พรุ่งนี้กับความหลัง ทุกวันของชีวิตมีค่าเท่ากันหรือเปล่าก็ไม่รู้ ราคาของวันพรุ่งนี้ กับวันที่ผ่านเลย อย่างไหนจะถูกหรือแพงกว่ากันไม่มีคำตอบเป็นสูตรสำเร็จตายตัว ขึ้นอยู่กับว่าใครให้น้ำหนักส่วนไหนเป็นพิเศษ สิ่งที่น่าเศร้าใจเลือเกิน คือ คนที่ได้แต่หวังว่าชีวิตน่าจะเป็นไปอย่างนั้นอย่างนี้ มีอะไรที่อยากทำมากมาย แต่ไม่มีโอกาสได้ลงมือทำ หรือไม่กล้าทำ เพียงเพราะติดหนึบอยู่กับความหลัง และที่สำคัญ ...ความหลังของบางคน ก็ไม่ได้วิเศษดีงามหนักหนา พร่ำเพ้ออยู่แต่กับคำพูดว่า "ฉันน่าจะ... " ไปตลอดชีวิต โดยไม่ได้ทำอะไรที่ตัวเองน่าจะทำเลย ผมเชื่อมาตลอดว่า การผูกติดกับคนอื่นมาก ๆ ปล่อยให้คนอื่นมามีส่วนกับชีวิตเรามากเกินไปนั้น เป็นดาบสองคมมีทั้งผลประโยชน์และราคาที่ต้องจ่าย แน่นอนว่า ไม่ใช่ราคาถูกๆ คนส่วนหนึ่งจึงแลกอิสรภาพกับความโดดเดี่ยว ไร้ที่พึ่งพิงปลดแอกตัวเองจากความสัมพันธ์ เพื่อยอมตนเป็นทาสรับใช้ความฝันตามลำพัง มนุษย์ผ่านการวิวัฒนาการมาหลายขั้นตอน ทั้งในด้านกายภาพและพฤติกรรม บางทีคนรุ่นเดียวกับผม อาจเป็นส่วนหนึ่งของวิวัฒนาการ คือเป็นภาวะที่มนุษย์ซึ่งเคยเป็นสัตว์สังคม เริ่มกลายพันธุ์มาเป็นสัตว์ที่ไม่ปรารถนาสังคมมากนัก เริ่มคลี่คลายสายสัมพันธ์ระหว่างคนใกล้ชิด จากรูปแบบที่แนบแน่น มาเป็นแบบหลวมๆ พร้อมหลุดขาดจากกันได้ง่าย