อันความรู้ หมู่ชน ต่างค้นหา
เสียเงินตรา ค่าครู แก่ผู้สอน
ใบประกาศ วัดว่า วิชากร (ผู้รู้ดี)
แล้ววิ่งร่อน กรไหว้ ได้งานทำ
ทักษะจริง อิงตำรา ภาษาวาท
แต่กลับขาด ทัศนา จริยต่ำ
รู้ผิวนอก ยอกย้อน อ่อนหลักธรรม
จึงบุ่มบ่าม ตามอารมณ์ สังคมไทย
อยากได้แหล่ง แอ่งอู่ ความรู้รอบ
ต้องหนีกรอบ มวลมาร พาลทั้งหลาย
เข้าดงป่า หาสัตว์ ทัศนัย
ครูแมกไม้ ใบกิ่ง ตามสิงขร
สัตว์วานร นอนกิน ในถิ่นป่า
เกิดทักษะ มหาศาล การสั่งสอน
ได้สืบทอด ยอดเยื่อ เชื้อวานร
จึงสะท้อน ตอนเราเกิด เปิดตำรา
แหล่งเรียนรู้ อยู่ดง พงไพรสน
มีมากล้น จนใจ จะใฝ่หา
ป่าดงใหญ่ กลายเป็นกล่อง ห้องตำรา
แหล่งวิชา ยาเภสัช แหล่งพัฒน์ใจ
พระพุทธองค์ ปลงละ เข้าหาชัฎ
แสวงสัจ ทัศนา หาหมุดหมาย
จนบรรลุ รู้ธรรม ล้ำเวไนย
เพราะร่มไม้ ไพรสน กลปัญญา
กระแสชน คนโลก ดูวกว่าง
กลับสรรสร้าง ตั้งมหาลัย ในเคหา
แหล่งภูมิรู้ อยู่ที่ห้อง ผองตำรา
แหล่งวิชา อยู่หน้าคอม หลอมคนเมือง
ปัญญาจริง ยิ่งยอด สอดในจิต
กายผลิต แหล่งปัญญา มหาเหมือง
มีเพชรพลอย สร้อยกำไล ไหลนองเนือง
ปัญญาเนื่อง นำหนุน คุณอนันต์
ป่าชีพชน พลโลก มีรกรู้
เป็นแหล่งอู่ อุปสรรค ดักทุกฐาน
เป็นแหล่งเกิด แหล่งตาย ย้ายวิญญาณ
เป็นแหล่งปั้น สุขทุกข์ ปลูกปัญญา
เพราะมีกาย จึงได้รู้ ลู่ทั้งผอง
มีสมอง ไว้รองรับ จับผัสสา
เพราะมีจิต จึงรู้ฤทธิ์ จิตมายา
เพราะมีป่า กายาเมือง เรืองปัญญา
-----------๑๙/๒/๕๘----------
ไม่มีความเห็น