การเริ่มต้นกู้เงินธนาคาร SME
ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (SME) เริ่มทำธุรกิจจากเงินก้อยของตนเอง แต่เมื่อธุรกิจเริ่มขยาย ความต้องการเงินทุนเพิ่มหรือเงินทุนหมุนเวียนก็จะตามมา การติดต่อขอกู้เงินจากธนาคารจึงเป็นทางเลือกที่ดี แต่ธนาคารก็มีปัจจัยการพิจารณาหลายข้อ ทั้งโอกาสของธุรกิจที่มาขอสินเชื่อ คุณสมบัติของผู้ประกอบการทั้งด้านความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ และความซื่อสัตย์ ดังนั้นปัจจัยส่วนใหญ่ที่ธนาคารพิจารณาให้สินเชื่อธุรกิจ SME มีดังนี้
1 ธุรกิจผ่านการพิสูจน์ความสำเร็จมาแล้ว
ในการเริ่มต้นธุรกิจจำเป็นต้องใช้เงินทุนจากเจ้าของในเบื้องต้น เมื่อถึงจุดที่ต้องการขยายงานแล้ว ธนาคารจะพิจารณาเพื่อให้เงินกู้กับธุรกิจที่ได้มีการดำเนินจริงแล้วมาระยะหนึ่งประมาณ 2 ปี ขึ้นไป
2 แผนธุรกิจที่ชัดเจน
การขอสินเชื่อควรมีการนำเสนออย่างชัดเจนว่า สินค้าหรือบริการของธุรกิจคืออะไร รายได้ ลูกค้า ต้นทุน กำไร แหล่งเงินทุน และการบริหารเป็นอย่างไร เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก้ธนาคารถึงความสำเร็จของธุรกิจ
3 ทำบัญชี งบการเงิน รายรับ-รายจ่าย ให้ถูกต้อง
ธนาคารจะของดูงบการเงินของบริษัท หากไม่ได้เป็นในรูปของบริษัทธนาคารจะขอดูการเดินบัญชีของผู้ประกอบการว่าที่ผ่านมามี รายรับ-รายจ่าย เข้ามาตามที่ประมาณการหรือแจ้งไว้หรือไม่ บางครั้งธุรกิจเล็กๆที่มีเจ้าของคนเดียวอาจจะนำเงินส่วนตัวเข้ามาปะปนกับบัญชี รายรับ-รายจ่าย ซึ่งไม่เป็นผลดี ดังนั้นผู้ประกอบการควรเริ่มแบ่งบัญชีบริษัทออกมาให้ชัดเจน
4 แผนการใช้เงินกู้ธนาคาร
เป็นการบอกเหตุผลทำไมบริษัทถึงต้องกู้ธนาคาร โดยมากจะมี 2 ลักษณะ คือ กู้เพื่อเป็นเงินลงทุนขยายงาน เช่น ขยายโรงงาน ซื้อเครื่องจักร ฯลฯ หรือ เป็นเงินทุนหมุนเวียน เช่น วงเงินเบิกเกินบัญชี วงเงินสินเชื่อเพื่อการนำเข้า-ส่งออก เป็นต้น
5 มีประวัติการเงินที่แสดงถึงความซื่อสัตย์
เนื่องจากปัจจุบันสถาบันการเงินหลักๆทั้งธนาคาร ลิสซิ่ง บัตรเครดิต ล้วนเป็นสมาชิกของ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด หรือ เครดิตบูโร การที่บริษัทหรือบุคคลที่เป็นผู้ประกอบการ ผิดนัดชำระหนี้กับสถาบันการเงินเหล่านี้ มีผลทำให้ธนาคารไม่สามารถอนุมัติปล่อยเงินกู้ให้แก่บริษัทหรือบุคคลนั้นๆได้ จนกว่าข้อมูลการผิดชำระหนี้นั้นจะถูกลบจากเครดิตบูโร ซึ่งใช้เวลาถึง 3-5 ปี ทำให้เสียโอกาสในการขยายธุรกิจได้
แหล่งอ้างอิง: http://www.pattanakit.net/.html
ไม่มีความเห็น