ่งที่ตอบสนองทางกายภาพในการทดลองนี้คือ อัตราการเต้นหัวใจเพิ่มขึ้น – รวมไปถึงอัตราการเต้นหัวใจของบุคคลภายใต้ความเครียด →14

9. อาจก่อให้เกิดมะเร็ง??

เราไม่สามารถละเลยที่ความคิดที่ว่าคลื่นเหล่านี้อาจก่อให้เกิดมะเร็ง จากการทดลองในสัตว์ทดลองแสดงให้เห็นว่าการสัมผัสกับรังสี หรือคลื่นเหล่านี้จะเพิ่มความเสี่ยงของการพัฒนาเนื้องอก ในขณะที่การศึกษาของมนุษย์ยังมีรายงานค่อนข้างน้อยและแต่ก็มีกรณีศึกษาเพิ่มขึ้นมากมาย มีตัวอย่างของคนไข้รายหนึ่ง หนึ่งในกรณีดังกล่าวเป็นผู้หญิง 21 ปี เธอเป็นมะเร็งเต้านม ซึ่งกรณีนี้ไม่ซ้ำใครคือประวัติครอบครัวของเธอไม่มีใครเป็นมะเร็งเต้านมมาก่อนเลย ในเคสคนไข้รายนี้มีข้อสงสัยที่ว่า เธอได้รับการพัฒนาเนื้องอกจนกลายเป็นมะเร็งในที่สุด จากการที่เธอเก็บโทรศัพท์มือถือของเธอไว้ในชุดชั้นในของเธอ ก็ยังเป็นข้อสงสัยกันอยู่ว่าคลื่นเหล่านี้อาจจะเพิ่มความเสี่ยงของการพัฒนาเนื้องอกก็เป็นได้ →15

10. วิธีที่เราสามารถป้องกันตัวเองจากคลื่นเหล่านี้

จำกัด ปิด-เปิดรับ และอยู่อย่างมีสุขภาพที่ดี: มันค่อนข้างยากนิดหนึ่ง ที่จะหลีกเลี่ยงได้ทั้งหมด วิธีที่จะทำได้คือวางโทรศัพท์มือถือแล็ปท็อปและแท็บเล็ตให้ไกลจากร่างกายคุณ หลังจากที่ไม่ใช้มันแล้วก็ปิดการใช้งาน รวมทั้ง wireless router ด้วย ไม่ว่าจะเป็นตอนเข้านอน ไม่ควรวางมือถือไว้ใกล้ตัว ใกล้ศรีษะ หรือวางใต้หมอน พยายามไม่ใช้งานเป็นเวลานาน →16,17,18,19,20

คำสำคัญ (Tags): #ความรู้
หมายเลขบันทึก: 603603เขียนเมื่อ 17 มีนาคม 2016 00:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 มีนาคม 2016 00:54 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท