ทำไมคนไทยที่อยู่ใกล้ชิดกับพุทธศาสนามากกว่า รู้จักมาตั้งแต่เกิด ได้พบเห็น สัมผัสพิธีกรรม ประเพณี เห็นวัดมาตลอด แต่คนชาติตะวันที่บินข้ามน้ำข้ามทะเลมาศึกษาพุทธศาสนาในเวลาไม่นาน..
จึงสามารถเข้าถึงแก่นธรรมได้มากกว่าคนไทย ที่อยู่ใกล้ชิดกับพุทธศาสนามานานกว่า
มองอย่างพิเคราะห์ วิธีการสอนพุทธศานาสู่การรับรู้นั้น แตกต่างกัน
คนไทยนั้น เรียนรู้พุทธศาสนา จากการเรียนภาษาบาลี แล้วจึงแปลออกมา กว่าจะเข้าใจความหมายก็ต้องใช้เวลาตีความให้ตกผลึกในความรู้ เช่น ศึกษาเรื่อง ญาณ เพื่อให้เข้าใจถึง สมาธิ
แต่เมื่อสอนชาวตะวันตก สอนเรื่องสมาธิเลย ไม่ต้องไปแปล ใช้ภาษาง่ายๆ สอนถึงการมีสติ สมาธิในชีวิตประจำวัน
เมื่อคนตะวันตก เห็นหัวข้อ ศีล สมาธิ ปัญญา เกิดความสนใจว่า อะไรคือแก่นแท้ จึงสามารถใช้เวลาศึกษาและเข้าถึงแก่นธรรมในเวลาไม่นานนัก
แต่คนไทย ต้องแปลความ และตีความจนตกผลึก
การที่คนตะวันตกสามารถเข้าถึงแก่นธรรมได้มากกว่าคนไทยนั้น มีข้อสังเกตว่า คนตะวันตกที่ลงทุนเดินทางมาศึกษาพุทธศาสนา ได้ผ่านการกลั่นกรองมาแล้ว สนใจที่จะมาศึกษาจริงๆ และเอาจริงเอาจัง ในการหาความรู้
แต่คนไทยหลายคน คุ้นเคยกับพุทธศาสนา เห็นมาตั้งแต่เกิด เลยอาจคิดว่า ตนเองรู้จักพุทธศาสนาดีอยู่แล้ว..
เมื่อเกิดมาก็มีระบุไว้ในทะเบียนบ้านแล้วว่า นับถือศาสนาพุทธ
แต่ศีล 5 ข้อ หลายคนยังไม่สามารถรักษาศีลได้เลย
ปัจจุบัน การปฏิรูปการให้ความรู้ในพุทธศาสนาจึงเปลี่ยนไป พระ ฆราวาส เอาหลักธรรมมาย่อยให้ง่ายขึ้น เช่น ท่าน ว.วชิรเมธี, ดังตฤณ กับหนังสือที่หลายคนชื่นชอบอย่าง เสียดายคนตายไม่ได้อ่าน, อย่าให้ความตายทำร้ายท่าน
เป็นการสอนโดยใช้คำธรรมดา ที่น่าสนใจและคนทั่วไปอ่านแล้วเข้าใจง่ายยิ่งขึ้น
คนเขียนหนังสือธรรมะก็สามารถที่จะร่ำรวยได้ โดยไม่ต้องอิงกระแสตะวันออกมากนัก
ไม่มีความเห็น