สิ่งที่มวลมหาประชาชนต้องการ
มีบาปอันร้ายแรงต่อชาติยาวนาน 82 ปี บาปนั้นก็คือผู้ปกครองทุกคณะเห็นผิดเรื่องระบอบประชาธิปไตย ว่าเป็นระบอบประชาธิปไตยแล้ว หากเห็นผิดก็คิดผิด พูดผิด ทำผิด ฯลฯ
เช่น เห็นและเชื่อว่าการเลือกตั้งว่าเป็นระบอบประชาธิปไตย นี่คือบาปอันร้ายแรงต่อชาติ
การเลือกตั้ง เป็นวิธีการหนึ่ง เพื่อคัดคนเข้าสู่การเมืองโดยใช้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน ซึ่งไม่เกี่ยวกับความเป็นระบอบประชาธิปไตย อาจจะเป็นระบอบอื่นก็ได้
ระบอบเผด็จการ ใช้วิธีการเลือกตั้ง เพื่อคัดคนเข้าสู่การเมือง ประชาชนถูกบังคับให้ไปเลือกตั้ง เขตเดียว คนเดียว มันก็ได้แต่ผู้มีอิทธิพล
ประเทศไทยนับแต่ 2475 เป็นมา 81 ปี มาแล้ว ประเทศไทยไม่เคยมีหลักการปกครองโดยธรรม หรือหลักการปกครองแบบประชาธิปไตย หรือจุดหมายร่วมของปวงชน หรือหลักเอกภาพของปวงชน หรือการเมืองของปวงชน หรือหลักนิติธรรมของปวงชน หรือหลักภราดรภาพของปวงชน หรือกฎหมายความมั่นคงสูงสุดของปวงชนอันเป็นกฎหมายสูงสุดของปวงชน นี่คือ ระบอบการเมืองของปวงชนอย่างแท้จริง
จงจำ จงจำไว้เถิดว่า ระบอบเผด็จการทุกชนิดจะไม่มีหลักการปกครองโดยธรรม ในมิติต่างๆ ดังกล่าวแล้ว
ระบอบเผด็จการทุกชนิด จะใช้กฎหมายรัฐธรรมนูญ เป็นเครื่องมือในการปกครอง แล้วบอกว่า รัฐธรรมนูญคือระบอบประชาธิปไตย หรือสอนในมหาวิทยาลัยว่า รัฐธรรมนูญกับระบอบประชาธิปไตย เป็นสิ่งเดียวกัน นี่คือบาปอันเป็นความเห็นอันร้ายแรงต่อชาติ อันเป็นผลพวงที่ได้แสดงออกมาจากพวก เอา2 ไม่เอา2 หรือพวกทายาทลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญโดยคณะราษฎร เมื่อ 82 ปีที่แล้ว
นอกจากนี้ ยังสอนว่า ระบบรัฐสภา คือระบอบประชาธิปไตย ความจริงประเทศไทย มันคือระบอบเผด็จการระบบรัฐสภา การมีฝ่ายรัฐบาล มีฝ่ายค้าน มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ มันเป็นเรื่องของระบบรัฐสภา และความจริงเป็นระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญระบบรัฐสภา
นอกจากนี้ยังสอนว่า วิธีการคือกฎหมายรัฐธรรมนูญ ต้องมาก่อน จุดหมาย คือระบอบฯ นี่ก็เป็นความเห็นผิดอย่างร้ายแรงที่ ที่ ศ., รศ., ผ.ศ. หลายคนสอนกันในมหาวิทยาลัย (สอนผิดไปจากสัจธรรม)
นอกจากนี้ยังสอนว่า “ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข” เอาเข้าซิ ประมุขแห่งรัฐจะเป็นประมุขระบอบได้อย่างไร และทุกวันนี้ความจริงมันคือระบอบเผด็จการ ก็กลายเป็นว่าเป็นการลดพระบรมเดชานุภาพจากประมุขแห่งรัฐ ให้มาทำหน้าที่ประมุขระบอบเผด็จการ แล้วอย่างนี้ก็คงได้ชื่อว่าเป็นกระบวนการลิดรอนพระบรมเดชานุภาพ ใช่หรือไม่ ก็นำไปคิดดู
นักการเมืองทุกตัว ทุกพรรค ยังเห็นผิดอย่างร้ายแรงต่อชาติว่านี่คือระบอบประชาธิปไตย ฝ่ายนายกฯ นางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร “ดินฉันจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องประชาธิปไตย” พูดสั้นๆ โง่แล้วยังเห็นผิด แท้จริงกำลังรักษาระบอบเผด็จการฯ
พรรคอื่นๆ ก็เช่นกัน “ปกป้องประชาธิปไตย ต้องไปเลือกตั้ง” นี่ก็เป็นความเห็นผิด แท้จริงยังคงรักษาระบอบเผด็จการ
พรรคประชาธิปัตย์ หลายคนขึ้นเวที พูดว่า “พวกเราออกมาต่อสู้ เพื่อรักษาระบอบประชาธิปไตย ใช่ไหมครับพี่น้อง” ถ้าเป็นประชาธิปไตย แล้ว ประชาชนได้ประโยชน์ ประชาชนไม่ออกมาเป็นเรือนล้านหรอกนะ แต่เพราะมันเป็นระบอบเผด็จการสุดๆ ไง
เพราะระบอบเผด็จการ จึงมีผลคือรัฐธรรมนูญเผด็จการ เพราะรัฐธรรมนูญเผด็จการ จึงมีผลคือรัฐบาลเป็นเผด็จการ เพราะรัฐบาลเผด็จการ จึงมีผลคือเผด็จการรัฐสภา เพราะ....จึงบริหารผิดพลาด ใครมาเป็นรัฐบาลก็บริหารผิดพลาด ใครมาเป็นรัฐบาล ก็โกงกินชาติ ท่านทั้งหลายจึงเห็นภาพ “อัปรีย์ไป จัญไรมา” ซ้ำซากอยู่เช่นนี้
เพราะความเห็นผิดอย่างร้ายแรงที่ว่า
เอากระกระดุมเม็ดที่สาม คือกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาใส่รางดุมเม็ดแรก
แล้วเอากระดุมเม็ดที่สี่ คือรัฐบาล มาใส่รางดุมเม็ดที่สอง
จึงเห็นชัดว่า การเมืองเผด็จการมันจึงมีแต่การเมืองของนักการเมืองเพียงหยิบมือเดียว ส่วนประชาชนถูกบังคับให้ไปเลือกตั้งเป็นทาสทางการเมืองยาวนานเหลือเกินแล้ว
เราจะหยุดระบอบเผด็จการกันใช่ไหมพี่น้อง ประชาชนฉลาด จึงกลายมาเป็นมวลมหาประชาชนฉลาด มวลมหาประชาชนฉลาด พวกเราต้องการอะไร สิ่งที่พวกเราต้องการคือความเป็นธรรม คือการเมืองการปกครองโดยธรรม นั่นก็คือ เราต้องการการเมืองที่ถูกต้องโดยเชิดชูหลักการปกครองโดยธรรมหรือหลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9 กำนันสุเทพ เสนอได้ไหม
กระดุมเม็ดแรก คือ หลักการปกครองโดยธรรมาธิปไตย 9 อันเป็นเหตุแห่งความดี มั่นคง ยุติธรรม หลักนิติธรรมของชาติ ฯลฯ
กระดุมเม็ดที่สอง คือประชาชน
กระดุมเม็ดที่สาม คือ กฎหมายรัฐธรรมนูญ
กระดุมเม็ดที่สี่ คือรัฐบาล
สิ่งที่มวลมหาประชาชน ต้องการคืออะไร สุเทพ นำเสนอเลย วันนี้
สาเหตุ ต้นเหตุแห่งความเลวร้ายในทุกๆ ด้านของไทยคือระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญ หรือระบอบที่ไม่มีหลักการปกครองโดยธรรม พูดง่าย หลักการปกปกครองกลายเป็นนักการเมืองเพียงหยิบมือเดียว วิธีแก้คือ ร่วมมือกันร่วมใจกันและหรือกำนันสุเทพ ต้องเสนอหลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9 หากกำนันสุเทพ เสนอนะทุกฝ่ายก็ยอมนั่งลง พวกที่ไม่ยอม คือพวกต่อต้านเจ้า เพียงนิดเดียวเท่านั้น หากไม่เสนอ ก็ไม่ต่างจาก คณะราษฎร กลุ่มพลังมวลชน ฯลฯ ที่ผ่านๆ มา ในอดีต ที่อยากได้ประชาธิปไตย แต่ดันไปเอากฎหมายรัฐธรรมนูญ แล้วหลงว่าได้ระบอบประชาธิปไตยแล้ว พวกรัฐประหารก็เอารัฐธรรมนูญ มันเป็นพวกลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญทั้งสิ้น
มีไหม? แนวการเมือง ร. 7 สมเด็จพระปกเกล้าฯ ที่ต้องการสถาปนาหลักการปกครองโดยธรรม หรือระบอบ หรือ จุดหมายร่วมของปวงชน หรือเอกภาพของปวงชน หรือหลักนิติธรรมของปวงชน หรือกฎหมายความมั่นคงแห่งรัฐ ฯลฯ อันเป็นเหตุของกฎหมายรัฐธรรมนูญ
คุณ Gen X Change ถาม ความสัมพันธ์ระหว่างจุดหมาย กับ วิธีการ เป็นอย่างไร ครับ ท่านอาจารย์
Dr.Por Pech ตอบ มันก็คือ ความสัมพันธ์ระหว่างองค์เอกภาพ กับ ความแตกต่างหลากหลาย เช่น เราจะไปวัดพระแก้ว วัดพระแก้วย่อมเป็นจุดหมาย และเป็นเอกภาพของวิธีการไปอันแตกต่างหลากหลาย เช่น เดิน วิ่ง ขี่จักรยาน มอไซต์ รถยนต์ เป็นต้น เป็นเรื่องง่ายๆ เพราะเป็นชีวิตประจำวันชาวบ้านทั่วๆไป ก็เข้าใจ (แต่ ระดับ ศ. รศ. หลายคนไม่เข้าใจ ก็ งงๆ อยู่)
จุดหมายย่อมมีหลายระดับ เช่น จุดหมายสูงสุดทางใจ คือ นิพพาน วิธีการไป คือ มรรคมีองค์ 8, วิปัสสนา จึงจะสำเร็จและเข้าถึงได้
จุดหมายส่วนตัว เช่น จุดหมายการเรียน การงาน หรือแม้ แต่ วิชานั้นๆ
จุดหมายส่วนรวม มนุษย์เป็นสัตว์สังคม จึงต้องมีจุดหมายร่วมกันในทางสังคม หรือชาติ เช่น ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ย่อมเป็นจุดหมายร่วมของปวงชนในชาติ สิ่งเหล่านี้จะต้องถูกยกขึ้น เชิดชู เป็นอุดมการณ์ของชาติ แต่ เพียงเท่านี้ยังไม่เพียงพอ เราจะต้องยกขึ้นเชิดชูเป็นจุดหมายร่วมกันทางการเมืองด้วย
จุดหมายร่วมทางการเมือง หรือเอกภาพทางการเมือง เขาเรียกว่า "หลักการปกครองโดยธรรม" เช่น หลักการปกครองแบบประชาธิปไตย หรือหลักการปกครองแบบธรรมาธิปไตย หรือเรียกว่า ระบอบ ระบอบการเมืองจะเป็นระบอบอะไรนั้น เราก็ดูที่ หลักการปกครอง หลักการปกครอง เป็นเช่นไร ระบอบก็เป็นเช่นนั้น หากระบอบการเมืองการปกครองใดไม่มีหลักการปกครอง ก็ แสดงว่า เป็นระบอบเผด็จการ นั้นหมายความว่า 81 ประชาชนไม่เคยมีจุดหมายร่วมของปวงชนเลย 81 ปีไทยเรามีแต่รัฐธรรมนูญ การเมืองจึงเป็นการเมืองของนักการเมืองเพียงหยิบมือเดียว มวลมหาประชาชนจึงต้องทำการปฏิวัติเปลี่ยนเป็นการเมืองของปวงชน ด้วยการร่วมมือกันผลักดันหลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9 (เดิมเป็นพระราชภารกิจของพระเจ้าแผ่นดิน) ดูรป
อ่านแล้วได้ปัญญาอย่างแท้จริง มวลมหาประชาธรรมาภิวัฒน์ หลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9 คือกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ (Supreme Law) ซึ่งเหนือกว่า กฎหมายรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นเหตุของกฎหมายรัฐธรรมนูญ อุปมา หลักการปกครองธรรมาธิปไตย คือดวงอาทิตย์ ส่วนกฎหมายรัฐธรรมนูญ คือ ดาวเคราะห์ 82 ปี ไทยมีแต่ดาวเคราะห์ มันจึงตั้งอยู่ไม่ได้ การเมืองไทยจึงล้มเหลวมาตลอด กลายเป็นการเมืองของนักการเมืองชั่วๆ เพียงหยิบมือเดียว ช่วยกันๆ จงหยุด การเมืองเผด็จการของฝ่ายนักการเมืองเพียงหยิบมือเดียว “อัปรีย์ไป จัญไรมา”
คัดลอกจากบทความของ Dr.Por Pech