กองทุนรวมคือ เครื่องมือในการลงทุน (investment vehicle) สำหรับผู้ลงทุนรายย่อย ที่ประสงค์จะนำเงินมาลงทุนในตลาดเงินตลาดทุน แต่ติดปัญหาอุปสรรคหลายๆประการ เช่น ผู้ลงทุนยังไม่มีความรู้เกี่ยวกับตราสารการลงทุนมากมากนัก หรือ ไม่ค่อยมีเวลาติดตามการเปลี่ยนแปลงของตลาดการลงทุนต่าง ๆ ทำให้การลงทุนด้วยตนเองไม่สามารถได้ผลลัพธ์ตามเป้าหมายที่ต้องการ
ดังนั้น กองทุนรวม จึงเป็นเครื่องมือในการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ มีการจัดการลงทุนอย่างเป็นระบบ โดยมีจุดมุ่งหมายให้การลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีสุด ภายใต้กรอบความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนยอมรับได้
ประโยชน์ที่นักลงทุนจะได้รับจากการลงทุนผ่านกองทุนรวมคือ
1. มีการบริหารงานโดยมืออาชีพ ที่มีความรู้ความสามารถและประสบการร์ในการลงทุนโดยเฉพาะ 2. สามารถลดความเสี่ยงจากการลงทุนโดยกระจายการลงทุนผ่านกองทุนรวม ซึ่งมีความสะดวก และประหยัดค่าใช้จ่ายกว่าการลงทุนด้วยตนเอง 3. กองทุนรวมมีความหลากหลายทั้งในนโยบายการลงทุนและรูปแบบการลงทุน ให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ของผู้ลงทุนแต่ละท่าน 4. ผู้ลงทุนผ่านกองทุนรวมได้รับประโยชน์ในด้านภาษีเพิ่มมากขึ้น 5. มีการบริหารงานโดยมืออาชีพ ที่มีความรู้ความสามารถและประสบการร์ในการลงทุนโดยเฉพาะ 6. สามารถลดความเสี่ยงจากการลงทุนโดยกระจายการลงทุนผ่านกองทุนรวม ซึ่งมีความสะดวก และประหยัดค่าใช้จ่ายกว่าการลงทุนด้วยตนเอง 7. กองทุนรวมมีความหลากหลายทั้งในนโยบายการลงทุนและรูปแบบการลงทุน ให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ของผู้ลงทุนแต่ละท่าน 8. ผู้ลงทุนผ่านกองทุนรวมได้รับประโยชน์ในด้านภาษีเพิ่มมากขึ้น |
ข้อควรพิจารณของการลงทุนในกองทุนรวม
1. รูปแบบการลงทุน: พิจารณาจากเป้าหมายการลงทุนโดยรวมของกองทุน เช่น ลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ ลงทุนในหุ้นปันผล หรือ ลงทุนในประเทศ เป็นต้น เพื่อพิจารณาว่ากองทุนนั้นๆมีการลงทุนตรงตามรูปแบบการลงทุนของผู้ลงทุนหรือไม่ 2. ระดับความเสี่ยง: กองทุนแต่ละกองทุนมีระดับความเสี่ยงที่แตกต่างกัน เช่น กองทุนตราสารเงินมีความเสี่ยงต่ำมาก ในขณะที่กองทุนตราสารหุ้นมีความเสี่ยงสูงกว่ามาก นักลงทุนควรเลือกกองทุนที่มีระดับความเสี่ยงที่เหมาะสมกับท่าน 3. เปรียบเทียบผลตอบแทนการลงทุน: การเปรียบเทียบผลตอบแทนการลงทุนของแต่ละกองทุนควรเปรียบเทียบผลตอบแทนย้อนหลัง3 ปี หรือ 5 ปี เพื่อดูความสม่ำเสมอของผลตอบแทนการลงทุนในระยะยาว อย่างไรก็ตาม การลงทุนมีความเสี่ยงเนื่องจากผลการลงทุนในอดีตไม่ได้บ่งบอกถึงผลตอบแทนในอนาคต 4. ค่าธรรมเนียม: ผู้ลงทุนควรศึกษาค่าธรรมเนียมของแต่ละกองทุนว่าคิดในอัตราเท่าใด เช่น ค่าธรรมเนียมในการบริหารจัดการ หรือ ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย เป็นต้น เนื่องจากแต่ละกองทุนจะเก็บค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกัน 5. เปรียบเทียบการให้บริการ: เช่น การให้คำแนะนำของเจ้าหน้าที่ การให้บริการข้อมูล และ ความสะดวกในการใช้บริการ เป็นต้น |
การที่จะลงทุนในกองทุนรวม ควรศึกษาถึงประโยชน์ที่นักลงทุนจะได้รับ ศึกษาถึงข้อกำหนดต่างๆ ให้ดีก่อนการลงทุน เราต้องรู้ว่ากองทุนที่เราจะลงทุนนี้เขานำไปลงทุนในส่วนไหนบ้าง มีความเสียงมากหรือน้อยที่เราพอจะรับได้ไหม ศึกษาให้ดีก่อนเพื่อที่จะไม่เกิดปัญหาภายหลัง
ที่มา : https://www1.cgsec.co.th/corpweb/sa/startInvest.js...
ไม่มีความเห็น