๑. ศักยภาพมนุษย์
มวลมนุษย์ สุดยอด ที่รอดมา
เป็นกายา สสาร ฐานสมอง
ต้องผ่านกาล วันเวลา พาคัดกรอง
เหมือนดั่งทอง ผ่านกองไฟ เผาไหม้มา
เผ่าพันธุ์ปรุง ปรับตัว หลายชั่วชาติ
จนฉลาด พัฒน์สมอง คล่องภาษา
สื่อสารศาสตร์ วาดฝัน อันโสภา
เกิดมรรคา สังคม อุดมการณ์
เกิดพฤติกรรม ย้ำย้อน หรือแยกแยะ
เกิดกระแส แพร่กระจาย ไปทุกด้าน
ทั้งชั่วดี มีศิลป์ จินตนาการ
รู้สร้างสรรค์ เทคโนฯ โชว์ไอเดีย
รู้จักค้น กลไก ในวัตถุ
มาช่วยชู หมู่มนุษย์ หยุดสูญเสีย
เพื่อสะดวก บวกสบาย ให้ชัดเคลียร์
ร่วมกันเชียร์ แชร์ชอบ ตอบสนอง
ศักย์ทัศน์ วัฒนา กว่าสัตว์ป่า
แหล่งวิชา อารมณ์ สะสมผอง
เกิดเป็นแก่น แดนอัตตา วิญญาครอง
เป็นฐานรอง ของจิต คิดพูดทำ
จิตคือฐาน บ้านเรือน ให้เคลื่อนย้าย
ให้เคลื่อนไหว ไป-มา คูหาถ้ำ
เกิดเป็นแอ่ง แหล่งมรสุม เป็นหลุมดำ
เป็นแหล่งกรรม ให้นำผล ล้นโลกา
เรามีศักย์ หนักแน่น ในแกนกลาง
มีฤทธิ์ต่าง ระหว่างคน พลแขนขา
มีสมอง เป็นห้องสร้าง ร่างโยธา
มีวิชา เป็นตาใน ให้พลัง
แต่มนุษย์ สุดสิ้น แค่ยินดี
กามโลกีย์ ปรีดา ตัณหาสร้าง
ติดในโลก ตกในสิ่ง อิงอำพราง
อยู่ใร่าง สุขสบาย ใจเสบย
ทั้งหลงใน ทรัพย์สิน กินอยู่รอด
นอนกกกอด ทอดฝัน กันเฉยๆ
ปล่อยสมอง ให้พร่อง ไร้ร่องเงย
จนละเลย ไม่เผยศักย์ ถูกกักกัน
๒. ศักยภาพเด็ก
ความต่างศักย์ หนักเบา หรือเก่าแก่
มีตัวแปร แผ่ขยาย ในพื้นฐาน
ตั้งแต่เค้า เยาวชน คนสามัญ
ถูกกดดัน หรือสานส่ง ให้โพรงไป
ธรรมชาติ คือบาทบท กำหนดสัตว์
ที่ผูกมัด รัดดึง ให้ถึงหมาย
สัญชาตญาณ ประสานส่ง ดำรงกาย
มีเป้าหมาย ไปตามกล ผลตามกรรม
เด็กเล็กต้อง เข้าห้องเรียน เพียรศึกษา
เติมศักยะ ค่าคุณ หนุนห่อหาม
เพิ่มมุมมอง ส่องทัศน์ พัฒน์จิตงาม
เห็นโลกธรรม ตามสังคม นิยมยิน
สมองเด็ก ต้องเสกสร้าง อย่างเหมาะสม
คืออบรม บ่มเพาะ ถักทอศิลป์
สร้างเสริมใส่ ใยประสาท บาทชีวิน
ให้เป็นสิน เป็นศักย์ ประจักษ์ตน
เมื่อเติบโต โชว์ศักย์ อันหนักแน่น
กล้าเป็นแกน แล่นนำ ตามถนน
เป็นคนกล้า ท้าทาย ในชุมชน
นี่คือผล กลศักย์ ที่รักเรียน
เมื่อใช้หัว ตัวตน เป็นผลลัพธ์
เห็นมุมกลับ มุมเกิน เนินช่องเขียน
มีหลักหลบ หลักไล่ ในวงเวียน
มีเสถียร มั่นคง ไม่หลงลืม
(แต่)เด็กทั่วโลก ตกใน ตามสายสื่อ
ติดมือถือ ยื้อไลน์ ใจเป็นปลื้ม
จิตหันเห เทให้สื่อ จนทื่อทึม
สมองซึม รั่วไหล กลายเป็นกลวง
ศักย์จึงหาย กลายเป็นเสพ สู่สมอง
ตอบสนอง ร้องเรียก สำเหนียกร่วง
สมองศักย์ ถูกกักกด หมดทั้งปวง
เพราะไปห่วง หน่วงน้อม สังคมสื่อ
๓. ศักยภาพเด็กไทย
เมื่อเด็กโลก ตกใน เครือข่ายนั่น
เชื้อเผ่าพันธุ์ หลานมนุษย์ จะกุดหรือ
เซลล์สมอง ลองของใหม่ ได้ฝึกปรือ
ฝึกฝีมือ ถือสมัย ได้วิชา
แต่เด็กพร้อม ยอมหยุด ฉุดใจไหม
หักห้ามใจ ไม่ให้อิน ถวิลหา
ถ้าจัดการ บริหารตน พ้นนินทา
คงไม่ฆ่า ตัวเอง เก่งไม่จริง
สมองเจ้า เพิ่งเข้าเรียน หัดเขียนอ่าน
อารมณ์พล่าน กันฉุนเฉียว เที่ยวผู้หญิง
ร่างกายก่อ มวลสาร ซ่านเหมือนลิง
ฮอร์โมนวิ่ง ดิ่งล้ำ ตามอารมณ์
เด็กผู้หญิง ก็ไม่อาย เด็กชายก็กล้า
ทั้งเชิดหน้า ชูคอ รอผสม
หน้าด้านดื้อ ถือเก่ง นักเลงลม
ขาดอบรม บ่มเพาะ เรื่องเหมาะงาม
ช่วงเวลา อาจารย์ ท่านพูดสอน
ก้มหลับนอน ซ่อนมือถือ สื่อสารซ้ำ
ให้รายงาน อ่านไม่ออก ลอกประจำ
อ่านเขียนคำ ที่พร่ำบอก ถั่วงอกเซ
เมื่อเลิกเรียน ก็เวียนวน ผลกดไลค์
สื่อรูปถ่าย ไวจี๋ มีเสน่ห์
สนุกสนาน กันนักหนา อย่าฮาเฮ
นี่คือเกจ์ เครื่องวัด สัตว์สังคม
ธรรมชาติ อุบัติมา มีหน้าที่
แต่ต้องมี วิทยา มาผสม
กาลชีวิต ลิขิตกรรม ตามอารมณ์
มาสะสม บ่มเพาะ ก่อปัญญา
มันสมอง มองเสมือน เป็นเพื่อนแท้
ที่ช่วยแปร แก้ไข ใจปรารถนา
เซลล์สมอง สนองเรา เคล้าอัตตา
มีปัญญา จึงเห็น ใครเด่นดี
ธาตุสสาร ก้านสมอง สนองตอบ
ให้กายกอบ กิจกรรม ตามวิถี
มีจิตสิง พิงพัก หลักทฤษฎี
เป็นสารถี ชี้บอก ให้งอกงาม
นอกจากนั้น มันยังมี ผู้ชี้สั่ง
ที่มานั่ง ข้างกาย เคลื่อนไหวพร่ำ
คือกิเลส ตัณหา ให้บ้าตาม
มาเหยียบย่ำ ทำสมอง ให้มองเบลอ
เมื่อกระบวน การทำงาน ในบ้านนี้
เราเห็นดี เห็นงาม ตามมันเหรอ
หรือจะปล่อย ให้สมอง สนองเธอ
แล้วปรนเปรอ ให้เพ้อหนัก หมดศักย์คุณ
๔. สาเหตุศักยภาพอ่อนลง
สมองเด็ก ยังเล็กอยู่ ดูอ่อนโลก
แต่ชุ่มโชก ซับซึม ปลื้มการขุน
พวกพ่อค้า หน้าเลือด เชือดคอคุณ
เขาต้มตุ๋น ขุนเลี้ยง เสบียงเรา
เมื่อพวกเจ้า ยังเขลาอยู่ ดูไม่ออก
เจ้าถูกหลอก บอกให้ใช้ จะไม่เขลา
ทันสมัย ไวเสมอ เสนอเรา
แล้วให้เปล่า เราต้องจ่าย เป็นรายเดือน
ความต้องการ ผ่านสมอง เหลียวมองหา
ขาดปัญญา แยกแยะ แนะจากเพื่อน
เด็กถูกเร้า เขย่าอยาก ศักย์จึงเลือน
พ่อแม่เตือน ทำเชือนแชร์ ไม่แคร์ฟัง
สื่อมีส่วน ประมวลภาพ ให้หยาบกร้าน
เด็กขี้คร้าน งานไม่สู้ ดูแต่หนัง
อ่อนไหวง่าย ตายตื้นๆ ขมขื่นจัง
ได้แต่นั่ง คลั่งสื่อ มือลูบมัน
นโยบาย กลายเป็นกล บนแท็บเล็ต
กลายเป็นเหตุ ประเทศไทย ได้ของขวัญ
ลดเวลา วิชาเรียน ยิ่งเพี้ยนพลัน
มาสร้างสรรค์ การพละ สวัสดี
มีกฎเกณฑ์ กฎกระทรวง ห้ามล่วงล้ำ
ครูอย่าทำ โทษเด็ก เขกขยี้
ห้ามดุด่า ว่ากล่าว กร้าวบุพการี
หรือห้ามตี ขู่เข็ญ เป็นโทษทัณฑ์
เมื่อเด็กๆ ถูกตามใจ ก็ได้ท่า
พ่นวาจา ด่าครู ขู่ให้ยั่น
ท้าทายกฎ จนหมดค่า สารพัน
พ่อแม่นั้น หวั่นวิตก จนอกตรม
ใช่สื่อสาร พาลด่า ว่าน้องๆ
ใครที่พร่อง สมองมึน ปืนถล่ม
ใครที่ดี มีสมอง ตรองให้คม
ย่อมไม่จม จ่อมจ่อ เกาะโลกา
ศักยภาพ ของมนุษย์ นั้นสุดยอด
แต่ถูกสอด ด้วยแรงดึง หนึ่งตัณหา
ด้วยเสรี มีสิทธิ์ คิดนานา
สื่อนำพา ค่านิยม ผสมพันธุ์
พฤติกรรม ธรรมชาติ จึงขาดสูญ
เหลือแค่ทุน และกำไร ที่ไม่ฝัน
เป็นทุนทาส ขาดสติ ในชีวัน
กำไรนั้น คือ"อันตราย" ในสังคม
---------๒๕/๙/๕๘------------
Let's go to other planets.
We can't now! Well, we'll need to work out how -- don't we?
It's a way to lift 'man' (out of a little den) to higher level. ;-)
อ่านแล้วเห็นภาพนักเรียนชัดมากๆครับอาจารย์
ขอบคุณมากๆครับ
เด็กวันนี้ คือผู้ใหญ่ ในวันหน้า
แต่ทว่า เด็กไทย (เริ่ม) ไร้สมอง
นับวันจะ หลงทาง ห่าง...ไตร่ตรอง
เมื่อ " เทคโน ฯ " เข้าครอบครอง....สมองบวม
เกิดสังคม " ก้มหน้า" ท้องฟ้า....ปิด
นับวันแต่ " ไร้ความคิด" จิต...หละหลวม
ชั่ว...ดี ถูก..ผิด... คิดกำกวม
ขาดสำรวม.....ยั้งคิด...อนิจา....
.......................................................
....เหง้าบัวตัวอยู่ใต้..........ผิวนที
ยังชีพเฉกอินทรีย์.............รอบข้าง
แวดล้อมรอบชั่วดี.............มีหมด
ก่อเกิด “ตัวตน” สร้าง........"รู้ชอบ”คือประเด็น
....เป็นเด็กวงแวดล้อม........รอบตน
ผู้ใหญ่แบบอย่างดล...........เช่นนั้น
เมตตาจักส่งผล...............ปฏิบัติ
ปันแบ่งทุกชนชั้น..............มิช้าพ้นนที