ชีวิตหลังเกษียณ


     ถึงวันนี้เดือนตุลาคม อาจจะช้าที่จะกล่าวถึง คุณครูที่เกษียณอายุราชการปีนี้ ก็หมดภาระหน้าที่งานประจำการสอน แต่ภาระหน้าที่ของชีวิตยังไม่สิ้นสุด คงต้องเตรียมใจเตรียมกาย ให้ผ่อนคลายกับสภาพใหม่หลังเกษียรอายุราชการ จากที่เคยเป็นเคยอยู่เคยชิน ตั้งแต่ลาภยศสรรเสริญ มาเป็นชาวบ้านธรรมดา สลัดความเคยชินนั้นออก รับสภาพเป็นจริงปัจจุบัน

     เมื่อถึงวันที่ 30 กันยายน ใจหาย แรกๆก็อาจดีใจ ต่อมาก็เหงา ซึมเศร้าเพื่อนฝูงมีเริ่มห่างหาย แรกๆก็แวะเวียนมา ในไม่ช้าก็เหินห่างและเลือนหาย ทำอย่างไรจะให้มีความสุขหลังเกษียณ วิธีหนึ่งก็หางานอดิเรกทำ งานที่เราชอบงานที่เราอยากทำ ออกกำลังเดินตอนเช้าอากาศดี เต้นแอร์โรบิคมีหลายที่ไม่ต้องเสียเงินได้เพื่อนได้สุขภาพ

      อ่านหนังสือ เขียนหนังสือเขียนบันทึกอะไรก็ได้ที่เราอยากเขียนได้อ่านได้คิดได้เขียนได้คุยสมองไม่ฝ่อ อัลไซด์เมอร์ไม่กล้ำกราย บางคนไม่เคยสวดมนต์ก่อนนอนหรือสวดมนต์ตอนเช้า นั่งสมาธิ อุทิศส่วนกุกศให้เจ้ากรรมนายเวร สวดทุกวันทำทุกวัน จิตใจสงบไม่ฟุ้งซ่าน อ่านหนังสือธรรมะฝึกปฎิบัติ ทีละเล็กทีละน้อย ในที่สุดโลภ โกรธ หลงจะเบาบาง จะผ่อนคลยความเครียด ความทุกข์เกิดสุขขึ้นในใจ

      ใช้น้อยกินน้อยอย่าก่อหนี้ เงินบำนาญไม่มากพอที่จะใช้จ่ายอย่างฟุ้มเฟือยได้กับค่าครองชีพในปัจจุบัน ยิ่งมีหนี้เก่าที่ยังใช้ไม่หมดชีวิตหลังเกษียณยิ่งรันทดยิ่งนัก จะบอกว่าต้องวางแผนหลังเกษียณอย่างน้อยห้าปีก็ช้าเกินไปไม่ทันต่อเหตุการณ์ของผู้เกษียณปีนี้ ก็ต้องคิดต่อไปว่าปัจจุบันจะทำอย่างไร

      อยู่อย่างสมถะปรัชญาของในหลวงใช้ได้ตลอดกาลอยู่อย่างพอเพียงลดละความอยากได้โน่นอยากได้นี่ ใช้ความอดทนต่อสิ่งเร้าไม่กี่ปีก็รอดพ้นต่อปัญหา

      ก่อนเกษียณ ห้าปีผู้เขียนมีหนี้หนึ่งล้านห้าแสน หนี้เพราะซื้อบ้าน หนี้หนึ่งล้านห้าแสนกับเวลาห้าปีจะทำอย่างไรในชีวิตอยากมีบ้านสักหลังไว้นอนพักหลังเกษียณ ปรึกษากับสมาชิกในบ้านทุกคนต้องร่วมมือกันบอกให้รู้ว่าเรามีกำลังการใช้จ่ายมีภาระอย่างไร ต้องลดค่าใช้จ่ายทุกคนตัดของฟุ่มเฟือยหมดทุกอย่างทุกคนเข้าใจร่วมมือ ล้านห้ากับเวลาห้าปีก็ผ่านพ้นไปได้เกษียณแล้วจึงปลอดหนี้ทุกอย่าง ชีวิตทุกวันนี้ก็อยู่อย่างพอเพียงไม่หลงไปตามกระแสความนิยมของสังคมที่มีแต่สิ่งมอมเมาของโลกยุคเทคโนโลยี

    สุดท้ายผู้เขียนมิอาจเอื้อมแนะนำใครได้เพียงแต่อยากคุยสู่กันฟังชีวิตหลังเกษียณจะมีความสุขจะมีความทุกข์ ก็อยู่ที่ว่าเราจะปฏิบัติตัวอย่างไร ปล่อย ลด ปลด วาง หรือจะแบกรับอดีตที่เคยรุ่งเรื่องไปด้วยลาภ ยศ สรรเสริญที่ถาโถมจิตใจให้ซึมเศร้า เหงาหงอยและเฉาตายไปในที่สุด

     ท้ายที่สุด ก็ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ที่เกษียณอายุราชการในปีนี้และปีต่อๆไปมีสุขภาพกายแข็งแรงสุขภาพใจสว่างเบิ่งบานตลอดไป 

                                                                 ข้าราชการบำนาญ ปี 54(อุทกภัยครั้งใหญ่ที่เจอเต็มๆ)

หมายเลขบันทึก: 579256เขียนเมื่อ 25 ตุลาคม 2014 14:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 ตุลาคม 2014 14:23 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

เป็นกำลังใจให้ค่ะ เวลาว่างชอบอ่านและเขียนบันทึก วาดรูป ประวัติย่อๆ คือ เรียน กศน.ตั้งแต่ ป7- ม.3 เคยไปสมัครเป็นผู้ช่วยพยาบาล ที่ รพ.ตำรวจ พอไปเห็นคนไข้ จากอุบัติเหตุต่างๆ มือไม้สั่นใจหวิว เลยเบนเข็ม มาเรียนครู ภาคค่ำ เขาเรียกว่า วายร้าย จบปริญญาตรี มศว.บางเขน ไปบรรจุต่างจังหวัด เลยรู้ว่าคนอื่นเขาลำบากกว่าเราเยอะ ชอบไปเที่ยวกางเต้นเหมือนกัน แต่ไม่ค่อยได้ไป ทำแต่งาน ตอนนี้เกษียณ แต่ก็ยังทำงานประเภทจิตอาสา เหนื่อยได้ท้อได้แต่อย่ายอมแพ้กับโชคชะตา

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท