วันก่อน "ครูวิชาการ" ของโรงเรียนมาถามหา " แนวการนำ...อะไรสักอย่าง....เกี่ยวกับ
อาเซียน มาจัดทำหลักสูคร..." ต้องท้าวความย้อนกลับไปสองสามปีก่อน
สพป.จัดอบรมการพัฒนาหลักสูตรอาเซียนให้กับครู อันที่จริงต้องให้ครูวิชาการ
ไปเข้าอบรม แต่่ท่านผู้บริหารเล็งการไกล ให้ครูผู้สอนสาระสังคมศึกษาไปอบรม
เสร็จสรรพกลับมา.....ทำอะไรไม่ได้เลย...เพราะไม่เข้าใจ จึงมาปรึกษาคุณมะเดื่อ
คุณมะเดื่อหรือ....จะรู้เรื่อง....เพราะห่างหายกับงานวิชาการมานานเนิ่นแล้ว
แต่อาศัยว่า เคยผ่านงานด้านนี้มาพอควร .จึงลงมือจัดทำหลักสูตร
กลุ่มสาระภาษาไทยกับ ศิลปะ ป.๔ - ป.๖ ซึีงรับผิดชอบสอนอยู่
ครั้นจะขยายความไปแนะนำครูคนอื่น ๆ ก็ไม่สะดวกใจ
เพราะไม่ใช่หน้าที่ และไม่มีคำสั่ง.......จึงไม่สนใจ และไม่ได้ติดตาม
ว่าใครจะทำหรือไม่ทำ....
มาวันนี้ ครูวิชาการ มาพูดถึงเรื่องการจัดทำหลักสูตรอาเซียนกับคุณมะเดื่อ
อีกครั้ง เพราะ สพป.จัดอบรมอีกครั้ง และจะออกมาติดตามเร็ว ๆ นี้
คุณมะเดื่อเอาหลักสูตรสาระภาษาไทยกับศิลปะที่คุณมะเดื่อ
จัดทำไว้ ลองใช้ และพัฒนาแล้วให้ครูวิชาการดู เธอบอกว่า
"แบบนี้แหละค่ะ ใช่เลย" จึงบอกเขาว่า ทำไว้และใช้มาสองปี
เข้าปีที่สามแล้ว
อยากจะถามดัง ๆ ว่า.....โรงเรียนใด ที่จัดทำ และใช้หลักสูตร
สถานศึกษาเป็นแนวทางในการจัดการเรียนการสอนอย่างจริงจังบ้างจ๊ะ ?????
ที่ถามแบบนี้เพราะ คุณมะเดื่อเชื่อว่า.....ทุกโ่รงเรียนมีการจัดทำ
หลักสูตรสถานศึกษาทุกกลุ่มสาระ และทุกชั้น ๑๐๐ % (เพราะ
สพป.จัดอบรม และทำกันจริง ๆ ) แต่หลังจากวันนั้นแล้ว
วันนี้....ครูท่านใดยังกางหลักสูตรในการจัดทำแผนการจัดการ
เรียนรู้....อยู่บ้าง....ยกมือขึ้น...!
ต้องมีแน่ ๆ ใช่ไหมจ๊ะ.....แต่อีกมากมายหลายครู ที่ยังไม่คุ้นเคย
กับหน้าตาของหลักสูตรสถานศึกษา ของโรงเรียนตนเอง
อย่างแน่แท้.....ก็จะต้องไปดูที่ไหนล่ะ ใกล้ ๆ ตัวคุณมะเดื่อนี่ไงล่ะ
ไม่อยากจะบอกเล้ย....ว่า ครูเกือบทุกคน...ไม่เคยเห็นหน้าตา
ของหลักสูตรสถานศึกษากลุ่มสาระที่ตนเองรับผิดชอบ
สอนเด็กอยู่เลย.....เจ้าประคุณเอ๋ย...! ต้องบอกว่า หากไม่มี
หนังสือของสำนักพิมพ์ต่าง ๆ ที่อยู่ในมือแล้วไซร้...
เป็นอันว่า......สอนไม่เป็นเอาเลย....!
ในยุคแห่งการทำผลงาน (คศ.๓) คุณมะเดื่อต้องทำหน้าที่เป็น
"ที่ปรึกษา...จำเป็น" ให้กับครูที่มาขอคำปรึกษา ซึ้งต้องบอกว่า
ร้อยละ ๘๐ ขึ้น ไม่เคยเห็นหลักสูตรของโรงเรียนตัวเอง และไม่รู้ว่า
ในการจัดทำแผนการเรียนรู้ต้องนำสาระและหน่วยการเรียนรู้ของ
หลักสูตรสถานศึกษามาจัดทำ....๕๕๕๕๕๕
โรงเรียนทุกโรงเรียนต้องมีหลักสูตรสถานศึกษา ที่...เบื้ิองบน
เห็นดีเห็นงามว่าครูทุกคนจะต้องรู้เรื่องหลักสูตร และจะต้อง
ลงมือจัดทำหลักสูตรด้วยตนเอง เพื่อให้เป็นหลักสูตรที่
ตรงตามความประสงค์ของโรงเรียนและท้องถิ่น ...(.ดูดีจัง )
ปัจจุบัน หลักสูตรสถานศึกษาเป็นฉบับปรับปรุง โดยใช้้แนว
ของหลักสูตรแกนกลาง ๒๕๕๑ และต้องจัดทำให้สอดแทรก
ความรู้เกี่ยวกับอาเซียนศึกษาด้วย...ก็ว่ากันไปตามยุคสมัย
แต่...ก็นั่นแหละ...เมื่อหลักสูตรอันงามหรู ฮ์อฮา...ตามกระแสแห่ง
การเปลี่ยนแปลง ปรับปรุงหลักสูตรเสร็จสรรพแล้ว...ก็อันเชิญ
ขึ้นหิ้ง...เป็นอันเสร็จพิธี....ขึ้นหิ้งเป็นที่เป็นทางยังพอรู้นะ
ว่าหาก สพป.มาตรวจวันไหน ยังคว้าเอามาให้ดู (ต่างหน้าคนทำ)
ได้ แต่เอาไปซุกไว้กับกองกระดาษใต้โต๊ะ ผอ. หรือทิ้งให้ฝุ่นจับ
หรือหนูลากเอาไปทำรัง ปลวกดีใจที่ได้อาหารชั้นเยี่ยม
จนไม่เหลือซากแล้วนี่สิ....ลำบากหน่อย.........
ยามที่เบี้องบนจะมาติดตาม ถามหาหลักสูตร ๕๕๕๕๕๕
ต่อจากนั้น.... การเรียนการสอนก็หมุนเข้าสู่โหมด....ความน่าจะเป็น...เช่นนี้
กางตำราของสำนักพิมพ์สะดวกใช้ .... สอนกันไป ว่ากันตามตำรา
หากผิดแม้นิดเดียว...นั่นคือ ไม่ใช่ !
วันก่อน....ในการประชุมครู... (แบบจับประเด็นสาระอะไรไม่ได้เลย...)
ผอ.บอกว่า การสอบวัดผล ประเมินผลของประถม ต้องสอบ
ปลายภาคเรียน สองภาค เอาคะแนนมารวมกัน ส่วนครูที่เพิ่ง
ไปอบรมหลักสูตรมา บอกว่า " ระดับประถมมีแต่สอบปลายปี ไม่มีปลายภาค
สอบปลายภาค สองภาคเรียนมีแต่ระดับมัธยม "...๕๕๕๕ หนุกหนาน ๆ
ก็โต้กันไป โต้กันมา.....บทสรุปอย่างไร ไม่แจ้ง...เพราะคุณมะเดื่อ
ขี้เกียจรอฟัง จึงวอคเอ้าท์ มาก่อน
สักพักใหญ่ ครูวิชาการเดินออกมา คุณมะเดื่อจึงว่า " สรุปว่าอย่างไร"
น้องเขาบอกว่า ผอ.ก็ยังยืนยันเหมือนเดิม คุณมะเดื่ออยากจะหัวเราะดัง ๆ
แต่ก็คิดว่าไม่มีประโยชน์ (เหนือยเปล่า ๆ ) จึงบอกว่า " ทำไมไม่เอา
เกณฑ์การวัดผล ประเมินผล ที่อยู่ในหลักสูตรสถานศึกษามาดูกันล่ะ...!
จะมาเถียงกันทำไม...ในนั้นมันแจงไว้หมดสิ้นแล้ว พี่น้องงงง.....
ทราบว่า....อีกไม่นานก็จะได้ฤกษ์เปลี่ยนหลักสูตรแกนกลาง
กันอีกแล้ว....แต่ถ้าเหตุการณ์การใช้หลักสูตรสถานศึกษาในโรงเรียน
ยังเป็นแบบนี้อยู่...(ก็เป็นมานับแต่เปลี่ยนจากหลักสูตรยุคแรก ๆ
มาแล้วนั่นแหละ) แล้้วมันจะมีประโยชน์อะไรกับการเปลี่ยนแปลง
หลักสูตรอีกครั้ง....ในเมื่อ แม้แต่ผู้บริหารสถานศึกษา (บางคนนะ ไม่ได้เหมาโหล
รวมว่าทุกคนนะจ๊ะ โปรดเข้าใจ)................. ยังไม่มีความรู้
และไร้ความสามารถในการบริหารงานวิชาการ และไม่สามารถ
จะเป็นผู้นำในการพัฒนาหลักสูตรได้ ครูผู้สอน ( ส่วนใหญ่)
ก็ยังไม่รู้จักใช้ ไม่เคยหยิบหลักสูตรมาใช้ในการจัดการเรียนการสอนเลย
แบบนี้ จะเปลี่ยนหลักสูตรอีกสัก ร้อย สักพันครั้ง ก็สูญเปล่า
เปลืองงบประมาณอย่างไร้ประโยชน์....สู้เปลี่บนครู โดยเฉพาะ
เปลี่ยนผู้บริหาร ฯ (เฉพาะบุคคลที่ไร้สมองส่วนคิดสร้างสรรค์ )
ที่ไม่รู้จัก " หลักสูตร" เหล่านี้ให้ไปทำงานอื่นที่เขาถนัด
ไม่ดีกว่าหรือ ????.......พี่น้องงงงง
Do we have a forum (social netwrok) where teachers can make louder voice?
Your story is one example of how a nation can benefit from louder voice!
เป็นกำลังใจให้ครับคุณครูทั้งหลาย
สู้ๆครับ...
เป็นบันทึกที่แรงและจริงใจ พี่เป็นคนนอกที่เคยทำงานกับคร และรักวืชาชีพครูมากนะคะ สิ่งที่น้องครูมะเดื่อพูดพี่คยได้ยินครูหลายๆท่านพูดให้ฟัง พี่เห็นปัญหาชัดเชียวค่ะ
แผนการสอนเหมือนบทหนัง แผนการสอนดีเหมือนบทหนังดี ทำเป็นหนังก็ดูสนุก แผนการสอนดีสนุกทั้งคนเรียนคนสอน ทั้งเรียนรเรื่องทั้งเรียนสนุก
ขอบคุณบันทีกความจริงจากใจ สู้ สู้.....เน้อ
ตามมาเชียร์การทำงานครับ
สู้ๆครับ
เป็นกำลังใจในสิ่งที่ถูกต้องครับ
ส่งกำลังใจมาให้เสมอนะคะคุณครูหญิงเหล็ก
ตามมาให้กำลังใจนะคะ ...... อาหารปลวก...กินอาคาร .....555
ขอบคุณทุก ๆ กำลังใจจากมิตรรักแฟนเพลงทุก ๆ คนจ้ะ.....มันคือความจริง เรื่องจริง
ที่.....เป็นปัญหาใหญ่หลวงของวงการศึกษา (ระดับรากหญ้า รากฝอย รากขนอ่อน) ที่
ผู้ที่เกี่ยวข้องมองว่า....ไม่ใช่ปัญหา....ทำให้ไม่มีการแก้ปัญหาให้ลุล่วงไปสักครา ก็คงเหมือนกับอีก
หลาย ๆ ปัญหาของการศึกษาไทย ที่ถูกโยนกอง ๆ สุม ๆ เอาไว้ ให้เน่าเปีื้่อยจนย่อยสลาย
กลายเป็นปุ๋ยไปเอง.....เฮ้อ...! อนิจจา...การศึกษาไทย