๕๙๑. การฝึกจิต


การฝึกจิต

ยิ่งฉันอายุมากขึ้นเท่าไหร่...ทำให้เข้าใจและเข้าถึงเรื่องของ "ธรรมะ"

มากขึ้น...ในสมัยเด็ก ๆ รู้แต่เพียงว่า...โรงเรียนหรือครูบังคับให้ฉันได้

เรียนวิชาศิลธรรม...เรื่องของธรรมะ...ฉันเบื่อ ฉันรำคาญ ฉันงง...เพราะ

ฉันไม่ชอบ คิดไม่แตกว่า...จะเรียนไปทำไมกัน...ฉันไม่เข้าใจ...ถามใคร ๆ

ก็ไม่สามารถให้คำตอบต่อฉันเองได้ว่า...ให้ฉันได้เรียนเรื่องธรรมะไปเพื่อ

อะไร?...ฉันจึงเรียนรู้ด้วยตัวของฉันเองมาเรื่อย ๆ...ด้วยการเดิมพันกับ

เวลาและอายุตัวของฉันที่เริ่มมากขึ้น...เรียกว่า...ตามรายทางที่ฉันย่างก้าว

เดินผ่านมา...ฉันได้รับความรู้ + ประสบการณ์ เกี่ยวกับธรรมะ ด้วยการเรียนรู้

ด้วยตัวเองบ้าง จากการปฏิบัติด้วยตัวฉันเองบ้าง...เข้าวัดเพื่อพาบุคลากร

ของมหาวิทยาลัยไปเข้ารับการอบรมปฏิบัติธรรมบ้าง...จวบจนวัยย่างเข้า

ปีที่ ๕๓...ฉันได้ศึกษาเรื่อง "ธรรมะ" มากขึ้น และนำมาปฏิบัติต่อฉันเอง

ฉันได้เข้าใจหลักธรรมะ จากความเป็นจริง...จากชีวิตของฉันเองเป็นเดิมพัน

ในการเรียนรู้เรื่อง "หลักธรรม" จากข้อคิดในการดำเนินชีวิต...จากคำคมต่าง ๆ

ที่ฉันเป็นเพื่อนกับพี่ ๆ น้อง ๆ เพื่อน ๆ ใน FB สามารถนำมาเป็นหลักปรัชญา

ในการปฏิบัติตนเองได้เป็นอย่างดี...ฉันเข้าใจและกระจ่างมากขึ้นเกี่ยวกับ

การใช้ "หลักธรรมะ" ในชีวิตประจำวัน...เมื่อเข้าใจและปฏิบัติต่อตนเองและ

คนรอบข้างมากขึ้นเท่าไร...ความอิ่มใจ สุขใจ ก็ปิติขึ้นภายในจิตใจ...

บางคราวมีเรื่องทุกข์ใจ...ฉันหัดฝึกจิตให้มีสุข...ฉันสามารถทำได้ด้วยตัวของ

ฉันเอง...ฝึกไปแบบนี้เรื่อย ๆ สุดท้าย...ฉันสามารถฝึกจิตและควบคุมจิตใจ

ของฉันได้มากขึ้น...อะไรจะสุขใจได้เท่ากับ...ที่ตัวเราเองรู้จักควบคุม "จิตใจ"

ของเราให้ใสและนิ่งสงบได้...ฉันเพิ่งค้นพบ...สิ่งที่เรียกว่า..."ความสุข" ขึ้น

ภายในใจมากขึ้น ก็ต่อเมื่อฉันอายุย่างเข้าปีที่ ๕๓...ฉันคิดต่อว่า..."ดีนะที่ฉัน

ยังมีโอกาสเข้าใจในเรื่องของการฝึกจิตของฉันเอง"...ทำให้ใจใส ใจนิ่งสงบได้

ถึงแม้มีเรื่องทุกข์เข้ามากระทบ...เพียงแค่นิดเดียวจริง ๆ ระยะสั้น ๆ...ฉันก็สามารถ

ควบคุมจิตใจของฉันให้กลับมามีความสุขได้...ฉันเพิ่งเข้าใจกับ คำว่า...เมื่อคนเรา

มีศีล สมาธิแล้ว สุดท้ายก็มีปัญญาเกิดขึ้นภายในจิตใจ...สามารถทำให้ตัวฉัน

แก้ไขปัญหา สิ่งต่าง ๆ ได้ด้วยตัวของฉันเอง...นี่คือ การฝึกจิตของตัวของฉันเอง

หัดมีจิตเมตตา เอื้อเฟื้อต่อคนรอบข้างให้มาก ๆ...ความสุขจะบังเกิดขึ้นเอง...

สิ่งใดที่เป็นกิเลสต่อตัวเอง ละได้ ก็ละเสีย...จิตใจจะได้นิ่งสงบและใสเย็น

เช่น น้ำใส...ขอบคุณทุกสิ่งอย่างบนโลกนี้ ที่ทำให้ฉันค้นพบเรื่อง "การฝึกจิต"

ของฉันให้เกิดการควบคุมการฝึกจิตไปในทิศทางที่ดียิ่งขึ้น...เพราะจิตดีมันจะ

ส่งผลมาจากข้างในของร่างกายเราเอง...ซึ่งแต่ก่อนฉันไม่เคยทราบเลยว่า

"การฝึกจิต" นั้นเป็นเช่นไร?...แม้ว่า ใคร ๆ จะทำไม่ได้ก็ตาม...สำหรับตัวของฉัน

ฉันสามารถทำได้...สุขใดไหนเล่าจะเท่ากับการได้ "ฝึกจิต" ของเราเอง...

ทำให้ใจเราเกิดสุขอย่างบอกไม่ถูก...อาจเพราะผลบุญกุศลที่ฉันได้สะสมมา

ไม่รู้ว่ากี่ภพกี่ชาติก็เป็นได้ จึงทำให้ฉันได้เข้าใจและสามารถทำได้...ขอบคุณจริง ๆ...

ที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์และได้ฝึกปฏิบัติได้ตามความเป็นจริงของโลก...

...

"การคิดดี...พูดดี...ทำดี...คือ ข้อมูลเบื้องต้นของการได้ฝึกจิต...

...

ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้เกียรติเข้ามาอ่านบันทึกนี้ค่ะ

บุษยมาศ แสงเงิน

๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๗



หมายเลขบันทึก: 580284เขียนเมื่อ 12 พฤศจิกายน 2014 14:29 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 พฤศจิกายน 2014 14:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ชอบมากค่ะบทความนี้..(..เมื่อ..ค้นพบ..ตัวตน..ว่า..จิตที่แท้นั้น..ประภัทรสร..)..จิตกับกาย..สัมพันธ์..กัน..และแยก..สุดท้าย..ของชีวิต..คือ..คำว่า.."อนัตตา"..

ปีหน้า ศูนย์วิปัสสนาเชียงใหม่มาจัดฝึกอบรมที่ มรภ.พิบูลสงคราม ระหว่างวันที่ 18-25 เมย 58 เผื่อ อ.บุษ จะสนใจเข้าอบรมครับ ติดต่อผ่าน อ.ทิพย์สุดา อินทะพันธ์ ได้เลย หรือดูรายละเอียดที่นี่

ขอบคุณค่ะ คุณคณิน อ.ทิพย์สุดา มาจีบบ่อย ๆ แต่ไม่ค่อยได้เข้ากับท่านหรอกค่ะ เพราะนานมาก...ที่เป็นปัญหา นั่นคือ ภาระงานที่จะต้องปฏิบัตินี่สิค่ะ มากมาย เคลียร์ออกยากมากค่ะ ขอปฏิบัติในแต่ละวันก่อนนะคะ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท