การศึกษาไทยต้องเอาใจใส่การช่วยเด็กพัฒนาอัตลักษณ์



นี่คือส่วนที่ขาดของการศึกษาไทย และผมคิดว่ามีส่วนทำให้เกิดปัญหาติดยาเสพติด ตั้งครรภ์วัยรุ่น และปัญหาสังคมอื่นๆ ในเด็กและวัยรุ่น ที่จริงมี Chickering Theory of Identity Development ออกมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1969 และมีสอนในวิชาครู แต่การศึกษาไทยไม่ได้เอามาปฏิบัติอย่างจริงจัง เพราะมัว "สอนเพื่อสอบ"

ที่จริงน่าจะเรียกว่า ทฤษฎีของชิกเกอริ่งว่าด้วยการพัฒนา ๗ มิติ มากกว่า เพราะการพัฒนาอัตลักษณ์เป็นเพียง ๑ ใน ๗ มิติ อันได้แก่

  • ๑.การพัฒนาสมรรถนะ (competence)
  • ๒.การจัดการอารมณ์
  • ๓.การพัฒนาความเป็นอิสระและการพึ่งพาอาศัยกันกับผู้อื่น
  • ๔.การพัฒนาความสัมพันธ์กับผู้อื่น แบบผู้ใหญ่
  • ๕.พัฒนาอัตลักษณ์ (identity)
  • ๖.พัฒนาเป้าหมายในชีวิต
  • ๗.พัฒนาความซื่อสัตย์ (integrity)

เพราะการศึกษาไม่เอาใจใส่มิติด้านการพัฒนาอัตลักษณ์ และเป้าหมายในชีวิต เมื่อโตเป็นวัยรุ่น ชีวิตจึงเคว้งคว้าง เมื่อเผชิญกับแรงกระตุ้นทางเพศภายใน และแรงชักจูงหรือกดดันจากเพื่อน (peer pressure) จึงเสียคนง่าย ยิ่งทักษะในการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น แบบผู้ใหญ่ต่อผู้ใหญ่ (ข้อ ๔) อ่อนแอ ก็ยิ่งเสียคนง่ายขึ้น เพราะไม่รู้จักหลีกเลี่ยงปฏิสัมพันธ์ที่มีผลทางลบ

การศึกษาแบบเน้น "สอน" หรือถ่ายทอดความรู้สำเร็จรูป เน้นให้จำไว้สอบ จะไม่พัฒนาข้อใดๆ เลยใน ๗ ข้อข้างบน

จะพัฒนามิติทั้ง ๗ ได้ ต้อง "สอนแบบไม่สอน" คือจัดการศึกษาแบบ constructionism ให้เด็กเรียนรู้จากการปฏิบัติของตนเอง ตามด้วยการคิดใคร่ครวญไตร่ตรอง (reflection/AAR) ครูต้องมีทักษะการโค้ชให้ศิษย์ใคร่ครวญไตร่ตรองร่วมกัน แล้วเกิดการพัฒนามิติทั้ง ๗ ของชิกเกอริง

ครูต้องเรียนรู้ ใน "ชุมชนเรียนรู้ครูเพื่อศิษย์" เพื่อพัฒนาวิธีการทำหน้าที่โค้ช/คุณอำนวย ให้ศิษย์ได้พัฒนามิติทั้ง ๗ อย่างลึกซึ้ง และสนุกสนาน เกิดการเรียนรู้แบบที่เรียกว่า Mastery Learning และ Transformative Learning ทั้งในตัวครู และในตัวศิษย์


วิจารณ์ พานิช

๒๒ ธ.ค. ๕๗


หมายเลขบันทึก: 584169เขียนเมื่อ 19 มกราคม 2015 18:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มกราคม 2015 18:14 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท