แม้องค์กรมีแผนยุทธศาสตร์ที่ดีเลิศ ก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถ้าไม่สามารถแปลงยุทธศาสตร์ไปสู่แผนปฏิบัติการ และทำให้สำเร็จตามเป้าหมายที่ได้วางไว้
SPP, BSC, KPI, LogFrame
พันเอก มารวย ส่งทานินทร์
[email protected]
7 มีนาคม 2558
บทความเรื่อง
SPP, BSC, KPI, LogFrame เป็นการเชื่อมโยงให้เห็นภาพรวมของแผนกลยุทธ์ (กลยุทธ์ และ ยุทธศาสตร์ ใช้แทนกันได้ มาจากภาษาอังกฤษคือ Strategy) ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ คือตั้งแต่การจัดทำแผนยุทธศาสตร์จนกระทั่งถึงตัวชี้วัดเป็นรายบุคคล ที่สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ขององค์กร
ผู้ที่สนใจเอกสารแบบ PowerPoint (PDF file) สามารถ Download ได้ที่
http://www.slideshare.net/maruay/spp-bsc-kpi-log-frame
เป้าหมายสูงสุดขององค์กร (Ultimate Goals)
- นำพาองค์กรสู่ความสำเร็จ
- สามารถบรรลุวิสัยทัศน์ที่ได้วางไว้
- ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน
- สามารถก่อให้เกิดคุณค่าหรือประโยชน์ให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องได้
- องค์กรที่เป็นเลิศ (Excellence Organization)
- องค์กรที่มีขีดสมรรถนะสูง (High Performance Organization)
กระบวนการวางแผนยุทธศาสตร์ - Strategic Planning Process (SPP) กระบวนการไปสู่เป้าหมาย
- ปัจจุบันเราอยู่ ณ จุดไหน? (Where are we now?) - SWOT Analysis
- เราต้องการไปสู่ จุดไหน? (Where do we want to go?) - Vision and Goals
- เราจะไปสู่จุดนั้นได้อย่างไร? (How do we get there?) - Strategies
ยุทธศาสตร์
- ยุทธศาสตร์ หมายถึง แนวคิดหรือวิธีการที่แยบคายอันบ่งบอกถึงลักษณะการเคลื่อนตัวขององค์กรว่าจะก้าวไปสู่เป้าหมายที่ต้องการในอนาคตได้อย่างไร
- เป็นการตอบคำถามว่า "หน่วยงานจะไปถึงจุดหมายที่ต้องการได้อย่างไร?"
ทำไมต้องมีการวางแผนยุทธศาสตร์
- สภาวะแวดล้อม และบริบทในการดำเนินงานมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และรุนแรงขึ้น
- องค์กรต้องมีทิศทาง และแผนงานที่ชัดเจน
- ผู้บริหารต้องบริหารองค์กร ภายใต้กรอบทิศทางและแผนงาน
ทำแผนยุทธศาสตร์เพื่ออะไร
- ทำให้ทุกคนเข้าใจ มุ่งเน้นในยุทธศาสตร์ร่วมกัน
- เกิดความรับผิดชอบและการมีส่วนร่วมในยุทธศาสตร์ขององค์กร
- เป็นการจูงใจให้ทุกคนดำเนินงานตามยุทธศาสตร์
- มีระบบการประเมินผลที่สอดคล้องและเชื่อมโยงกันในทุกระดับและเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์
รายละเอียดขั้นตอนพื้นฐานในการวางแผนยุทธศาสตร์
ขั้นเตรียมการ - การเตรียมการ (Project Setup)
- จัดตั้งคณะทำงาน
- รวบรวมข้อมูลเพื่อวิเคราะห์ศักยภาพในประเด็นที่เกี่ยวข้อง
ขั้นตอนที่ 1 – การวิเคราะห์ศักยภาพของหน่วยงาน (SWOT Analysis)
- ปัจจัยภายใน - Strength (จุดแข็ง) Weakness (จุดอ่อน)
- ปัจจัยภายนอก - Opportunity (โอกาส) Threat (อุปสรรค)
ขั้นตอนที่ 2 – การจัดทำวิสัยทัศน์ เป้าประสงค์ และ ประเด็นยุทธศาสตร์ (Vision, Goals, and Strategic Issues)
- ต้องการเป็นอะไร
- มีเป้าประสงค์และเป้าหมายอย่างไร
- มีประเด็นทาง ยุทธศาสตร์ที่สำคัญอะไรที่ต้องได้รับการพัฒนา
ขั้นตอนที่ 3 – การกำหนดยุทธศาสตร์ในการพัฒนาหน่วยงาน (Strategies)
- ต้องทำสิ่งใดบ้างเพื่อให้ผลการปฏิบัติงานบรรลุตามวิสัยทัศน์และเป้าหมายที่กำหนด
ขั้นตอนที่ 4 - การกำหนด แผนปฏิบัติการ (Action Plans)
- การนำยุทธศาสตร์ไปสู่การปฏิบัติในรูปของแผนงาน/ โครงการ
กระบวนการในการจัดทำแผนยุทธศาสตร์
- การวิเคราะห์ปัจจัยทางยุทธศาสตร์ - จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส ภัยคุกคาม (SWOT)
- การกำหนดทิศทางของหน่วยงาน - วิสัยทัศน์ (Vision) และพันธกิจ (Mission)
- การวิเคราะห์ถึงประเด็นสำคัญที่จะต้องมุ่งเน้น / ให้ความสำคัญเพื่อที่จะบรรลุวิสัยทัศน์ - ประเด็นยุทธศาสตร์ (Strategic Issues)
- การกำหนดเป้าประสงค์สำหรับแต่ละประเด็น - เป้าประสงค์ (Goals) ตามยุทธศาตร์ BSC
- การกำหนดตัวชี้วัดและเป้าหมายของแต่ละเป้าประสงค์ - ตัวชี้วัด (Key Performance Indicators) และเป้าหมาย (Target)
- การกำหนดกลยุทธ์หรือสิ่งที่จะทำเพื่อให้บรรลุเป้าประสงค์ – ความคิดริเรื่มทางกลยุทธ์ (Strategic initiatives)
- การนำกลยุทธ์ไปสู่การปฏิบัติ - แผนปฏิบัติการ (Action Plan) โดยอาศัย Logframe /Project
การวิเคราะห์ศักยภาพของหน่วยงาน (SWOT Analysis)
- จุดแข็ง (Strengths) - สิ่งที่หน่วยงานมีความโดดเด่น
- จุดอ่อน (Weaknesses) – สิ่งที่หน่วยงานจะต้องมีการพัฒนา หรือแก้ไขปรับปรุง
- โอกาส (Opportunities) - การเปลี่ยนแปลงของปัจจัยภายนอกองค์กรที่ส่งผลกระทบในทางบวกต่อองค์กร
- ภัยคุกคาม (Threats) - การเปลี่ยนแปลงของปัจจัยภายนอกองค์กรที่ส่งผลกระทบในทางลบต่อองค์กร
คุณสมบัติที่ดีของ SWOT Analysis
- มีความเชื่อมโยงกับกรอบนโยบายรัฐบาล/หน่วยเหนือ
- แสดงถึงลักษณะเฉพาะตัวของหน่วยงาน ทั้งในแง่จุดอ่อนและจุดแข็ง ซึ่งเป็นพื้นฐานประเด็นในการพัฒนา
- สะท้อนถึงปัญหาและความต้องการของบุคลากรในหน่วยงาน
- เป็นข้อเท็จจริง มีข้อมูลสนับสนุน ไม่ใช่ความคิดเห็น
- คำนึงถึงสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนไป (Outside in)
- มีความสมดุลระหว่างการวิเคราะห์ทั้งภายนอกและภายใน
คำจำกัดความ (Description)
-
วิสัยทัศน์ (Vision) เป็นการกำหนดสภาพด้านการพัฒนาที่หน่วยงานต้องการจะเป็นในอนาคตตามห้วงระยะเวลาที่กำหนด โดยระบุเป็นข้อความที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นเกี่ยวกับทิศทางและจุดยืนที่ต้องการผลักดันให้เกิดขึ้น เป็นจุดหมายปลายทางร่วมกันของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นการตอบคำถามว่า "หน่วยงานต้องการเป็นอะไรในอนาคต "
-
ประเด็นยุทธศาสตร์ (Strategic Issues) เป็นการกำหนดประเด็นที่สำคัญที่หน่วยงานจำเป็นต้องดำเนินการพัฒนาเพื่อให้สามารถบรรลุวิสัยทัศน์ที่ตั้งไว้ได้ ประเด็นทางยุทธศาสตร์จะเกิดจากการเปรียบเทียบวิสัยทัศน์ที่หน่วยงานต้องการจะเป็น (Vision) กับการวิเคราะห์ศักยภาพของหน่วยงานในปัจจุบัน (SWOT)
-
เป้าประสงค์ (Goals) เป็นการกำหนดเป้าหมายในระดับวิสัยทัศน์ เพื่อตอบว่าหน่วยงานได้บรรลุถึงวิสัยทัศน์ที่ได้ตั้งไว้หรือไม่ เป้าประสงค์เป็นความสำเร็จสุดท้ายของวิสัยทัศน์
Mission VS. Vision
-
พันธกิจ (Mission) บอกให้รู้ถึงขอบเขตการดำเนินงานของหน่วยงาน บอกให้รู้ถึงสาเหตุของการดำรงอยู่ และมุ่งเน้นที่บทบาท หน้าที่ ที่จะต้องทำ
-
วิสัยทัศน์ (Vision) บอกให้รู้ถึงสิ่งที่หน่วยงานอยากจะหรือต้องการจะเป็นในอนาคต บอกให้รู้ถึงเส้นทางเดินของหน่วยงานในอนาคต
กระบวนการพัฒนาวิสัยทัศน์
- ประเมินและวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของสภาวะแวดล้อมภายนอกที่องค์กรกำลังหรือจะต้องเผชิญ
- ประเมินและวิเคราะห์ บทบาท หน้าที่ ความสามารถที่องค์กรมีอยู่ในปัจจุบัน
- เมื่อพิจารณาทั้งปัจจัยภายนอกและภายในแล้ว ให้มองภาพไปในอนาคตว่า ในอีก 3-5 ปี ข้างหน้า อะไรคือสิ่งที่องค์กรอยากหรือต้องการที่จะเป็น โดยคำนึงถึงความต้องการของ Stakeholders ที่สำคัญด้วย
คุณสมบัติที่ดีของวิสัยทัศน์
- เป็นปรัชญาที่แสดงให้เห็นถึงค่านิยมที่ยึดถืออยู่ภายในใจของทุกคน (Shared value) และได้รับการสนับสนุน และเป็นที่ยอมรับจากผู้ปฏิบัติ
- สะท้อนถึงสถานะการพัฒนาและความต้องการของหน่วยงาน
- เป็นข้อความง่ายๆ ที่สามารถสื่อให้เห็นภาพในอนาคตของหน่วยงาน
- ท้าทายเร้าใจ สามารถใช้เป็นกรอบชี้นำให้มวลสมาชิกดำเนินกิจกรรมเพื่อบรรลุจุดยืนที่ต้องการ ในขณะเดียวกันก็มีความเป็นไปได้
- เป็น "คำมั่นสัญญา" ของผู้บริหารที่แสดงถึงการตัดสินใจ และความมุ่งมั่นที่ต้องรับผิดชอบ
การกำหนดประเด็นยุทธศาสตร์ (Strategic Issues)
- ประเด็นยุทธศาสตร์ คือ
- สิ่งที่ต้องได้รับการพัฒนา
- สิ่งที่ต้องคำนึงถึง
- ประเด็นหลัก
- ประเด็นที่สำคัญที่จำเป็นต้องดำเนินการพัฒนา
- เพื่อนำไปสู่วิสัยทัศน์
การกำหนดเป้าประสงค์
- จะต้องมีความเชื่อมโยงกับวิสัยทัศน์ และประเด็นยุทธศาสตร์ที่กำหนดไว้
- ในการที่จะไปให้ถึงประเด็นยุทธศาสตร์ที่ต้องการ สามารถที่จะแตกประเด็นยุทธศาสตร์ออกเป็นเป้าประสงค์ที่จะบรรลุได้อย่างไรบ้าง
- เป้าประสงค์ ขอให้เขียนในลักษณะสิ่งที่ต้องการที่จะบรรลุ
- ในการกำหนดเป้าประสงค์นั้น ขอให้พยายามกำหนดเป้าประสงค์
- โดยการมองกรอบการประเมินผลทั้งสี่มิติ (ประสิทธิผล, คุณภาพ, ประสิทธิภาพ และ การพัฒนาองค์กร)
++++++++++++++++++++++++++++++++++
Balanced Scorecard (BSC) - การถ่ายทอดกลยุทธ์เพื่อนำไปปฏิบัติ
อะไรคือ Balanced Scorecard (BSC)
- ระบบการวัดผล - A Measurement System?
- ระบบบริหาร - A Management System?
- ปรัชญาการบริหาร - A Management Philosophy?
BSC
-
BSC ใช้เชื่อมโยงทุกภาคส่วนในองค์กร
-
BSC ใช้ได้ทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ
-
BSC เชื่อมโยงเป้าหมายระยะสั้น ระยะยาว กลยุทธ์ และผู้รับผิดชอบ
- ใช้ Strategy Maps และ BSC ในการสื่อสาร
- เพื่อความสอดคล้องเชื่อมโยง
- oการเชื่อมโยงหน่วยงานทุกระดับเข้ากับยุทธศาสตร์
- oเป็นกรอบในการอธิบายแนวทางการทำยุทธศาสตร์ให้สำเร็จ และการบริหารงานที่โปร่งใสขององค์กร
Implementation Issues
- ผู้นำสูงสุด
- ความต่อเนื่อง
- การเปลี่ยนแปลง
- อย่าใช้เป็นเครื่องมือในการจับผิดและลงโทษ
- การสื่อสารภายในองค์กร
- การผูกกับการจ่ายค่าตอบแทน
- ถ้าคิดจะทำ ทำเลย
- ให้เริ่มทีละส่วน
- ไม่สามารถลอกเลียนแบบได้
บัญญัติ 10 ประการของ BSC
DO
1. ใช้เป็นเครื่องมือนำกลยุทธ์ไปสู่การปฏิบัติ
2. ต้องแน่ใจว่ามีกลยุทธ์ที่ชัดเจน
3. ต้องแน่ใจว่าผู้บริหารระดับสูงสนับสนุน ผู้บริหารระดับกลางมุ่งมั่น
4. ให้เริ่มทำในหน่วยย่อยๆ ก่อน
5. วิเคราะห์และจัดทำให้เหมาะสมกับหน่วยงานนั้นๆ
DON'T
1. อย่าใช้เป็นเครื่องมือให้ผู้บริหารจับผิดและลงโทษบุคลากรในองค์กร
2. อย่าเลียนแบบ BSC จากองค์กรอื่น
3. ไม่ให้ความสำคัญกับการสื่อสารภายในองค์กร
4. อย่ามุ่งหวังให้ BSC มีความสมบูรณ์
5. ละเลยความสำคัญของภาระงานและต้นทุนของการเก็บข้อมูลและรายงานผล
ประเด็นปัญหาที่เจอในประเทศไทย
1. บุคลากรส่วนใหญ่มองว่า
BSC เป็นเพียงของเล่นอีกชิ้นหนึ่งของผู้บริหารระดับสูง
2. ความไม่พร้อมของผู้บริหารและพนักงานภายในองค์กรต่อการเปลี่ยนแปลง
3. การกำหนดเป้าหมาย
4. การขาดข้อมูลสำหรับตัวชี้วัดต่างๆ
5. การมอง
BSC เป็นกิจกรรมไม่ต่อเนื่อง
6.
ให้ความสำคัญกับตัวชี้วัดมากเกินไป
สรุปปัจจัยแห่งความสำเร็จในการนำ BSC มาใช้
- ผู้บริหารระดับสูง โดยเฉพาะเบอร์ 1
- Speed over Perfection
- Something better than Nothing
- Keep it Simple
- ความต่อเนื่อง
- การผสมผสานเข้าเป็นส่วนหนึ่งของระบบการบริหารขององค์กร
++++++++++++++++++++++++
Key Performance Indicator (KPI) - ดัชนีชี้วัดผลการดำเนินการที่สำคัญ
ประโยชน์ของ KPI
- ใช้วัดผลงานตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้
- นำข้อมูลใช้พัฒนาและปรับปรุงงาน
แนวคิดเบื้องต้นเกี่ยวกับการประเมินผล
- ถ้าไม่สามารถวัด ไม่สามารถบริหาร (If you can't measure, you can't managed)
- ถ้าไม่สามารถวัด ไม่สามารถพัฒนา (If you can't measure, you can't improved)
- อะไรที่วัด สิ่งนั้นคนจะให้ความสนใจ (What gets measure, gets done)
- วัดหรือประเมินเฉพาะสิ่งที่มีความสำคัญเท่านั้น (Key Performance Indicators)
การกำหนดตัวชี้วัด (Key Performance Indicators)
- เป้าประสงค์----สิ่งที่จะวัด / จะวัดอะไร / What to measure?
- ตัวชี้วัด----จะวัดอย่างไร / How to measure?
- ภายใต้เป้าประสงค์แต่ละประการ อะไรคือตัวชี้วัดที่จะบอกได้ว่าสามารถบรรลุเป้าประสงค์ดังกล่าว
- ตัวชี้วัดสามารถพิจารณาได้ในแง่ ปริมาณ / คุณภาพ / ต้นทุน / เวลา
ค่าของ KPIs แสดงเป็นตัวเลขในลักษณะของ
- ร้อยละ ( Percentage )
- สัดส่วน ( Proportion )
- อัตรา ( Rate )
- อัตราส่วน ( Ratio )
- จำนวน ( Number )
- ค่าเฉลี่ย ( Average or Mean )
ข้อสังเกตในการกำหนดเป้าประสงค์-ตัวชี้วัด
- เริ่มกำหนดจากเป้าประสงค์ ไม่ใช่จากตัวชี้วัด
- ให้มองภาพจากเป้าหมายในการดำเนินงานเป็นตัวตั้ง (ปริมาณ คุณภาพ ต้นทุน เวลา ฯลฯ)
- ไม่จำเป็นต้องกำหนดเป้าประสงค์ในทุกๆ งาน (ทุกๆ ข้อตาม JD) แต่ให้พิจารณาว่า จากผลลัพธ์ / ผลผลิต / เป้าหมายในการดำเนินงาน จำเป็นต้องดำเนินการสิ่งใดบ้างเพื่อให้บรรลุผลดังกล่าว เพื่อการพัฒนางานในปัจจุบันให้ดีขึ้น และการรักษาระดับคุณภาพงาน
- ตัวชี้วัดต้องสะท้อนต่อเป้าประสงค์ – หากไม่มีความสอดคล้องกัน อาจจะต้อง ทบทวนเป้าประสงค์ หรือกำหนดแนวทางวัดผล
- สามารถตั้งเป้าหมายและผลักดันได้ ต้องผลักดันได้ ไม่ใช่เป็นปัจจัยที่ขึ้นกับภายนอกอย่างเดียว ไม่ง่ายจนเกินไป – ไม่วัดงานก็ดีอยู่แล้ว และไม่ยากจนเกินไป – อีก 10 ปีก็ทำไม่ได้
- ในตัวชี้วัดทุกตัว และทุกระดับ จะมีการจัดทำรายละเอียดของตัวชี้วัด (KPI Template)
เป้าหมายแบบใด จึงจะเป็นเป้าที่ดี
-
Stretch Target เพื่อกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาล
-
Small Step Target เพื่อก่อให้เกิดการพัฒนาและปรับปรุงอย่างค่อยเป็นค่อยไป
-
Baseline Target เพื่อรักษาและป้องกันผลการดำเนินงานไม่ให้ต่ำกว่าที่ปัจจุบัน (หรือเพื่อรักษาตนเองให้ปลอดภัย)
การกำหนดกลยุทธ์
- กลยุทธ์เป็นสิ่งที่หน่วยงานจะทำหรือดำเนินการ เพื่อให้บรรลุเป้าประสงค์ที่ตั้งไว้
- เป้าประสงค์แต่ละประการ จะต้องมีกลยุทธ์มาสอดรับ
- โดยกลยุทธ์เป็นภาพใหญ่ที่มองถึงสิ่งที่จะทำเองให้บรรลุเป้าประสงค์ แต่ยังไม่ลงไปในรายละเอียดถึงขั้นของโครงการ
- กลยุทธ์แต่ละข้อจะต้องมีการกำหนดหน่วยงานเจ้าภาพ
แนวทางในการกำหนดกลยุทธ์
-
Top – Down
- แปลงจากนโยบายของรัฐบาล หรือของหน่วยงานระดับที่อยู่เหนือขึ้นไป
- จากสิ่งที่ Stakeholders หรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับองค์กร (เฉพาะกลุ่มที่สำคัญ) คาดหวังจากองค์กร
- จากผลการวิเคราะห์ SWOT
- จากสิ่งที่ผู้บริหารคิด หรืออยากจะทำ
-
Bottom – Up
- เปิดโอกาสให้บุคลากรได้มีส่วนร่วมในการเสนอแนะความคิดเห็น
++++++++++++++++++++++++++++++++
Logical Framework Approach - การจัดทำกลยุทธ์และแผนปฏิบัติการ
ยุทธศาสตร์ที่ดี ยังไม่พอ
-
Fortune Magazine กล่าวว่า 75% ที่แผนยุทธศาสตร์ล้มเหลว เพราะไม่สามารถนำไปทำต่อให้สำเร็จ
- แม้แผนยุทธศาสตร์ที่ดีเลิศ แต่ก็ไร้ค่า ถ้าไม่นำมาเขียนโครงการ และปฏิบัติโดยทีมที่มีความสามารถ
Logical Framework Approach
- พัฒนาในปี 1969 โดยองค์กร the United States Agency for International Development (USAID) และนิยมใช้โดย NGOs
-
Logical Framework Approach เป็นวิธีการออกแบบโครงการ ส่วน LogFrame คือชื่อเรียกเอกสาร
ลักษณะที่สำคัญ
- เป็นตาราง สี่คูณสี่
- แนวนอนมี เป้าประสงค์ วัตถุประสงค์ ผลลัพธ์ และ กิจกรรม
- แนวตั้งมี คำอธิบาย ตัวชี้วัด แหล่งข้อมูล และเงื่อนไขความสำเร็จ
ความเป็นเหตุเป็นผล
- มีเงื่อนไขว่าถ้ากิจกรรมประสบผลสำเร็จ จะส่งผลให้เกิดผลลัพธ์
- เมื่อเกิดผลลัพธ์ที่ต้องการ จะส่งผลให้บรรลุวัตถุประสงค์
- เมื่อบรรลุวัตถุประสงค์ จะทำให้เป็นไปตามเป้าประสงค์
แนวทางของ Logical Framework
- เกี่ยวข้องกับ การวิเคราะห์ปัญหา การวิเคราะห์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย วัตถุประสงค์ตามลำดับขั้น และการเลือกใช้ยุทธศาสตร์
- ผลจากการวิเคราะห์จะได้ Logframe ที่บ่งว่าโครงการจะทำอะไร ทำอย่างไร ข้อสรุปที่สำคัญคืออะไร ผลลัพธ์คืออะไร และรวมถึงการติดตามประเมินผล
ข้อดี
- เริ่มได้เร็ว ก็สำเร็จเร็ว
- เชื่อมโยงให้เห็นภาพรวม
- ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมีความเห็นร่วมกัน
- มีความร่วมมือกันเป็นทีม
- มีเป้าประสงค์ที่วัดได้
- ลดความเสี่ยงและลดปัญหา
จุดอ่อน
- มีความแข็งตัว ต้องทำตามขั้นตอนที่วางไว้
- ต้องใช้ข้อมูลละเอียดในการออกแบบโครงการ
- ต้องมีความรัดกุมชัดเจนและสอดคล้องเป็นเหตุเป็นผลซึ่งกันและกัน จึงใช้เวลาในการเขียนมาก ทำให้ไม่ได้รับความนิยม
++++++++++++++++++++++++++++++
การแปลงแผนยุทธศาสตร์จากระดับองค์กรสู่ระดับหน่วยงาน - หลักการและแนวคิดที่สำคัญ
- ควรจะเป็น Top - Down
- ควรให้ความสำคัญทั้งสิ่งที่จะวัด (What to measure) และตัวชี้วัด (How to measure)
- ควรพิจารณาทั้งการดึงเป้าประสงค์ลงมาจากระดับองค์กรและการกำหนดเป้าประสงค์ตามบทบาทหน้าที่ของหน่วยงาน
- ถ้าเป็นไปได้ควรจะเริ่มจากเป้าประสงค์ของหน่วยงานหลักก่อนแล้วค่อยต่อด้วยหน่วยงานสนับสนุน
- ในหน่วยงานสนับสนุนเป้าประสงค์และตัวชี้วัดจะออกมาในลักษณะของการพัฒนางานประจำให้ดีขึ้น หรือมีประสิทธิภาพ
ลักษณะของเป้าประสงค์ในระดับหน่วยงาน
-
Identical Goals เป้าประสงค์ที่เหมือนกับขององค์กร สามารถดึงขององค์กรมาได้เลย
-
Contributory Goals เป้าประสงค์ที่ไม่ได้เหมือนกับขององค์กรโดยตรง แต่กำหนดเป้าประสงค์ของหน่วยงานขึ้นมาที่ส่งผลกระทบต่อเป้าประสงค์ขององค์กร
-
Common Goals เป้าประสงค์ที่ทุกหน่วยงานในองค์กรมีเหมือนกัน
-
Unit Specific Goals เป้าประสงค์ที่เป็นของหน่วยงานโดยเฉพาะ ไม่ได้ส่งผลต่อเป้าประสงค์ขององค์กร แต่สะท้อนภาพงานของหน่วยงาน
แนวคิดสำคัญของการแปลงตัวชี้วัดสู่ระดับบุคคล
- เป้าประสงค์ในระดับบุคคลมาจากสามแหล่ง (ผู้บังคับบัญชา, Job Description, โครงการพิเศษที่ได้รับมอบหมาย)
- ก่อนจะลงระดับบุคคลได้ ต้องมีการจัดกลุ่มบุคคลที่ทำหน้าที่เหมือนกันเข้าไว้ด้วยกัน – Job Families
- ไม่ได้หมายความว่ามีบุคลากร 1,000 คนจะมีตัวชี้วัด 1,000 ชุด
- ในบางหน่วยงานตำแหน่งงานเดียวกันมีลักษณะงานที่เหมือนกัน หรือตำแหน่งงานเดียวกันมีลักษณะงานที่แตกต่างกัน
วิธีการและขั้นตอน – กรณีที่หน่วยงานไม่ได้มียุทธศาสตร์ของตนเอง
- ยืนยันในบทบาทหน้าที่ของหน่วยงาน
- จากยุทธศาสตร์ขององค์กร-หน่วยงานมีความเกี่ยวข้องรับผิดชอบ ในเป้าประสงค์ข้อใดบ้าง
- กำหนดเป้าประสงค์ของหน่วยงาน-ที่สอดคล้องและสนับสนุนเป้าประสงค์ขององค์กร
- จากบทบาท หน้าที่ความรับผิดชอบกำหนดเป้าประสงค์ที่หน่วยงานต้องการที่จะบรรลุ-ในส่วนที่ไม่อยู่ภายใต้เป้าประสงค์ที่ดึงมาจากขององค์กร
- นำเป้าประสงค์ทั้งสองส่วนมาจัดทำแผนที่ยุทธศาสตร์ตามสี่มิติ
- ยืนยันความเชื่อมโยงระหว่างแผนที่ยุทธศาสตร์ขององค์กรและของหน่วยงาน
วิธีการและขั้นตอน – กรณีที่หน่วยงานมียุทธศาสตร์ของตนเอง
- ยืนยันในวิสัยทัศน์ และยุทธศาสตร์ของหน่วยงาน รวมทั้งความเชื่อมโยงระหว่างยุทธศาสตร์ของหน่วยงานกับของหน่วยงานบังคับบัญชา
- บทบาท หน้าที่ของหน่วยงาน
- จากยุทธศาสตร์ของหน่วยงาน-จัดทำแผนที่ยุทธศาสตร์ (ตามแนวทางเดียวกับการจัดทำแผนที่ยุทธศาสตร์ขององค์กร)
- พิจารณาความเชื่อมโยง สอดคล้องระหว่างแผนที่ยุทธศาสตร์ของหน่วยงานกับแผนที่ยุทธศาสตร์ขององค์กร
- จากบทบาท หน้าที่ความรับผิดชอบ กำหนดเป้าประสงค์ที่หน่วยงานต้องการที่จะบรรลุ
- นำเป้าประสงค์ทั้งสองส่วนมาจัดทำแผนที่ยุทธศาสตร์ตามสี่มิติ
- ยืนยันความเชื่อมโยงระหว่างแผนที่ยุทธศาสตร์ขององค์กรและของหน่วยงาน
การจะนำกลยุทธ์ไปสู่การปฏิบัติได้ จะต้อง.......
-
กลยุทธ์เริ่มต้นที่ผู้นำ (Leadership)
-
ทั้งองค์กรต้องมุ่งเน้นที่กลยุทธ์ (Org. must focus on strategy)
-
การสื่อสารและถ่ายทอดกลยุทธ์ (Translate and communicate)
-
ทั้งองค์กรไปในทิศทางเดียวกัน (Alignment)
-
ทุกคนมีส่วนร่วมและรับผิดชอบต่อกลยุทธ์ (Accountability of strategic performance at all levels)
-
เชื่อมโยงกลยุทธ์กับแผนปฏิบัติการและงบประมาณ (Linkage to action plan and budget)
-
วัฒนธรรมองค์กรที่เหมาะสม (Right Culture)
-
กระบวนการและกิจกรรมที่เหมาะสม (Right Processes)
-
บุคลากรที่เหมาะสม (Right People)
-
ระบบการจูงใจที่เหมาะสม (Motivation)
สรุป
แม้องค์กรมีแผนยุทธศาสตร์ที่ดีเลิศ ก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถ้าไม่สามารถแปลงยุทธศาสตร์ไปสู่แผนปฏิบัติการ และทำให้สำเร็จตามเป้าหมายที่ได้วางไว้
******************************************