สดชื่นแจ่มใส..กับดอกไม้ข้างบ้าน


..ถึงแม้พื้นดินโดยรอบบ้านจะแฉะชื้นกว่าทุกวัน..เป็นอีกวันที่นึกขึ้นได้ว่า ไม้ดอกส่วนใหญ่ในบ้านจะมีสีขาว ทั้งดอกทิวาราตรี ดอกพุด ดอกบุหงาส่าหรี ดอกแก้ว ดอกมะลิ และ..ดอกปีบ..ที่กำลังส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ โชยมาเร้าอารมณ์...ให้รู้สึกสดชื่นขึ้นได้ในทันทีทันใด..

ตลอดทั้งวัน..แทบจะไม่มีแสงแดด อากาศมืดมัวสลัวด้วยหมอกไอฝน ที่ตกหนาเม็ดเป็นช่วงๆ และตกพรำๆ อยู่นาน..สี่โมงเย็น..จึงดูเหมือนใกล้ค่ำเข้าไปทุกที ผมปิดประตูหน้าต่างห้องเรียนและเดินสำรวจความเรียบร้อยรอบอาคาร แวะไปที่เล้าไก่ และสวนสมุนไพร ไปลงเอยที่แปลงเกษตรริมสระน้ำ...

บรรยากาศโดยรอบที่ลางเลือน ก็ไม่ทำให้ความคิดชะงักงัน ผมจะหมั่นสังเกต ไม้ยืนต้นรอบแปลงนาและหน้าโรงเรียน เมื่อฤดูฝนมาถึงครั้งคราใด จะผลิใบแผ่กิ่งก้านสูงใหญ่ ใบดกหนาให้มองดูร่มครึ้มและน่าเกรงขามยิ่งนัก

แต่ก็ไม่ลืมเหลือบมองไม้เล็กๆ ที่ปลายไม้มีดอกสีเหลืองอย่าง..ทองอุไร..ที่รอออกดอกช่วงเดือนมีนาคม – พฤษภาคม เช่นเดียวกับ เหลืองปรีดียาธร ที่มีดอกเหลืองเหมือนกัน ราวมกราคม – กุมภาพันธ์ ก็พอได้เห็นดอกบ้างแล้ว

สีสันของดอกไม้ ที่เห็นได้เป็นส่วนใหญ่ ในโรงเรียน จะมีดอกสีเหลือง ..ผมคิดว่าน่าจะเป็นอย่างที่ผมคิดจริงๆ พอได้มองเห็นถนัดตาในวันนี้ ยิ่งชัดเจน โดยรอบโรงเรียน ที่เต็มไปด้วย ต้นขี้เหล็ก ที่มีดอกเหลืองเต็มต้นอวดโฉมล้อลมฝน และดอกร่วงพราวเต็มถนนลาดยางหน้าอาคาร รอให้นักเรียนเก็บกวาดอีกครั้ง..ในวันพรุ่งนี้

ถึงเวลาเดินทางกลับ..เข้าสู่บ้านเล็กในป่าใหญ่ บ้านในสวน..ท่ามกลางความเยียบเย็นของอากาศหลังฝนตกได้ไม่นาน มองไปทางไหนก็พบแต่ความชุ่มชื้นของ น้ำฝน..ที่เกาะพงหญ้าที่รกทึบ ที่เบื้องหลังเป็นป่าของไม้นานาพรรณ สลับต้นลำไยพุ่มใหญ่เป็นทิวแถว..

ตอนกลางวันที่อากาศสดใส มองยังไงก็แช่มชื่น พาให้จิตใจร่าเริง แต่วันนี้..เห็นต้นไม้ใกล้บ้านแล้วหดหู่เหงาหงอย เรี่ยวแรงถดถอย..บอกไม่ถูก

ต่อเมื่อเดินเข้าไปใกล้ เดินวนอยู่ใต้ต้นไม้ และเดินให้ไกลกว่าที่คิดไว้..ถึงแม้พื้นดินโดยรอบบ้านจะแฉะชื้นกว่าทุกวัน..เป็นอีกวันที่นึกขึ้นได้ว่า ไม้ดอกส่วนใหญ่ในบ้านจะมีสีขาว ทั้งดอกทิวาราตรี ดอกพุด ดอกบุหงาส่าหรี ดอกแก้ว ดอกมะลิ และ..ดอกปีบ..ที่กำลังส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ โชยมาเร้าอารมณ์...ให้รู้สึกสดชื่นขึ้นได้ในทันทีทันใด..

ดอกแก้ว..ร่วงโรยไปยังไม่นาน บุหงาส่าหรี ยังไม่ถึงช่วงเวลา ดอกพุด ขาวเต็มต้นและหล่นอยู่ใต้ต้นมิใช่น้อย แต่ก็ยังน้อยกว่าดอกปีบ..ขาวโพลนทั้งบนต้นและพื้นดิน ปลิวกระจัดกระจาย ทับซ้อนสวยงาม..เย้ายวนชวนให้อยากเก็บยิ่งนัก..

ผมจึงไม่รอช้า..จะได้ดื่มน้ำชาดอกปีบก็ครานี้..รีบเก็บให้ได้มากที่สุด ก่อนจะมืดค่ำ นำไปล้างก่อนที่จะจัดวางเตรียมตากแดดสัก ๓ วัน เขาว่า..เป็นยาบำรุงหัวใจได้เป็นอย่างดี

น้ำชาดอกปีบ..คงต้องอดทนรอคอย แต่ดอกปีบสีขาวตรงหน้า..ได้ใจเชิงประจักษ์ไปเต็มๆ..สัมผัสได้ถึงความมีชีวิตชีวา..สดใสและอ่อนโยน สงบเย็นลงได้ ไม่รู้สึกเร่าร้อนหริอขุ่นมัว ..แม้จะใกล้ค่ำเข้าไปทุกที

หรือจะจริงอย่างที่เขาเปรียบเปรย..ความรัก..กับดอกไม้..ให้ความรู้สึกที่สวยงามเสมอ..ขณะเดียวกัน..ก็ไม่ควรไปยึดติด กับกลิ่นหอมและความสวยที่ไม่คงทน..แต่ควรดูแลบำรุงรักษาลำต้นหรือหัวใจของไม้ดอก..ที่เป็นส่วนสำคัญให้มั่นคง..ให้อยู่เคียงข้างเรา..ไปตราบนานเท่านาน...

ชยันต์ เพชรศรีจันทร์

๕ ตุลาคม ๒๕๕๘

หมายเลขบันทึก: 595848เขียนเมื่อ 5 ตุลาคม 2015 20:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 ตุลาคม 2015 20:02 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

กาสะลอง สัญลักษณ์แห่งนางฟ้าสีขาว...นางพยาบาล

หอม....มาก....มาก

เอ่าดอกไม้สัญลักษณ์ของ..ครู...มาฝากจ้ะ


ชาดอกปีปกลิ่นหอมดีครับ

เคยลองแล้ว

ชอบมากๆ

สุขใดฤ.จะเท่า...สดใดฤจะดี..สุขขีๆๆๆ..กับ..ดอกไม้ที่มี..ใกล้ตัวใกล้ใจ..ใกล้บ้าน..ค่ะ ผอ.คนเก่ง..

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท