ทำไมพระสงฆ์ไทยโกนคิ้ว?


จากบทความของคุณ Kornkit Disthan : https://www.facebook.com/kornkitd/posts/1015312651...

นี่เป็นคำถามโลกแตกอีกคำถามหนึ่งผมเองก็อยากรู้เลยพยายามหาคำตอบ ลองดูเล่นๆ พบว่ามีแต่คำตอบที่เชื่อถือได้ยากเช่นโกนคิ้วเพราะต้องการแยกพระไทยจากสายลับพม่าที่ปลอมเป็นพระเข้ามา สืบความลับ (อันนี้เหตุผลอ่อนมากซึ่งผมจะอธิบายต่อไป) หรือโกนเพราะป้องกันไม่ให้เจ้ากูยักคิ้วหลิ่วตาหยอกสีกา (แต่ไม่มีคิ้วก็น่าจะหยอกได้มิใช่หรือ)

แม้แต่ฝรั่งมังค่าก็เชื่อว่า พระไทยโกนคิ้วเพราะเรื่องสายลับพม่าปลอมเป็นพระเข้ามา ทั้งๆที่ไม่มีหลักฐานยืนยันเป็นตัวเป็นตน

ผมเลยลองสืบดูเอง เริ่มจากเอกสารของนักเดินทางตะวันตกในสมัยอยุธยาก่อน

ผมยังไม่พบข้อมูลเรื่องพระสงฆ์องคเจ้ามากนักในบันทึกของนักเดินทางรุ่นแรกอย่างฟืร์นาว เมนดืช ปินตู (Fernão Mendes Pinto) และฌัก เดอ กูตร์ (Jacques de Coutre) หากท่านใดพบข้อมูลจะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง

มาเริ่มกันที่วิลันดาก่อน เพราะรายละเอียดถี่ยิบ พบว่าหนังสือของ โยสต์ เชาเทน (Joost Schouten) นายห้างวิลันดาบริษัท VOC บอกแค่ว่า พระสงฆ์โกนศีรษะและห่มเหลือง หนังสือของเยเรเมียส ฟานฟลีต (Jeremias van Vliet) นายห้าง VOC รุ่นต่อมาก็บอกแค่ว่า พระสงฆ์โกนศีรษะ ทั้ง 2 คนนี้อยู่ร่วมยุคสมเด็จพระเจ้าทรงธรรมกับสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง

แต่ต่อมาในสมัยสมเด็จพระนารายณ์ นิโกลา แฌแวส (Nicolas Gervaise) บาทหลวงตาชารด์ (Guy Tachard) และลา ลูแบร์ (Simon de la Loubère) ล้วนแต่บรรยายว่าพระสงฆ์สมัยอยุธยาโกนคิ้ว

หลักฐานเท่านี้ยังสรุปไม่ได้ว่า พระไทยโกนคิ้วตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่อย่างน้อยพอจะรู้แล้วว่ามีหลักฐานตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์ลงมา

ในสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ทรงส่งพระอุบาลีไปตั้งพระศาสนาใหม่ที่ลังกา กลายเป็นนิกายสยามวงศ์ ทุกวันนี้นิกายสยามวงศ์ยังโกนคิ้ว ต่างจากนิกายอมรปุร (พม่ามาช่วยตั้ง) และนิกายรามัญ (มอญช่วยตั้ง) ซึ่งไว้คิ้ว (และขัดแย้งกันเรื่องโกน/ไม่โกนคิ้วเสียด้วย) ข้อมูลนี้แน่ชัดแล้วว่าโกนคิ้วกันมาตั้งแต่ปลายสมัยอยุธยา

จากนิกายสยามวงศ์ของลังกา ยังมีพระลาวและกัมพูชาก็โกนคิ้ว บางท่านว่าเพราะอิทธิพลของไทย อันนี้ผมไม่ปักใจเชื่อ

ส่วนสาเหตุที่บอกว่าโกนเพราะป้องกันสายลับพม่าปลอมเป็นพระเข้ามาสืบความลับก็ฟังไม่ขึ้น เพราะถ้าจะปลอมตัวเข้ามาเป็นสายลับทั้งที แค่โกนคิ้วทำไมสายลับจะโกนให้เหมือนไม่ได้ ถ้าจะดูความต่างที่สีจีวร หรือการห่มจีวรก็ว่าไปอย่าง เพราะพระพม่าห่มดองดึงผ้าเป็นคอเต่าแตกต่างจากพระไทยอย่างชัดเจน

เรื่องสีจีวร สมัยอยุธยาฝรั่งบันทึกว่า ครองจีวรสีเหลืองส่วนพม่าทุกวันนี้ครองจีวรสีกรักแดง อย่างไรก็ตาม จากภาพเขียนยุคราชวงศ์โคนบ่อง พบว่าพระพม่าครองจีวรสีเหลืองเหมือนไทยนี่แหละครับ เพิ่งจะมาเปลี่ยนสีเมื่อช่วงสงครามโลกพราะการผลิตเชิงอุตสาหกรรม

แล้วสาเหตุของการโกนคิ้วควรเป็นเพราะอะไร?

นักวิชาการด้านศาสนาบางคนไม่ได้มองเรื่องสายลับพม่าเลย เพราะไม่มีหลักฐานและเหตุผลเบา แต่มองที่เหตุผลด้านพระวินัย โดยชี้ว่าฝ่ายไทยน่าจะตีความพระวินัยอย่างเคร่งครัดเรื่องการโกนผมหรือขนบนใบหน้า แม้ว่าพระวินัยจะไม่ระบุชัดเจน แต่อรรถกถาพระวินัยอธิบายว่าควรจะโกนคิ้ว โกนหนวด (สมันตปาสาทิกา อรรถกถาพระวินัยกล่าวว่า - วินิจฉัยในข้อ น ภิกฺขเว ปลิตํ คาหาเปตพฺพํ นี้ พึงทราบดังนี้ :- ขนใดขึ้นที่คิ้ว หรือที่หน้าผาก หรือที่ดงหนวด เป็นของน่าเกลียด ขนเช่นนั้นก็ตาม จะหงอกก็ตาม ไม่หงอกก็ตาม สมควรถอนเสีย) ส่วนพม่าปฏิบัติตามพระวินัยเป๊ะๆ คือไม่มีข้อบัญญัติให้โกนท่านก็ไม่โกน

พระพรหมคุณาภรณ์ ป.อ.ปยุตฺโต แสดงทัศนะไว้ในหนังสือ "กรณีสันติอโศก" ว่า “การที่พระสงฆ์ไทยโกนคิ้วนั้นสันนิษฐานได้อย่างหนึ่งว่า จะให้พระภิกษุต่างจากคฤหัสถ์ที่โกนหัว ซึ่งโกนแต่ผมอย่างเดียว อันเป็นที่นิยมกันบ้างในคนบางหมู่บางพวกบางยุคบางสมัย การทำเช่นนี้จะเป็นการช่วยป้องกันไม่ให้ภิกษุสามเณรบางรูปที่คะนองปลอมตัวเป็นคฤหัสถ์ไปในที่ต่าง ๆ เป็นเครื่องช่วยคุมไว้อีกชั้นหนึ่ง ในกรณีที่เป็นเช่นนี้ก็จัดได้ว่าเป็นประเพณีเสริมพระวินัย”

ข้อสันนิษฐานของพระเดชพระคุณมีความเป็นไปได้มากที่สุด เพราะก่อนรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เวลาเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินสิ้นพระชนม์/สวรรคต ราษฎรทั้งชายหญิงจะต้องโกนศีรษะไว้ทุกข์ถ้าเป็นเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ให้เฉพาะคนในสังกัดโกนไว้ทุกข์บางสมัยสิ้นชีพในเวลาไล่เลี่ยกัน นอกจากนี้ พ่อแม่ตายไปลูกก็มักโกน สามีตายภรรยาก็มักโกน โกนกันบ่อยๆ ทำให้ประชาชนต้องตัดผมสั้นไปโดยปริยาย (และไม่แน่ว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้หญิงไทยสมัยก่อนต้องตัดผมสั้น ไม่ใช่เพราะภัยสงครามเท่านั้น) พอโกนกันบ่อยๆ พวกมิจฉาชีพปลอมเป็นพระหากินกับศาสนาก็มีขึ้นมา หรือพระปลอมตัวเป็นโยมไปเที่ยวคะนองก็มี

ที่สำคัญ ในสมัยก่อนมีการลงโทษโกนศีรษะประจานทั้งชายหญิงโดยเฉพาะผู้หญิง (ในบันทึกของฝรั่งสมัยอยุธยาก็ย้ำว่ารูปชีก็ต้องโกนคิ้ว) ดังนั้นอาจต้องมีการโกนคิ้วให้เจ้ากูหรือรูปชีแตกต่างจากพวกคนโทษ

นอกจากนี้ ที่พระเดชพระคุณท่านว่าช่วยเสริมพระวินัยก็เข้าเค้าเพราะมีผู้เสนอว่าพระไทยโกนเนื่องจากตีความพระวินัยในเชิงลึก (เรื่องนี้เป็นประเด็นถกเถียงในศรีลังกามาก เพราะมีนิกายที่รับมาจาก 2 ประเทศอยู่ร่วมกัน ต่างนิกายเถียงกันว่าควรหรือไม่ควรโกนคิ้ว)

ดังนั้นโกนคิ้วเพราะอะไร เมื่อไหร่ยังไม่ชัวร์ แต่ส่วนตัวผู้เขียนคิดว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับตำนานเรื่องสายลับพม่าหรือพระยักคิ้วหลิ่วตาแน่ๆ

ภาพจากคัมภีร์พระโยคาวจร (Yogavacara) อายุราวพุทธศตวรรษที่ 23 (สมัยอยุธยา?) สมบัติของ The British Library


คำสำคัญ (Tags): #ว่าไป
หมายเลขบันทึก: 598016เขียนเมื่อ 1 ธันวาคม 2015 18:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 1 ธันวาคม 2015 18:48 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

น่าสนใจมากเลยครับ

จริงด้วย ผมยังไม่ทราบเหมือนกันครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท