อยากให้ซึ้งถึงค่าคำว่า "ครู"


บอกครูไปว่า..ความเดือดร้อนเรื่องเงิน ผอ.เข้าใจได้ แต่ครูก็ต้องเข้าใจและเห็นถึงความสำคัญของผู้เรียนด้วยดังนั้น ในเมื่อเราเป็นคนชั้น "ครู" ต้องคิดได้และคิดเป็น ว่าควรจะทำอย่างไรให้เหมาะสมกับปัญหาและบริบท รู้จักวางแผนและมองให้รอบด้าน อย่ามักง่าย..ถ้าครูส่วนใหญ่เป็นแบบนี้ นี่คือจุดตายของการศึกษาไทย..เชียวล่ะ

สถานการณ์ทางการศึกษา ณ วันนี้ จับจ้องมองไปที่การปฏิรูปการศึกษา สื่อมวลชนพุ่งเป้าไปที่ปฏิรูปครู เพราะเห็นว่ากระทรวงศึกษาธิการ มีแต่มหกรรมการศึกษา ตุลาคมที่จะมีวันครูโลก ไปจนถึงเดือนมกราคมที่จะมีวันครูของไทยครูได้รับรางวัลหลายพันคน ซึ่งขณะนี้ทุกพื้นที่มีการประกาศครูดีทุกวัน แต่การศึกษาไทยตกต่ำลงทุกทีหลายคนก็มองไปที่ระบบ ปรับโครงสร้างบ้างก็จะดีเหมือนกันนะ

ผมมองไปที่วิธีคิดของผู้บริหารการศึกษาระดับสูง ที่ชอบคิดอะไรเดิมๆ ทำงานใหญ่ๆเอาหน้าเอาตา ทุ่มงบทุ่มเวลา ไปกับงานประชาสัมพันธ์และเกณฑ์คนเกณฑ์ครูออกจากโรงเรียน แล้วเจ้านายก็ได้ชื่อว่ามีผลงาน..บริหารงานสมเกียรติสมตำแหน่งกับที่นั่งเก้าอี้อันยิ่งใหญ่นั้นๆ

แต่เนื้อแท้เท่าที่พบและสัมผัสได้ ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำทั้งสิ้น..โดยเฉพาะงานที่ว่าด้วย มหกรรมทั้งหลาย.... ประกวด ประชัน ขันแข่ง กันอย่างเอาเป็นเอาตาย ว่ากันตั้งแต่ระดับกลุ่มโรงเรียน ระดับเขต ระดับภาค ไปจนถึงระดับประเทศ

ผมเอง..ในฐานะที่เป็นผู้บริหารสถานศึกษา ก็เป็นอีกตำแหน่งหนึ่ง ที่ครูและบุคคลภายนอกเป็นจำนวนมากเข็ดเขี้ยวเคี้ยวฟัน หมั่นไส้ อยากให้ปฏิรูป..เพราะดูจาก"คุณภาพ"แล้ว น่าจะเป็นสาเหตุหลัก หรือเป็นต้นตอ..ที่ทำให้การศึกษาไปไม่ถึงดวงดาว ด้วยเป็นตำแหน่งที่มีหน้าที่กำกับ ติดตามและนิเทศการเรียนการสอนโดยตรง

พอได้อ่านบทความวิจารณ์การทำงานของผู้บริหาร..ผมจะเฉยๆครับ คิดว่าทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ปฏิรูปตนเองก่อนที่จะให้ใครมาปฏิรูป..อย่างน้อย..เพียงแค่ทำให้ดู อยู่ให้เห็น เป็นตัวอย่าง..ก็เป็นพื้นฐานสำคัญที่น่าจะเพียงพอแล้ว

อย่างเมื่อวันก่อน..หลังจากตัดแต่งต้นไม้สองข้างถนนทางเข้าโรงเรียน ก็สะสางงานเอกสารธุรการ จากนั้นเตรียมบทความสำหรับสอนซ่อมเสริม..การอ่านคิดวิเคราะห์ ให้เด็ก ป.๖ ซึ่งเป็นจุดอ่อนของเด็กยุคนี้ที่อ่านแล้วตีความและจับใจความไม่ได้ว่าอ่านอะไร...

บ่ายโมงตรง...ครูประจำชั้นป.๓ - ป.๔ (ครูคนเดียวสอนสองชั้น) มาขอร้องให้ช่วยพัฒนาการเขียนเด็ก ป.๔ จากนั้นไม่นาน ครูประจำชั้น ป.๖ มาขออนุญาตไปยื่นเรื่องกู้เงินด่วนที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูที่จังหวัด ระยะทางกว่าสองร้อยกิโลเมตร..

พูดไม่ออกเลย..นอกจากทำใจให้เย็น แล้วบอกให้ครูนั่งลงก่อน ค่อยๆเล่าให้ฟังว่าทำไมถึงรีบร้อนอย่างนี้

จริงๆก็พอจะทราบว่า ครูมีปัญหาทางการเงินอยู่เสมอ ประมาณว่ากู้ทุกสถาบัน เพื่อให้สามีได้มีทุนค้าขายเล็กๆน้อยๆ ลูกก็ยังเล็ก ค่าใช้จ่ายในบ้านอีก รวมทั้งต้องส่งงวดรถ ที่เลยเวลามาหลายวันแล้ว ต้องเสียดอกเบี้ยทุกวัน การกู้สหกรณ์แบบกู้แล้วกู้อีก จึงเป็นวิธีเดียวที่ช่วยแก้ปัญหาของคุณครู

ปัญหาส่วนตัวของครู ผมคงรับรู้ได้ไม่มาก แต่อยากบอกว่า เราเป็นสถานศึกษาต้นแบบพอเพียง..ครูก็ควรศึกษาและเริ่มต้นใช้ชีวิตพอเพียงดูบ้าง ใช้หลักคิดและหลักปฏิบัติพื้นฐาน เมื่อเรามีรายได้น้อย แต่เราก็ยังหาทางสร้างรายจ่ายให้กับตนเองมากมาย ...เท่าที่เห็นพบว่าเกินเงินเดือนที่เรารับ..แล้วเราจะไปรอดไหม

ที่สำคัญ..เราเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก ที่ขาดโอกาสและด้อยคุณภาพอยู่แล้ว อันเนื่องมาจากครูไม่เพียงพอ ครูไม่ครบชั้น แต่ครูประจำชั้น กลับไม่วางแผนล่วงหน้า ไม่ปรึกษาหารือ จู่ๆก็จะไปทันที แล้วภาระงานการสอนจะตกอยู่ที่ใครอย่างไร ถ้าเตรียมการไว้ตั้งแต่เมื่อวาน ขออนุญาตบอกกล่าวกัน ผอ.อนุญาตแล้วจากนั้นก็มอบหมายครูท่านอื่น หรือผอ.เองจะได้เตรียมตัวสอน ก็จะทำให้การบริหารจัดการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

บอกครูไปว่า..ความเดือดร้อนเรื่องเงิน ผอ.เข้าใจได้ แต่ครูก็ต้องเข้าใจและเห็นถึงความสำคัญของผู้เรียนด้วยดังนั้น ในเมื่อเราเป็นคนชั้น "ครู" ต้องคิดได้และคิดเป็น ว่าควรจะทำอย่างไรให้เหมาะสมกับปัญหาและบริบท รู้จักวางแผนและมองให้รอบด้าน อย่ามักง่าย..ถ้าครูส่วนใหญ่เป็นแบบนี้ นี่คือจุดตายของการศึกษาไทย..เชียวล่ะ

ผมพูดไปแบบนี้จริงๆ สุดท้ายถามว่า เธอต้องใช้เงินวันนี้เท่าไหร่.."สองหมื่นห้า ค่ะ" " ในเอทีเอ็ม ผอ.มีแค่สองหมื่น ผอ.จะกดเงินให้เธอเอาไปส่งงวดรถก่อน ที่เหลือคงพอได้ใช้ซื้อของ แล้วพรุ่งนี้ค่อยไปสหกรณ์นะ ผอ.สอนแทนให้"

คำว่าครู..จึงไม่ได้แก้ปัญหาที่นักเรียนอย่างเดียว ยังต้องดูแลและแก้ปัญหาครูด้วยกันด้วย..จะบอกให้

 

ชยันต์ เพชรศรีจันทร์

๒๔ กันยายน ๒๕๕๗

                                              

หมายเลขบันทึก: 576752เขียนเมื่อ 24 กันยายน 2014 11:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 กันยายน 2014 11:36 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

เป็นกำลังใจให้ ...คนชั้นครู... ครับ :)

สวัสดีค่ะ..ผอ..คนเก่ง..."ลองให้..ครูนักเรียน..ใช้ระบบ."".bitcoin""..จะได้ไม่ต้องเดินทาง..สองร้อยกิโลเมตรไปกู้เงิน...แล้ว..เราๆ..ลองมาสร้าง..สกุลเงินใหม่กัน.."""TREECOIN""ด้วยทุน..มะกะโท..ดีไหม..เนี่ยะ...(คิดถึงค่ะ...ยายธี)

อาจารย์ครับเรื่องที่เขียนการกู้หรือยืมเงิน ในชีวิตผมได้ผ่านมามากเพราะเป็นวิธีที่คิดว่าง่าย มันเป็นธรรมชาติของคนทั่วไป ส่วนผลของผมที่ได้รับมันคือความทุกข์ ผมได้ตั้งปณิธานไว้ว่าต่อให้ตายก็จะไม่ยอมกู้หรือยืมเงินคนอื่นอีก แต่ผมใช้หลักของพระพุทธเจ้าคือ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน แต่ตนต้องฝึกดีแล้วจึงจะเป็นที่พึ่งได้ มันมีผลทําให้ผมต้องศึกษาหาความรู้ในทุกเรื่อง เพื่อให้ตนเองพึ่งได้ครับส่วนความพอเพียงมันก็จะตามมาเองครับอาจารย์




อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท