ใกล้จะถึงวันวิสาขบูชา ๒๕๕๘ เข้ามาทุกวัน
ตามที่ตั้งใจไว้นั้น คือ จะเขียนบันทึกธรรมในวันสำคัญ
ถอดบทเรียนผลการฝึกตนในช่วงเวลานั้น ๆ เอาไว้ หนอ
ถ้าจะอ่านบันทึกนี้ให้ได้ประโยชน์
ควรเรียนรู้และทำความเข้าใจกับ จิตเดิมแท้
และญาณทั้ง 3 สาม (สัญชาตญาณ ปรีชาญาณ และปัญญาญาณ) ให้พอรู้ก่อน หนอ
ไม่เช่นนั้น ผมเดาว่า บันทึกนี้อาจดูซ้ำซาก น่าเบื่อยิ่งนัก หนอ
ประสบการณ์ทำในช่วงเวลานี้
ยังคงอยู่ที่คำ 2 คำเป็นหลัก คือ ปัญญาญาณ + จิตเดิมแท้ หนอ
ความคิด ปิดบัง จิตเดิมแท้
ทุกคนมีปัญญาสู่การตรัสรู้ในจิตเดิมแท้ หรือ ตถตา เท่าเทียมกัน
แต่เราไม่รุ้ และไม่ได้แจ้งประจักษ์ต่อจิตเดิมแท้ของเรา เราจึงแสวงหา..ด้วยการคิด
มิจฉาทิฎฐิ ทำให้เราข้องอยู่กับโลก
ส่วนสัมมาทิฏฐิ ช่วยให้เราออกจากความข้อง
แต่การละได้ทั้ง 2 ทิฎฐิ นั้น ขึ้นชื่อว่า อยู่เหนือ หนอ
เพียงเข้าถึงจิตเดิมแท้ให้ได้ ปัญญาแห่งการตรัสรู้จะเผยออกมาเอง หนอ
ด้วยความไม่รู้
ปีก่อน ๆ นั้น ผมปฏิเสธปรีชาญาณ จะเอาแต่ปัญญาญาณฝ่ายเดียว
พอล่วงมาถึงปีนี้ ถึงได้รู้ว่า
ต้องใช้ทั้ง 3 อย่างก่อน โดยใช้ให้เป็นให้สมดุลย์
ไม่ใช่เอาแต่ปัญญาญาณ แล้วปฏิเสธปรีชาญาณ หนอ
สัปดาห์ท้าย ๆ นี้
จึงเป็นความพยายามฝึกใช้ สร้างสมดุลย์
หาทางสายกลายแห่งการช่วงใช้ญาณทั้ง 3 สาม หนอ
-----------------------------------------------------------
ไม่มีความเห็น