ช่วงวัยเด็กในราวสี่สิบกว่าปีมาแล้วจำได้ว่าไปดูหนังกลางแปลง( ภาพยนตร์ )เป็นหนังขายยาอยู่ลานวัดบ้านนอกไร้ไฟฟ้าผู้คนที่ไปดูหนังก็เดินไปในความมืดอาศัยแสงเดือนดาวบนท้องฟ้าบ้างหรือไม่ก็มีแสงจากตะเกียงน้ำมันก๊าดบางคนก็มีแสงไฟจากขี้ไต้หรือกะบองในภาษาท้องถิ่นอีสาน เขตจังหวัดนครพนม ภายในบริเวณวัดจะมีคนมานั่งขายของและดูหนังไปด้วย
เวลาหนังฉายไปได้สักพักก็หยุดเปิดไฟสว่างจ้าแล้วนักพากย์หนังก็โฆษณาขายของแล้วก็ฉายหนังต่อไปสลับกันไปอยู่อย่างนี้จนจบเรื่องก็หลังเที่ยงคืนเข้าไปแล้ว หนังที่ดูในสมัยนั้นจำได้ว่าชื่อบ้านโนนจำปามีนายคำสิงเป็นพระเอกของเรื่องเป็นเรื่องราวระหว่างพระเอกกับโจรต่อสู้กัน
ช่วงหนังขายยาพวกเด็กจะวิ่งไล่หยอกกันฝุ่นตะหลบเห็นได้จากแสงไฟของเครื่องปั้นไฟที่นายหนังเปิดเพื่อขายยา หลังจากหนังเลิกแล้วพวกเราก็เดินกลับบ้านเข้านอนไปตื่นอีกทีก็ตะวันสายแล้ว ยามเช้า ๆ เราจะเห็นภาพการไล่ฝูงควายออกจากแหล่งมีเจ้าของควายถือไม้ไล่ควายอยู่ด้านหลังเพื่อให้มันออกไปท้องทุ่งนากว้างรอบ ๆ หมู่บ้าน
ยามบ่ายใกล้ค่ำของวันหนึ่งขณะผมอยู่บ้านไม่ได้ไปโรงเรียนที่เป็นศาลาวัดมีเรียนชั้น ป. 1 ถึง ป. 4 ถ้าจำไม่ผิดวันนั้นคงเป็นวันเสาร์มีเสียงปืนดังมาจากในหมู่บ้านและมีเสียงคนร้องไห้หลังจากนั้นประมาณ 30 นาทีก็มีเสียงคนพูดจากันต่อมาจึงรู้ว่ามีกลุ่มโจรมาปล้นบ้านลุงกำนันรอด นิวงษา แห่งบ้านสะพังวันนั้นลูกสาวลุงกำนันถูกโจรมัดไว้แล้วค้นหาเอาทรัพย์ภายในบ้านติดตัวไป เมื่อลุงกำนันกลับมาก็สายเสียแล้วเพราะพวกโจรไปไกลแล้วหายเงียบไปกลายเป็นตำนานว่าเมื่อโจรปล้นบ้านใครต้องยิงปืนขู่ไว้ไม่ให้ใครเข้ามายุ่งเกี่ยว
ต่อมาอีกไม่นานได้มีกลุ่มโจรขึ้นภายในหมู่บ้านอาจเป็นด้วยต้องการประกาศว่าบ้านข้าใครอย่าเข้ามาปล้นนะหรืออย่างไรไม่ทราบและกลุ่มโจรนี้เมื่อมีพวกมากก็รวมตัวกันได้ไปจับเจ้าของโรงเลื่อยเอามากักขังไว้ริมลำห้วยเพื่อเรียกค่าไถ่และอยู่มาไม่นานขณะกลุ่มโจรนี้ประมาณ 9 คนนั่งรถกะบะไปพร้อมกับสายตำรวจเข้าใจว่าคงกำลังจะไปปล้นแล้วคนที่เป็นสายตำรวจนั้นเขาโกนหัวโล้นเลยเพื่อเป็นสัญลักษณ์พอไปถึงระหว่างทางกลุ่มโจรพวกนี้ก็โดนยิงถล่มตายหมดทั้ง 9 คนเหลือคนที่เป็นสายให้ตำรวจที่ไม่โดนยิงถือว่าปิดตำนานกลุ่มโจรบ้านนอกกลุ่มนี้โดยไม่มีใครกล่าวถึงอีกเลย
ไม่มีความเห็น