กองทุนรวมทั้ง 2 ประเภทนี้แม้จะมีลักษณะเด่นเหมือนกัน แต่ก็ยังมีความแตกต่างกันในรายละเอียด ซึ่งเริ่มตั้งแต่จุดกำเนิดเริ่มต้นของ
กองทุนรวมทั้งสองเลยทีเดียวโดย
RMF (กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ retirement mutual fund) เป็นกองทุนรวมที่เกิดขึ้นจากแนวคิดที่ต้องการสนับสนุน
วินัยการออมในระยาวเพื่อวัยเกษียณเมื่อพ้นจากงานและไม่มีรายได้ประจำแล้ว
LTF (กองทุนรวมหุ้นระยะยาว หรือ long-term equity fund) เป็นกองทุนรวมที่เกิดมาจากแนวคิดที่ต้องการส่งเสริมการลงทุน
ระยะยาวในหุ้นจดทะเบียนในตลาดรอง เช่น SET และ MAI เพื่อช่วยให้ตลาดทุนไทยมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น และยังช่วยสร้างวินัยในการออม ของผู้ลงทุนรายย่อยในระยะยาวมากยิ่งขึ้นด้วย
และเมื่อกองทุนรวมทั้งสองประเภทต่างก็เน้นการลงทุนระยะยาว ทางการจึงสนับสนุนสิทธิประโยชน์ทางภาษี ให้แก่ ผู้ลงทุนเพื่อ
เป็นการจูงใจ
RMF และ LTF ต่างกันอย่างไร?
นอกจากจุดกำเนิดที่แตกต่างกัน นโยบายในการลงทุน และ เงื่อนไขการลงทุนเพื่อให้ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี
ของทั้ง 2 กองทุนก็มีความแตกต่างกัน
ประเด็น |
RMF |
LTF |
วัตถุประสงค์การจัดตั้ง |
สนับสนุนให้ประชาชนออมเงินไว้ใช้ในยามเกษียณ |
สนับสนุนการลงทุนระยะยาวในตลาดทุนผ่านกองทุนรวมซึ่งเป็นผู้ลงทุนสถาบัน เพื่อช่วยสร้างเสถียรภาพของตลาดทุนไทย |
นโยบายกองทุน |
มีนโยบายการลงทุนที่หลากหลายเพื่อรองรับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ตามช่วงอายุของผู้ลงทุนตั้งแต่ความเสี่ยงต่ำถึงความเสี่ยงสูง |
มีนโยบายแบบเดียวคือ กองทุนรวมตราสารทุน (เน้นลงทุนในหุ้นจดทะเบียนใน SET และ MAI โดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของ NAV ) |
เงื่อนไขการลงทุนเพื่อให้ ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี |
- ลงทุนต่อเนื่องทุกปี โดยลงทุนขั้นต่ำอย่างน้อย 3%ของรายได้ในแต่ละปีหรือ 5,000 บาท แล้วแต่ว่าจำนวนใดจะน้อยกว่า - สามารถซื้อหน่วยลงทุนปีเว้นปีได้ - ต้องลงทุนและถือหน่วยลงทุนจนกระทั่งอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์รวมทั้งต้องลงทุนมาแล้วไม่น้อยกว่า5 ปีนับแต่ซื้อ |
- ไม่มีข้อกำหนดให้ลงทุนต่อเนื่องแต่ปีใดที่มีการลงทุนต้องถือหน่วยลงทุนไว้อย่างน้อย 5 ปีปฏิทิน -กรณีที่ผู้ลงทุนสั่งขายหรือสับเปลี่ยนระหว่างกองทุน LTF หน่วยลงทุนที่ซื้อก่อนจะถูกนำไปขายก่อน โดยผู้ลงทุนไม่สามารถกำหนดให้ บลจ.ขายหน่วยลงทุนก้อนอื่นที่ซื้อทีหลังได้ |
เงินลงทุนที่ได้ สิทธิประโยชน์ทางภาษี |
- เงินซื้อหน่วยลงทุน จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 15 % ของเงินได้ในแต่ละปี โดยเมื่อนับรวมกับเงินสะสมเข้ากองทุสำรองเลี้ยงชีพ หรือกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการแล้ว ต้องไม่เกิน 500,000 บาท - กำไรจากการขายคืนหน่วยลงทุนไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ |
-เงินซื้อหน่วยลงทุนใน LTF จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 15 % ของเงินได้ในแต่ละปีทั้งนี้ เฉพาะส่วนที่ไม่เกิน 500,000 บาท ส่วนกำไรจากการขายคืนหน่วยลงทุน(capital gain) ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ |
ไม่มีความเห็น