ได้ดูหนังเรื่อง The Boy in the Striped Pyjamas เมื่อ ๓ ปีก่อน และเพิ่งได้หนังสือมาอ่านวันนี้
หนังสือ The Boy in the Striped Pyjamas (เด็กชายในชุดนอนลายทาง) เล่าเรื่องมิตรภาพของเด็กชาย ๒ คน บรูโน วัย ๙ ขวบ ลูกชายนายทหารนาซีที่ได้รับมอบหมายให้ไปทำงานสำคัญที่ค่ายเอาช์วิตซ์ (
ด้วยความใสซื่อ บรูโนไม่รู้แม้แต่น้อยว่างานที่พ่อทำคืออะไร ความเบื่อเหงาบรูโนหนีออกจากบ้านวิ่งไปจนถึงค่าย และพบกับเพื่อนใหม่หลังรั้วลวดหนาม มิตรภาพงอกงามกระทั่งวันหนึ่งบรูโน่กับแม่และพี่สาวต้องย้ายกลับไปอยู่เบอรลินหลังแม่ของบรูโน่รู้ความจริงว่าสามีของเธอมาที่เอาช์วิตซ์ด้วยภารกิจอะไร เธอไม่สามารถยอมรับได้อีกต่อไป
บรูโนออกไปเพื่ออำลาชมูเอล แผนการผจญภัยเริ่มขึ้นเมื่อทั้งสองนัดแนะว่า ชมูเอลจะหา “ชุดนอนลายทาง” มาให้บรูโน่ และบรูโน่จะเตรียมการเพื่อข้ามไปหลังรั้วเพื่อช่วยชมูเอลตามหาพ่อที่หายไป
ในหนังสือไม่มีรายละเอียดที่บีบคั้นอารมณ์ ผู้เขียนเล่าด้วยภาษาที่เรียบง่ายแค่ว่าบรูโนเข้าไปในค่าย ถูกต้อนรวมไปกับยิวคนอื่นๆ ไปยังห้องๆ หนึ่ง เด็กชายสองคนจับมือกันมั่นเข้าไป ณ ห้องแห่งนั้น
ไม่มีใครได้พบบรูโนอีกเลย หลังจากนั้น.
.....................
อ่านหนังสือจบ หยิบหนังมาดูอีกรอบ หลังจากดูเมื่อ ๓ ปีก่อนและเขียนบันทึกชื่อ “อยากให้ดูหนังเรื่องนี้ :The Boy in the Striped Pyjamas”
หลายๆ เรื่องที่ฉันดูหนัง และอ่านหนังสือ บ้างก็อ่านหนังสือก่อน บ้างก็ดูหนังก่อน ส่วนใหญ่หนังไม่สามารถเก็บรายละเอียดจากหนังสือได้ครบถ้วน
สำหรับเรื่องนี้ ฉันชอบหนังมากกว่าหนังสือ หนังมีบทพูดและรายละเอียดครบถ้วนที่สะท้อน “ความเชื่อ” ระหว่างคนเยอรมันชาติเดียวกันที่ชื่นชอบวิธีคิดที่ฮิตเลอร์และบริวารพยายามชวนเชื่อว่ายิวคือปีศาจ เป็นศัตรูของชนชาติ ต้องกำจัดให้สิ้น และ คนที่เห็นต่างต้อง “ถูกกำจัด” เช่นกัน การไม่รายงานคนที่เห็นต่างในครอบครัวถือเป็นความผิด
หนังสามารถสื่อความได้ครบถ้วนสมบูรณ์
ซีนสุดท้ายที่พ่อแม่ของบรูโน่รู้ว่าเขาหายไป เป็นซีนที่บีบคั้น สะเทือนขวัญ สะเทือนอารมณ์ที่สุด หนังตัดสลับไปมาระหว่าง การตามหาลูก กับ การกวาดต้อนชาวยิวเข้าห้องแก๊ส ขณะที่ฟ้าครึ้มฝนเทลงมา เด็กน้อยสองคนจับมือกันมั่น บรูโน่พูดปลอบใจชมูเอลว่า “เราแค่หลบฝนอยู่ในนี้” ประตูเหล็กห้องแก๊สปิดลง แต่ได้ยินเสียงชวนสยดสยองลอดออกมา
พ่อที่สิ้นหวังวิ่งพล่านตามหาลูกทุกเรือนนอน มาจนถึงห้องแก๊สที่ปิดสนิท เสียงกรีดร้องเรียกชื่อลูก แม่ทรุดตัวลงข้างรั้วลวดหนามกับกองเสื้อผ้าของลูกชาย....
ขอเล่าอีกครั้ง....ฉากสุดท้าย...หน้าห้องแก๊สที่คร่าชีวิตชาวยิว ประตูเหล็กปิดสนิท กล้องถอยออกช้าๆ กล้องนิ่งนานกับภาพขมุกขมัวของกองเสื้อผ้า “ชุดนอนลายทาง” ค่อยๆ มืดลงช้าๆ อย่างจงใจบีบอารมณ์คนดูให้หดหู่กับ “การฆ่า” ที่ไร้เหตุผล.
อาทิตย์ ๒๑ กันยายน ๒๕๕๗
บันทึกส่งท้าย
อ้างอิง : จอห์น บอยน์. The Boy in the Striped Pyjamas. (เด็กชายในชุดนอนลายทาง) วารี ตัณฑุลากร แปล. (พิมพ์ครั้งที่ ๔) กรุงเทพ : แพรวเยาวชน อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง, ๒๕๕๗.
จอห์น บอยน์ เป็นนักเขียนชาวไอริช เขียนและตีพิมพ์เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๙ หนังสือขายดีติดอันดับอยู่นาน ๕๗ สัปดาห์ และขายดีในหลายประเทศ มิราแมกซ์ซื้อไปสร้างเป็นหนังออกฉายปี พ.ศ. ๒๕๕๑ ไม่น่าจะเป็นหนังที่ทำเงิน และไม่เป็นที่รู้จักมากนัก ซึ่งน่าเสียดาย ทั้งที่เป็นหนังดี
อยากเชิญชวนให้ทุกท่าน อ่านหนังสือ และ ดูหนัง เรื่องนี้ค่ะ
...............................................
น่าอ่านทุกเล่มเลยนะคะ ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณบันทึกที่ทำให้อยากอ่านหนังสืออีกแล้ว
ขนาดพี่ Nui เล่า ยังดูบีบคั้นมากนะคะ
เคยดู Schindler's list บีบหัวใจจริง ๆ ค่ะ ไม่อยากจะเชื่อ คนเราจะเกลียดชังกันได้ขนาดนี้ นะคะ
ขนาดอ่านพี่ Nui เล่าหนัง ยังบีบคั้น เคยดูชิลเลอร์ลิสต์
ขอบคุณค่ะ ทีวีน่าเอามาฉายนะคะจะรอดูค่ะ
หนังเรื่องนี้ ถ้าเป็นหนังไทยคงมีต่ออีกนิดว่าพ่อของบรูโน่จะหนีหรืออยู่ทำหน้าที่ต่อไป หนีก็ตาย อยู่ก็ตายทั้งเป็น หรือเป็นบ้าไปเลยเพราะต้องเสียลูกเช่นเดียวกับยิวที่ตนไล่ต้อน..วิธีเดียวกัน ถูกกรรมตามสนอง
-สวัสดีครับพี่หมอ
-น่าสนใจนะครับ
-อยากอ่านบ้าง อิ ๆ
-พี่หมอสบายดีนะครับ?
-ขอบคุณสำหรับหนังสือแนะนำครับ
น่าอ่านมากค่ะพี่ Dr. Ple อยากชวนให้อ่านค่ะ
เป็นหนังสือแนะนำสำหรับเยาวชนด้วยค่ะคุณพิชัย พ.แจ่มจำรัส
เป็นแนวเดียวกันค่ะกับชินเลอร์ลิสค่ะน้องหมอ ธิรัมภา แต่เรื่องนี้เหยือเป็นเด็กที่เป็นลูกของนายทหารผู้บังคับบัญชาค่าย พี่ว่าคนแต่งช่างคิดโครงเรื่อง
จริงอย่างอาจารย์ GD ว่าค่ะ คือ "กรรม" ตามสนอง
อ่านหนังสือก็สนุก ดูหนังแล้วสะเทือนใจ ได้ข้อคิดค่ะอาจารย์
เป็นหนังสือน่าอ่านค่ะน้องเพชร เพชรน้ำหนึ่ง พี่ชอบแนวนี้
พี่เพิ่งทุเลาหวัดใหญ่ ขอบคุณค่ะ
หนังสือและหนังหลายเล่ม หลายเรื่อง
ยังคงทำหน้าที่บันทึกปรากฏการณ์สังคมได้อย่างดียิ่งเลยทีเดียวครับ
โดยเฉพาะการหยิบเอาโศกนาฏกรรมมานำเสนอผ่านงานศิลปะนั้น ช่วยให้เราเสพสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไม่อึดอัดนัก
ขอบคุณครับ
สิ่งที่อาจารย์ แผ่นดิน นั้งถูกต้องทีเดียวค่ะ ทั้งหนัง และหนังสือ เป็นส่วนหนึ่งของการบันทึกหน้าประวัติศาสตร์
พี่กำลังสงสัยว่า หน้าประวัติศาสตร์ของละครโทรทัศน์ไทยจะถูกบันทึกอย่างไร ในเมื่อมีแต่เรื่องตบตี แย่งชิงผู้ชายกัน กับ ความรุนแรงที่ผู้ชายกระทำต่อผู้หญิง ไม่มีสาระอันใดที่ประเทืองปัญญา ยกระดับจิตใจ
ขอบคุณน้องเพชร เพชรน้ำหนึ่ง ที่เป็นห่วง