อาจารย์ จิรพร สุเมธีประสิทธิ์
นับเป็นเวลา 12 ปีกว่าแล้วที่บริษัทยักษ์ใหญ่รายหนึ่งของโลกที่ชื่อ Enron ล่มสลายไปจากวงการธุรกิจ พร้อมกับทั้งลากกิจการอื่นที่เกี่ยวข้อง สร้างตำนานของกิจการที่ร่วมมือกับผู้สอบบัญชี ที่ปรึกษา สถาบันการเงินเจ้าหนี้ และพวกพ้องในการทุจริต ฉ้อฉลรายใหญ่ที่สุดของโลก
แต่ปรากฏว่าน้อยคนนักที่จะรับรู้ในองค์รวมว่าการล่มสลายของ Enron มาจากอะไร นอกเหนือจากการทุจริตทางบัญชี ตกแต่งรายการทางบัญชี และไม่ค่อยมีใครที่เปรียบเทียบสถานการณ์ของ Enron กับวิกฤติการณ์ทางการเงินในสหรัฐเมื่อปี 2007-2008
ประการที่ 1
การตกแต่งทางบัญชีไม่ใช่จากรากเหง้าของปัญหาการทุจริตและจรรยาบรรณวิบัติ หากแต่เป็นเพียงผลที่เกิดจากความล้มเหลวเชิงบริหาร และความโลภแบบไม่ลืมหูลืมตาของผู้ที่มีส่วนได้เสียเท่านั้น ยังต้องระบุรากเหง้าของปัญหาและสาเหตุให้ชัดเจนลงไปอีกชั้นหนึ่ง
ประการที่ 2
ความล้มเหลวและการล่มสลายของ Enron ไม่ได้ถูกใช้เป็นบทเรียนในการเรียนรู้ของกิจการอื่นๆ มากนัก เพราะหลังจากนั้น ก็ยังเกิดพฤติกรรมของการฉ้อฉล และทุจริตแบบเดียวกันในกิจการอื่นอีกหลายกิจการ
ประการที่ 3
เหตุผลที่ Enron เป็นตำนานของโลก
ผู้บริหารในตำแหน่ง CFO ชื่อ Andrew Fastow ได้รับรางวัลในปี 1999 ในฐานะสุดยอด Creative CFO และCFO Magazine
ในเดือนกันยายน 2001 เพียงเดือนเดียวก่อนการล่มสลาย Enron อยู่ในรายชื่อของ 50 บริษัทในสหรัฐที่มีการเติบโตรวดเร็วที่สุด
ขณะเดียวกัน พฤติกรรมจรรยาบรรณวิบัติร้ายแรงของผู้บริหาร Enron ก็สร้างกระแสความตื่นตัวออกไปทั่วโลก
ประการที่ 4
นักวิจัยได้ยกเรื่องของ Enron ขึ้นมาสู่การศึกษาในหลากหลายประเด็นด้วยกัน เช่น
ประการที่ 5
มีการศึกษาน้อยมากที่ทำให้เห็นภาพรวมทั้งหมดของพฤติกรรมจรรยาบรรณวิบัติ และการทุจริตทั้งหลายที่เกิดขึ้นกับ Enron เพราะลำพังการศึกษาแต่ละเรื่องก็มีรายละเอียดมากมายและต้องใช้เวลาในการศึกษาไม่ใช่น้อย และล้วนแต่มีส่วนต่อการล่มสลายของกิจการของ Enron ทั้งสิ้น
ที่สำคัญมีการสรุปเป็นบทเรียนเพื่อการเรียนรู้เพียงบางด้าน ไม่ได้สรุปภาพทั้งหมด เพราะขอบเขตของการทำพฤติกรรมจรรยาบรรณวิบัติ เกี่ยวข้องกับธุรกรรมหลากหลาย มีขอบเขตกระจายในหลายประเทศ ในนิติบุคคลเป็นพันกิจการ
ทุกวันนี้ จึงมีการพยายามค้นหาข้อมูลทั้งหมดของ Enron กันเป็น key word ในการสืบค้นที่อยู่ในลำดับต้นๆ บนโลกอินเทอร์เน็ต
ประการที่ 6
การกำกับดูแลที่ไม่มีธรรมภิบาล ไร้จริยธรรมทางธุรกิจคือหัวใจของปัญหา
ซึ่งในเวลาต่อมาได้เปลี่ยนเป็นมูลเหตุในการปั่นราคาหุ้น เพื่อทำกำไรจากหุ้นที่ได้รับตามสิทธิ และเพื่อให้ผลตอบแทนจากตำแหน่งปรับตามผลของราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้น
โดยที่ Enron ยังคงมีอำนาจในการบริหารจัดการ SPEs โดยไม่ให้เกิด True Sales อย่างแท้จริง และไม่ได้รวมรายการธุรกรรมที่เกิดกับ SPEs กลับเข้ามารวมไว้ในงบการเงิน (Consolidated in Balance Sheet) เพราะมีการสร้างรายการให้มีนักลงทุนภายนอกเข้ามาลงทุนใน SPEs เกินกว่า 3% ตามเงื่อนไขของมาตรฐาน
3.1 ตราสารหรือเงื่อนไขของสัญญาที่มีลักษณะการจ่ายเงินก่อน เป็น Prepaid operation เพื่อให้ Enron นำเอารายได้มาบันทึกเป็นผลดำเนินงานของกิจการได้
3.2 ตราสารหรือเงื่อนไขของสัญญาที่มีลักษณะ Sale and Purchase ในโครงการที่ไม่สามารถสร้างรายได้จริง เพื่อให้ Enron ไม่ต้องรับภาระหรือไม่ต้องมีความรับผิดชอบ แต่ยังสามารถบันทึกรายการทรัพย์สินที่ขายออกไปแล้วไว้ในงบการเงินของ Enron ได้ต่อไป และไม่ทำให้ฐานะด้านสินทรัพย์ของ Enron ด้อยลง
เงื่อนไข Prepaid operation ใช้กับสัญญาซื้อโภคภัณฑ์ล่วงหน้า เพื่อให้เห็นว่าผู้ขายโภคภัณฑ์แก่ Enron มีความรับผิดชอบต้องจัดหาโภคภัณฑ์มาป้อนให้แก่ Enron ในช่วงระยะเวลาสัญญาที่ยาวนานมาก หากราคาโภคภัณฑ์เพิ่มขึ้น Enron จะมีกำไร ซึ่งจะทำกับโภคภัณฑ์ที่คาดว่าจะมีราคาสูงขึ้น
จากการที่ช่วงเวลาของสัญญาล่วงหน้านานมาก Enron สามารถใช้หลักการในการตั้งสมมติฐานที่เหมาะสม ในการตีค่าของโภคภัณฑ์ตามสัญญาได้เอง หากเป็นการตีราคาว่าโภคภัณฑ์ที่ตกลงซื้อล่วงหน้าไว้จะมีราคาสูงขึ้น Enron ก็สามารถรับรู้กำไร (ที่ไม่จริง) เหล่านี้ได้ทุกปี
ในทางตรงกันข้าม หากเห็นว่าราคาโภคภัณฑ์ที่ตกลงล่วงหน้าจะลดลง Enron ก็จะกลายเป็นฝ่ายขายโภคภัณฑ์นั้นแก่ SPEs และการที่ราคาต้นทุนในอนาคตลดลงก็เท่ากับราคาขายที่ตกลงล่วงหน้าดีกว่าราคาจริงในตลาด ซึ่งทำให้ Enron สามารถบันทึกกำไรได้ เพราะสามารถซื้อโภคภัณฑ์ในราคาต่ำลงไปส่งมอบด้วนราคาล่วงหน้าที่สูง
SPEs ที่ตกลงรับซื้อโภคภัณฑ์ (ก๊าซ) จาก Enron จะไปตกลงขายต่อให้แก่ธนาคารเพื่อการลงทุน โดยมีตารางการส่งมอบในอนาคต และธนาคารเพื่อการลงทุนก็จะนำโภคภัณฑ์ชุดเดียวกันไปขายคืนแก่บริษัท Enron ด้วยเงื่อนไขการรับเงินค่าสินค้าในอนาคต แทนที่จะเป็นการจ่ายล่วงหน้า
การดำเนินการเช่นนี้ ทำให้ธนาคารเพื่อการลงทุนรับภาระความเสี่ยงเพราะขึ้นกับราคาของโภคภัณฑ์ในอนาคต
เพื่อที่จะแสดงว่าได้มีการป้องกันความเสี่ยง (Hedging) บริษัท Enron จึงทำสัญญาอนุพันธ์ประเภท Swap กับธนาคารเพื่อการลงทุน ตกลงจ่ายเงินค่าโภคภัณฑ์ในราคาคงที่ เพื่อถ่ายโอนความเสี่ยงด้านราคาโภคภัณฑ์ออกไปที่ธนาคารที่รับ Swap ทำให้ Enron ไม่ต้องรับรู้ความเสี่ยงนี้
พฤติกรรมทั้งหมดนี้
มูลค่าของ Prepaid Transaction คาดว่าจะอยู่ในราว 8,600 ล้านดอลลาร์ กับธนาคาร Chase Manhattan ผ่าน Mahonia Entity และธนาคาร Citigroup ผ่าน Delta Entity ส่วนพฤติกรรม Sale and Re-Purchase ในโครงการที่ไม่ทำกำไร
Enron ใช้วิธีการนี้ขายสินทรัพย์ที่เป็นโครงการผลิตไฟฟ้าในบราซิล
บางกรณี Enron อาจจะทำการขายสินทรัพย์ไม่ทำรายได้นั้นตรงแก่ธนาคารเพื่อการลงทุนโดยตั้งเงื่อนไขจะซื้อคืน
ผลประโยชน์ที่เกิดขึ้น
ไม่มีความเห็น