โสภณ เปียสนิท
นาย โสภณ เปียสนิท ตึ๋ง เปียสนิท

​พุทธศาสนาแหล่งวัฒนธรรมของชาติไทย


โสภณ เปียสนิท

…………………………………

ยามเช้าต้นเดือนพฤศจิกายน ลมหนาวโรยรินบางเบา ฝนยังคงโปรยปรายบางครั้งหนัก บางครั้งเบา แผ่นดินยังคงชุ่มน้ำพื้นหญ้าเขียวขจี ต้นลั่นทมหรือลีลาวดีที่ตัดกิ่งมาปลูกไว้รอบอาคารหลังใหม่เมื่อสามเดือนก่อนเริ่มแตกยอมด ออกดอกมาให้เห็นบ้างแล้ว แม้จะปลูกปลายฝนไปหน่อย แต่ต้นลั่นทม หรือลีลาวดีมีธรรมชาติอดทน และงอกงามง่ายจึงเติบโตได้ดีแข่งกับวัชพืชอื่นอีกมากมายบนลานดินรอบตึกหลังใหญ่

ยามลมหนาวโชยมามองเห็นยอดหญ้าพลิ้วไหวอ่อนโยนโยกไกวไปมา ปลายฝนต้นหนาวอีกคราแล้ว นั่งริมหน้าต่างอาคารหลังใหม่ของที่ทำงานมองไปไกลเลยขายฝั่งทะเลหัวหิน เห็นน้ำทะเลสงบสีครามยาวไกลไม่รู้ว่าสิ้นสุดลงที่ตรงไหน ทะเลก็เป็นอย่างนี้ บางครั้งดูสว่างสดใสสวยงามยาวไกลสุดสายตา บางคราวมืดครึ้มมองไม่เห็นขอบฟ้าน่าหดหูใจ ยามอยู่ไกลใครก็อยากมาเที่ยวท่องท้องทะเล ยามอยู่ใกล้แม้จะหลายปี แต่ก็ไม่ค่อยได้ไปอาบน้ำทะเลสักเท่าไร

คำนึงย้อนกลับไปสมัยเก่าของชาติไทยเรา ค่อยๆก่อร่างสร้างชาติจากชนกลุ่มน้อย หลากหลายกลุ่ม กลุ่มคนพื้นเมืองทั้งสี่ภาค กลุ่มคนอพยพจากทางตอนใต้ของประเทศจีน นัยว่า เป็นกลุ่มเบ้งเฮ็กที่ไม่ค่อยจะยอมอยู่ใต้อำนาจใคร หลังจากเบ้งเฮ็กยอมแพ้ใจขงเบ้ง ยอมแพ้อยู่ใต้อำนาจกลุ่มเล่าปี่โดยสมัครใจ คนในกลุ่มเบ้งเฮ็กมีนิสัยไม่ค่อยยอมใครบางส่วนจึงอพยพหนีออกจากเมืองลงใต้มาเรื่อย

จนมาตั้งรกรากอยู่แถวนี้ปะปนของคนท้องถิ่น นานเข้ากลายเป็นกลุ่มผสมผสาน สร้างวัฒนธรรมเก่าแก่เป็นของแบบไทยๆ โดยมีแรงบันดาลใจจากพุทธศาสนาเป็นหลัก หลังพุทธกาลสองร้อยกว่าปี ครั้งพระเจ้าอโศกบุกตีแดนกลิงคะอย่างหนักหน่วง จึงเกิดการอพยพลงทางใต้ลงมาเรื่อย พุทธศาสนาเผยแพร่ลงมาทางใต้ของอินเดีย ผ่านเข้าสู่ดินแดนสุวรรณภูมิ ซึ่งหมายถึงประเทศต่างๆ ในดินแดนแถบนี้ทั้งหมด พม่า ไทย ลาว เขมร อินโดนีเซีย มาเลเซีย แล้วมาขึ้นฝั่งที่ดินแดนศรีวิชัย หรือแดนใต้ของเรา

อีกสายหนึ่งว่า พระพุทธศาสนาหลังพระเจ้าอโศกสังคายนาแล้วส่งสงฆ์เก้าสายไปเผยแพร่ในดินแดนต่างๆ แดนแถบเรามีพระสงฆ์มาสองรูป คือพระโสณะเถระไปเผยแพร่ที่พม่าเป็นหลัก กับพระอุตตระเถระมาเผยแพร่ในประเทศไทยเป็นหลัก หวังให้พุทธศาสนาดำรงอยู่ไปให้ครบพุทธันดร 5000 ปี ปราชญ์บางท่านสันนิษฐานว่าพระอุตตรเถระ คือหลวงพ่อพระเทพโลกอุดร พระเถราจารย์ในตำนานอันโด่งดังอมตะผ่านยุคสมัยยาวนานในประเทศไทย

ถึงยุคสมัยที่กรุงสุโขทัยรุ่งเรืองเฟื่องฟูพ่อขุนรามสนพระทัยในธรรมถึงกับแต่งองค์ทรงชุดขาวในวันธัมมัสสวนะ แสดงหลักธรรมแก่ประชาชน ครั้นทราบข่าวว่า มีพระสงฆ์มาจากศรีลังกาพระองค์จึงส่งราชฑูตไปนิมนต์เพื่อมาเผยแพร่ธรรมที่สุโขทัยเป็นครั้งแรก และสืบต่อมาจนถึงยุคกรุงศรีอยุธยาพระศาสนาลงหลักปักฐานได้มั่นคงดีแล้ว

พระพุทธศาสนาจึงดำรงอยู่ในประเทศไทยเรายาวนานมั่นคง เป็นปึกแผ่นผสมกับวัฒนธรรมเก่าๆ กลายเป็นวัฒนธรรมไทยหลากหลายด้าน วัฒนธรรมทางภาษา วัฒนธรรมทางอาหาร วัฒนธรรมทางศาสนา วัฒนธรรมทางศิลปะ หรือศิลปวัฒนธรรม วัฒนธรรมทางด้านการแต่งกาย อันเป็นที่เลื่องลือไปทั่วโลกว่า สยามเมืองยิ้ม ศิลปวัฒนธรรมเหล่านี้รวมเป็นความรุ่งเรืองของประเทศไทย ประกอบกับพื้นที่อันอุดมสมบูรณ์ตั้งแต่เหนือจรดใต้ ตะวันออกถึงตะวันตกจนเป็นที่ต้องการของคนต่างถิ่น ต่างวัฒนธรรมต่างชาติต่างศาสนา

ยามเช้าต้นเดือนพฤศจิกายน ลมหนาวโรยรินบางเบา ฝนยังคงโปรยปรายบางครั้งหนัก บางครั้งเบา แผ่นดินยังคงชุ่มน้ำพื้นหญ้าเขียวขจี ต้นลั่นทมหรือลีลาวดีที่ตัดกิ่งมาปลูกไว้รอบอาคารหลังใหม่เมื่อสามเดือนก่อนเริ่มแตกยอมด ออกดอกมาให้เห็นบ้างแล้ว แม้จะปลูกปลายฝนไปหน่อย แต่ต้นลั่นทม หรือลีลาวดีมีธรรมชาติอดทน และงอกงามง่ายจึงเติบโตได้ดีแข่งกับวัชพืชอื่นอีกมากมายบนลานดินรอบตึกหลังใหญ่ ยามลมหนาวโชยมามองเห็นยอดหญ้าพลิ้วไหวอ่อนโยนโยกไกวไปมา ปลายฝนต้นหนาวอีกคราแล้ว นั่งริมหน้าต่างอาคารหลังใหม่ของที่ทำงาน

เพราะวัฒนธรรมที่ดี มีความเป็น “ม้าอารี” ของวัฒนธรรมดั้งเดิม ประเทศไทยจึงมีความเมตตาอารีต่อคนทุกเชื้อชาติศาสนาวัฒนธรรม มิได้เตรียมพร้อมเพื่อการปกป้องรักษาศาสนาวัฒนธรรมของตน ทางหนึ่งดูว่าเราประมาท แต่อีกทางหนึ่งดูว่า เป็นวัฒนธรรมอันอ่อนโยนดีงามเห็นอกเห็นใจต่อผู้แตกต่างทางวัฒนธรรม “ปล่อยให้วัฒนธรรมดั้งเดิมของตนเป็นไปเองตามบุญตามกรรม ไม่ได้ดำเนินการปลูกฝังอนุรักษ์อย่างเป็นระบบให้แข็งแรงยิ่งขึ้น”

การณ์เป็นเช่นนี้ตลอดมา ล่วงลุถึงปัจจุบันวัฒนธรรมดั้งเดิมแม้จะดูว่ายังเจริญรุ่งเรืองอยู่ในดินแดนบ้านเรา แต่เข้มแข็งเพียงภายนอก อ่อนแออยู่ข้างในเพราะไม่มีระบบการป้องกันที่ดี และถูกบ่อนเซาะทำลายจนอ่อนแอในทุกรูปแบบไม่มีการป้องกันรักษาจากทางบ้านเมือง การบ่อนทำลายมาจากทั้งภายในและภายนอก

อันตรายจากภายในคือบริษัทสี่ของพระศาสนาต่างละเลยหน้าที่ของตน ฝ่ายสงฆ์มีสองนิกายใหญ่ เกิดความขัดแย้งอยู่ในที ภายนอกดูสงบเงียบ ภายในเหมือนมีคลื่นใต้น้ำ แย่งตำแหน่งใหญ่ โชคยังดีที่คณะสงฆ์จำนวนไม่น้อยยังยึดถือแนวทางปฏิบัติถูกต้องตามพระธรรมวินัย พาศิษยานุศิษย์ศาสนิกชนให้ปฏิบัติตามอุดมการณ์แห่งพระศาสนาอย่างต่อเนื่องยาวนาน

คนนอกศาสนาเข้าแทรกแซงยุแยงให้แตกแยกกันมากขึ้น โจมตีฝ่ายสงฆ์ในภาพรวม วางแผนระยะยาวเพื่อการยึดครอง ด้วยกำลังเงิน และใช้โลกล้อมประเทศไทย โดยส่งคนของตนเข้าแทรกตัวอยู่ในการเมือง ในหน่วยงานราชการสำคัญๆ และใช้ความอ่อนแอของศาสนาวัฒนธรรมดั้งเดิมที่ขาดกลไลการป้องกันค่อยๆ บ่อนเซาะทำลายในหลายรูปแบบ โดยใช้สื่ออย่างเป็นระบบ

บางศาสนาใช้กลยุทธในการเผยแพร่แบบลึกซึ้งแต่นุ่มนวลค่อยเป็นค่อยไป บางศาสนาใช้กลยุทธนุ่มนวลแระแบบแข็งกร้าวผสมกัน โดยให้บางกลุ่มอ้างความคลุมเครือใช้ความรุ่นแรงฆ่าฟันไล่ตีข่มขู่ให้หวาดกลัว เพื่อเอาเป็นฐานในการต่อรอง และเอาการเมืองเข้าแทรกผสมกัน ขับไล่คนต่างศาสนาให้ออกจากดินแดนเป้าหมาย อีกทางหนึ่งค่อยๆ เข้ายึดครองพื้นที่ในหลายรูปแบบ เช่นการเช่า การเข้าใช้ประโยชน์โดยไม่ต้องขออนุญาตทีละน้อย เพราะคนในวัฒนธรรมเดิมถูกข่มขู่ทำลายจนเกิดความหวาดกลัวทยอยหลบหนีโยกย้ายถิ่นฐานไป

โดยแท้แล้วเพียงเพื่อยึดครองพื้นที่อันอุดมสมบูรณ์ของดินแดนอื่น ส่วนศาสนาวัฒนธรรมนั้นเป็นเพียงผลพลอยได้เท่านั้น มองให้ลึกถึงวัตถุประสงค์ของศาสนาเห็นได้ว่า การอุบัติขึ้นของแต่ศาสนาเพื่อสันติสุขแห่งชีวิตทุกชีวิตบนโลกใบนี้ แต่คนกลับนำศาสนามาเป็นเครื่องมือในการทำลายล้างซึ่งกันและกันให้บาดเจ็บล้มตาย กลายเป็นอ้างศาสนาเพื่อทำลายหลักการ หรืออุดมการณ์อันสูงสุดของศาสนานั้นเอง

ไม่น่าเชื่อว่า คนที่บอกว่าเคร่งศาสนาทำเพื่อต้องการเผยแพร่ศาสนา แต่กลับทำลายหลักการอุดมการณ์อันสูงสุดของศาสนานั้นเสียเอง จำได้ว่า เคยอ่านเรื่องสั้นของตุรกีเรื่องหนึ่ง นักเขียนเล่าว่า เขาไปนั่งดื่มกาแฟอุ่นๆ ในร้านกลางเมืองแห่งหนึ่ง แสงแดดอ่อนละมุนสาดส่องหน้าร้าน คนเต็มร้านกำลังสรวลเสเฮฮากันอย่างมีความสุข ขณะนั้นมีคนกลุ่มคลั่งศาสนาหลายคนยิ่งปืนเข้ามาในร้านอย่างไรความปรานี

เขาวิ่งหลบห่ากระสุนเหมือนกับคนอื่นๆ ขณะที่ความคิดของเขาทำงานอย่างหนัก เขาเกิดในครอบครัวที่เคร่งศาสนา มีศรัทธาอย่างแรงกล้าว่า เป็นการพัฒนาจิตวิญญาณอันสูงสุดของความเป็นมนุษย์ เชื่อมั่นว่า ศาสนาทุกศาสนามีอยู่เพื่อให้มนุษย์มีหลักทางจิตใจ เพื่อนำมนุษย์ทุกคนบนโลกใบนี้ ไม่ว่าจะมีสีผิวใด ภาษาใด มีความเชื่อในศาสนาใด ไปสู่สันติภาพ สันติสุขอย่างแท้จริง

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ เขาและเพื่อนร่วมโลก เพื่อร่วมโต๊ะกาแฟยามเช้า ใต้แสงแดดอ่อนอุ่น ญาติพี่น้องเหล่านั้นต้องขัดแย้ง วิ่งหนีหลบความรุนแรงที่เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า คำถามที่ผุดขึ้นในจิตของเขาเป็นความขัดแย้งระหว่าง ความเชื่อมั่นในศาสนาเพื่อพัฒนาจิตใจของมนุษย์ไปสู่สันติสุขอันเป็นความเชื่อเก่า และศาสนาคือความขัดแย้งแตกต่าง ดำรงอยู่เพื่อทำให้มนุษย์ลืมความเป็นเพื่อน เป็นญาติ เป็นเพื่อนร่วมโลก ปล่อยให้ความยึดมั่นถือมั่นในศาสนานำไปสู่ความขัดแย้งรุนแรงอันไม่สิ้นสุด หากการมีขึ้น ดำรงอยู่ของศาสนาเพื่อสิ่งเหล่านี้เสียแล้ว เขาเอง และเพื่อนร่วมโลกใบนี้ จะปล่อยให้มีศาสนาอยู่เพื่อนอะไรกันเล่า

rmutr.ac.th

หมายเลขบันทึก: 597329เขียนเมื่อ 14 พฤศจิกายน 2015 23:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 พฤศจิกายน 2015 23:43 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

ศาสนาอื่นมักจะอ้างอาวุธบ้าง อ้างเสรีบ้าง อ้างหลักสิทธมนุษยชนบ้าง อ้างวัฒนธรรมของตนบ้าง แล้วเวลาเราอ้างบ้างกลับหาว่าเรา ใจแคบหรือคิดให้เกิดการแตกแยก แล้วที่เขาฆ่าพระ ฆ่าพุทธละ เขาคิดไหมว่า เขามาอยู่ในกลุ่มชาวพุทธ แล้วกลับจะอ้างว่า ยึดรัฐคืน นี่คือ รัฐซ้อนรัฐครับ

ศาสนาทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดีครับ


ผมเชื่อแบบนี้


อาจารย์หายไปนานเลยครับ


วัฒนธรรมไทยถือเป็นวัฒนธรรมอันอ่อนโยนดีงามเห็นอกเห็นใจต่อผู้แตกต่างทางวัฒนธรรม .....


ชอบคว่ามคิดเช่นนี้ครับ




9tIP: xxx.10.197.91


เขียนเมื่อ 3 วันที่แล้ว


ลิงก์: ความเห็น


ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นครับผม



ขจิต ฝอยทองเขียนเมื่อ 3 วันที่แล้ว


ลิงก์: ความเห็น


ครับท่านอาจารย์ นานๆ เข้ามาเก็บข้อมุล สบายดีครับผม



แสงแห่งความดี...


คนยิ่งนับถือพุทธศาสนา สังคมยิ่งร่มเย็น เพราะความเมตตานั่นเอง เห็นด้วยครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท