บทเรียนี่๒ คำนาม


3.1 คำนาม (noun)

คำนามเป็นคำที่ใช้เรียกชื่อคน สัตว์ สถานที่ สิ่งของ และนามธรรม เช่น student, policeman, dog, snake, airport, river, television, sugar, love, etc.

3.1.1 ประเภทของคำนาม

แบ่งได้ดังนี้ 1) คำนามทั่วไป (common noun) เป็นคำที่ใช้เรียกชื่อคน สัตว์ สถานที่ สิ่งของ สภาวะทั่วๆ ไป เช่น man, panda, city, day
2) คำนามเฉพาะ (proper noun) เป็นคำที่ใช้เรียกชื่อคนหนึ่งคนใด สิ่งของหนึ่งสิ่งของใด
สถานที่หนึ่งสถานที่ใดโดยเฉพาะ เช่น

man เป็น common noun David เป็นชื่อเฉพาะเรียก man คนหนึ่ง
panda เป็น common noun Linping เป็นชื่อเฉพาะเรียก panda ตัวหนึ่ง
city เป็น common noun London เป็นชื่อเฉพาะเรียก city แห่งหนึ่ง
day เป็น common noun Saturday เป็นชื่อเฉพาะเรียก day วันหนึ่ง
ชื่อวันและเดือนต้องเป็นคำนามเฉพาะ เช่น Monday, Tuesday, etc.
January, February, March, etc.
คำนามเฉพาะ (proper noun) ต้องเขียนอักษรตัวแรกของคำด้วยอักษรตัวใหญ่ (capital letter)

3) คำนามนับได้ (countable noun) คือคำนามที่นับจำนวนได้ จึงมีรูปเอกพจน์ (singular form) และรูปพหูพจน์ (plural form)
การเปลี่ยนรูปเอกพจน์เป็นรูปพหูพจน์มีดังนี้
กลุ่มที่ 1 คำนามส่วนมาก เติม s ที่รูปเอกพจน์เมื่อต้องการรูปพหูพจน์ เช่น คำต่อไปนี้
Singular Form Plural Form
boy boys
table tables
teacher teachers

กลุ่มที่ 2 คำนามที่ลงท้ายด้วย o, ch, s, ss, sh, x, และ z ต้องเติม es

Singular Form Plural Form
potato potatoes
watch watches
bus buses
glass glasses
brush brushes

ข้อยกเว้น 1. คำที่ลงท้ายด้วย o เช่น buffalo ใช้ได้ 2 แบบ คือเติม es ดังนี้ buffaloes หรือใช้รูปเดิมก็ได้ คือ buffalo
2. คำนามที่ลงท้ายด้วย o ที่มาจากภาษาอื่น หรือคำที่เป็นคำย่อ ให้เติม s เท่านั้น เช่น คำต่อไปนี้
kilo = kilos photo = photos
piano = pianos dynamo = dynamos

kimono = kimonos soprano = sopranos
การออกเสียง เมื่อเติม es ให้คำนามที่ลงท้ายด้วย ch, s, ss, sh, x, และ z ต้องออกเสียงคำ โดยเพิ่มพยางค์ที่ท้ายคำเป็นเสียง /Iz/ เช่น glasses ออกเสียงว่า [gla:sIz]
กลุ่มที่ 3 คำนามที่ลงท้ายด้วย y โดยอักษรที่นำหน้า y เป็นรูปพยัญชนะต้องเปลี่ยน y เป็น i ก่อนเติม es เช่น
Singular Form Plural Form
baby babies
country countries
fly flies
แต่คำนามที่ลงท้ายด้วย y โดยอักษรที่นำหน้า y เป็นรูปสระ ให้เติม s เช่น

boy = boys

monkey = monkeys

กลุ่มที่ 4 คำนามที่ลงท้ายด้วย f หรือ fe ต้องเปลี่ยน f หรือ fe เป็น ves เช่น คำนาม

ต่อไปนี้ calf, half , knife, leaf, loaf, life, self, shelf, thief, wife, wolf, sheaf
Singular Form Plural Form
loaf loaves
leaf leaves
wife wives
half halves
thief thieves
ส่วนคำนามต่อไปนี้ hoof, scarf, และ wharf เติม s หรือเปลี่ยน f เป็น ves ก็ได้ดังนี้
hoof = hoofs/ hooves
scarf = scarfs/ scarves
wharf = wharfs/wharves
นอกจากคำนามที่กล่าวมานี้ คำนามอื่นที่ลงท้ายด้วย f หรือ fe ให้เติม s เมื่อเป็นพหูพจน์ เช่น
cliff = cliffs

handkerchief = handkerchiefs

คำสำคัญ (Tags): #คำนาม
หมายเลขบันทึก: 576887เขียนเมื่อ 25 กันยายน 2014 11:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 กันยายน 2014 13:21 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท