มือถืออาจเพิ่มเสี่ยงมะเร็ง


ภาพ__ หัวคนผ่าซีก ให้เห็นสมอง 2 ซีก (ซ้าย-ขวา)

รหัสพันธุกรรม (DNA) 2 เส้นคู่ แสดงด้วยรูปกากบาท คล้ายปาท่องโก๋

.

ทฤษฎีมะเร็ง คือ มะเร็งจะเกิด เมื่อมีการเปลี่ยนแปลง 3 ขั้นตอน

รหัสพันธุกรรม (DNA) ที่แสดงผลได้ เรียกว่า "ยีนส์ (genes)"

(1). มียีนส์มะเร็ง (oncogenes)

(2). ยีนส์ที่กดยีนส์มะเร็งไว้ ไม่ให้แสดงออก (suppressor genes) ไม่ทำงาน

(3). ระบบภูมิต้านทานโรค ทำลายเซลล์มะเร็ง ไม่ได้

.

ถ้ายีนส์มะเร็ง เป็นผู้ร้าย หรือผู้ก่อการร้าย

ยีนส์ที่กดยีนส์มะเร็ง จะคล้าย ผู้คุม หรือ เรือนจำ

ภูมิต้านทานโรค จะคล้าย สายตรวจ หรือ สายลับ

ถ้าพลาด 3 ขั้นตอน = เกิดมะเร็ง

การศึกษาใหม่จากสวีเดน

เปรียบเทียบคนเป็นมะเร็งสมอง 1,380 คน

กับ กลุ่มควบคุม ที่ไม่เป็น

.

พบ "สวีดส์ (Swedes = ชาวสวีเดน) ที่ใช้โทรศัพท์ไร้สาย (cordless) หรือมือถือ (mobile)

เพิ่มเสี่ยงมะเร็งสมอง (glioma) ดังนี้

(1). 20-25 ปี = 2 เท่า

(2). นานกว่า 25 ปี = 3 เท่า

.

ทีนี้ข่าวร้าย มักจะมาคู่กับ ข่าวดี

ข่าวดีที่ว่านี้ คือ มะเร็งสมองแบบนี้ พบน้อยมาก

ในยุโรป พบเกิน 5 ในแสนเล็กน้อย

= คน 100,000 คน เป็นมะเร็งนี้ น้อยกว่า 5 คนใน 1 ปี

.

การศึกษาก่อนหน้านี้ มีทั้งสนับสนุน และ คัดค้าน

เรื่อง การใช้มือถือ เพิ่มเสี่ยงมะเร็งหรือไม่

วิธีที่ใช้วิจัยส่วนใหญ่ คือ

คนเรา มักจะใช้มือข้างที่ถนัด ถือมือถือ

ถ้าเป็นมะเร็งจากมือถือ

มักจะเป็นสมองข้างเดียวกับมือที่ถนัด

คน 90% ถนัดขวา

อีก 10% ถนัดซ้าย

.

ถ้าถนัดขวา = น่าจะ เป็นมะเร็งสมองด้านขวา

การศึกษาก่อนหน้านี้ มีทั้งสนับสนุน และคัดค้านว่า

มือถือ เพิ่มเสี่ยงมะเร็งสมองหรือไม่

ทว่า... ผู้เชี่ยวชาญ แนะวิธีใช้โทรศัพท์ไว้อย่างนี้

.

(1). ควรจำกัดเวลาใช้โทรศัพท์ ในเด็ก

เพราะกะโหลกบางกว่า หัวเล็กกว่า

และ สมองดูดซับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าได้มากกว่าผู้ใหญ่

ความเสี่ยงในการก่อมะเร็ง อาจใช้เวลาหลายสิบปี

ทำให้ คนที่อายุน้อย เสี่ยงมากกว่า คนอายุมาก

.

(2). อย่าวางโทรศัพท์ไว้ใกล้ส่วนหัว หรือใกล้หมอน

เด็กผู้หญิงฝรั่ง มีแนวโน้มจะวางโทรศัพท์ไว้ใต้หมอน มากกว่าคนกลุ่มอื่น

คำแนะนำทั่วไป คือ ให้ปิดโทรศัพท์มือถือก่อนนอน

และ วางไว้ไกลตัว (ระวังหายด้วย)

.

(3). ใช้ small talk

การใช้สายต่อ สมอลล์ ทอล์ค แบบมีสาย ไม่แพง

ช่วยลดปริมาณคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าไปยังสมองได้มาก

สมอลล์ ทอล์ค แบบใช้สายต่อ ดีกว่าแบบบลูทูธ หรือไร้สาย

.

(4). ฝึกยืนหรือเดิน แทนนั่งรับโทรศัพท์

การยืน หรือเดิน จะทำให้โทรศัพท์ได้ไม่นาน เท่านั่ง

แถมยังได้ออกกำลังไปในตัว

.

(5). ฝึกฟังสลับหู

ฝึกฟังสลับหู ซ้าย-ขวา ทุกๆ 15-20 นาที

วิธีนี้ลดเสี่ยงคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าด้วย

ลดเสี่ยงหูตึงได้ด้วย

การศึกษาที่ทำในหนูทดลอง จากมหาวิทยาลัยลุ้นท์ (Lung U), สวีเดน

พบว่า หนูที่ได้รับคลื่นจากมือถือมากๆ มีความจำแย่ลง

นักวิจัยอธิบายว่า

การได้รับคลื่นจากมือถือ นานๆ อาจะทำให้ชุดเส้นเลือดในสมองเสื่อมสภาพชั่วคราว

.

เส้นเลือดในอวัยวะเกือบทั้งหมด (ยกเว้นสมอง + ไต)

มีผนัง 1 ชั้น มาจากผนังเส้นเลือดชั้นใน

เส้นเลือดที่สมองมีผนังกั้น 2 ชั้น

คือ เพิ่มผนังจากเซลล์พี่เลี้ยงสมองอีก 1 ชั้น

.

เรียกว่า เจ้า 3B = BBB

(blood-brain barrier)

ผนังเส้นเลือด ทำหน้าที่คล้ายเป็นด่าน หรือตัวกรอง

ยอมให้น้ำ ออกซิเจน น้ำตาล เกลือแร่ ฮอร์โมน และสารบางอย่าง เช่น ยา ฯลฯ ผ่าน

.

ไม่ยอมให้อะไรอีกหลายอย่างผ่าน

เช่น ไม่ยอมให้โปรตีนไข่ขาว หรืออัลบูมิน ซึมผ่าน

แต่เมื่อหนูโดนคลื่นมือถือ แรงๆ นานๆ

พบว่า โปรตีนไข่ขาวซึมออกจากเส้นเลือดได้

.

ทำให้สมองบวม

แถมยังพบเซลล์สมองส่วนนอก

และ ส่วนเก็บความจำ (hippocampus) เสื่อมสภาพได้

.

ถึงตรงนี้... ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ

.

From > http://www.reuters.com/article/2014/11/11/us-brain...

SOURCE by Reuters: Pathophysiology, online October 28, 2014.

From > http://drmirkin.com/public/ezine011109.html

หมายเลขบันทึก: 580334เขียนเมื่อ 13 พฤศจิกายน 2014 11:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 พฤศจิกายน 2014 11:22 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท