cu-tep ไม่ยากอย่างที่คิด
cu-tep ไม่ยากอย่างที่คิด
cu-tep ไม่ยากอย่างที่คิด
เนื่องจากสังคมในปัจจุบันมีความเติบโตแบบก้าวกระโดดและพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ ทุกวัน จึงทำให้เด็กรุ่นใหม่ในยุคนี้มีความตื่นตัวในเรื่องของการศึกษาเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะการเสริมความรู้นอกห้องเรียนอย่างการติวข้อสอบ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมไปสู่เป้าหมายที่แต่ละคนตั้งใจไว้ ซึ่งการสอบ cu-tep ก็นับเป็นอีกหลักสูตรหนึ่งที่น้อง ๆ หลายคนใช้สอบวัดความสามารถทางภาษาอังกฤษ เพื่อใช้ในการศึกษาต่อทั้งในระดับปริญญาตรีและบัณฑิตศึกษา
วันนี้ทางกระปุกดอทคอมเลยถือโอกาสมาสัมภาษณ์อาจารย์จาก จุฬาติวเตอร์ สถาบันกวดวิชาอินเตอร์ยอดนิยม เกี่ยวกับวิชาที่กำลังเป็นที่นิยมอย่าง cu-tep เพราะนอกจากจะใช้เข้ายื่นศึกษาต่อเข้าจุฬาฯ ในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอกได้แล้ว ยังสามารถนำคะแนนใช้ในหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจได้ไม่ว่าการจะเป็นการเลื่อนตำแหน่ง , ปรับเงินเดือนได้อีกด้วย งานนี้ทางทีมงานกระปุกดอทคอมก็ได้รับเกียรติจาก ดร.ธีรวัฒน์ พงษ์อยู่ หรือที่นักเรียนเรียกกันติดปากว่า "พี่แจ็ค" หนึ่งในทีมขุนพลของพี่เปิ้ล (ผู้ก่อตั้ง จุฬาติวเตอร์) มาให้ความรู้เกี่ยวกับข้อสอบ cu-tep กันด้วย ว่าแล้วเรามาเริ่มเข้าคำถามกันเลย...
ก่อนอื่นเราจะเตรียมตัวก่อนสอบ cu-tep ยังไงดีคะ ?
อยากให้เข้าใจจุดประสงค์ของข้อสอบ cu-tep ก่อนว่าเป็นข้อสอบที่เรียกว่า Proficiency Test เช่นเดียวกับข้อสอบ TOEFL หรือ IELTS ลักษณะของ Proficiency Test คือ ไม่อิงกับหลักสูตรใด ๆ เป็นการเฉพาะ แต่จะวัดความสามารถในการใช้ภาษาตาม skill ที่ข้อสอบต้องการวัดผล
ส่วนการเตรียมตัว คือ ต้องวัดระดับความรู้ทางภาษาของตัวเราให้ได้ก่อน โดยการทำ placement test ที่ได้รับการยอมรับ อย่างเช่น OPT (Oxford Placement Test) แล้วศึกษาเพิ่มเติมตามระดับที่เป็นตัวเราจริง ๆ อาจารย์ไม่แนะนำว่าควรอ่านหนังสือเล่มไหนเป็นการเฉพาะหรืออ่านเรื่องไหนเฉพาะ เพราะความสามารถในการใช้ภาษาของแต่ละคนมีความแตกต่างกัน (เหมือนเสื้อผ้าครับ ไม่มี size เดียวที่เราสามารถสวมใส่ได้ทุกคน) ดังนั้นเราควรพัฒนาจากระดับที่เราเข้าใจได้ (comprehensible) แล้วพัฒนาต่อยอดขึ้นไปเรื่อย ๆ ครับ
อาจารย์พอจะตอบฟันธงเลยได้ไหมคะว่า cu-tep writing (error identification) เรื่องไหนที่ออกข้อสอบมากที่สุด ...ขอสัก 3 เรื่องค่ะ ?
1. Subject-verb agreement : ประธานกับกริยาไปด้วยกันหรือไม่ Subject (singular) + Verb/ Auxiliary (singular) และ Subject (plural) + Verb/ Auxiliary (plural)
2. Voice and Passive Voice : ให้สังเกตว่าประธานกระทำกริยาได้หรือไม่ครับ ถ้าประธานทำเองไม่ได้ต้องเป็น V.3
3. Adjectives and Adverbs: สังเกตง่าย ๆ ว่า adjectives จะอยู่หน้า nouns หรือ หลัง v.be ตำแหน่งอื่นเป็น adverbs ทั้งหมด
สำหรับคนที่สนใจสอบ cu-tep เมื่อรู้แบบนี้แล้วห้ามพลาดนะคะ งั้นเรามาต่อคำถามต่อไปเลยดีกว่า สำหรับ cu-tep reading ส่วนมากจะออกข้อสอบเป็นเรื่องแนวไหน แล้วคำถามส่วนมากจะถามอะไรคะ ?
เนื่องจากเป็นข้อสอบประเภท Proficiency Test ที่ไม่อิงกับหลักสูตรใดเฉพาะ ข้อสอบจะเลี่ยงความลำเอียง (bias) โดยการไม่ออกเรื่องที่น่าจะให้ประโยชน์หรือง่ายต่อกลุ่มคนใดกลุ่มคนหนึ่งโดยเฉพาะ ดังนั้นหัวข้อจะเป็นเรื่องที่ทุกคนสามารถอ่านแล้วเข้าใจได้ (ถ้ามีความสามารถทางภาษาเพียงพอ) โดยไม่จำเป็นต้องมี background knowledge เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวโดยเฉพาะลักษณะเรื่องที่มีความเป็น general topics อย่าง เช่น life science, inventions, business, environment เป็นต้นครับ ส่วนลักษณะคำถามที่ข้อสอบถามแน่ ๆ คือ
1. main idea : ประเด็นหลักของ paragraph มักจะเป็นประโยคแรก หรือ (นาน ๆ ครั้ง) ประโยคสุดท้ายในแต่ละ paragraph ครับ
2. details : รายละเอียดปลีกย่อย scan หาในเรื่องได้เลยครับ เช่น จำนวน เดือน ปี ชื่อเมือง ชื่อคน
3. inference : อันนี้ยากสุดครับ คือ เรื่องไม่ได้บอกตรง ๆ แต่เราจะต้องตีความเองจากเรื่องที่อ่าน คำถามแนวนี้มักจะมีคำว่า imply / infer หรือ correct (true) / incorrect (false)
ไหนๆ อาจารย์ก็ฟันธงมา 2 พาร์ทของข้อสอบแล้ว รบกวนช่วยฟันธงพาร์ทสุดท้าย cu-tep listening ได้ไหมคะว่าข้อสอบ cu-tep พาร์ทนี้ส่วนมากจะถามเกี่ยวกับอะไร ?
ข้อสอบจะประกอบด้วยคำถาม 2 ส่วนหลัก ๆ คือ
1. inference: ตีความจากบทสนทนาหรือข้อความที่ได้ยินครับ คำถามแบบนี้ ตัวเลือกที่ถูกมักจะไม่ใช่คำที่พูดในบทสนทนา หรือข้อความ แต่คำตอบจะได้มาจากการตีความ (ลักษณะตัวเลือกจะเป็นประโยคและยาว)
2. details : รายละเอียดตรง ๆ เลยครับ เช่น ตัวเลข วันเดือน หรือ คำนามสั้น ๆ ต่าง ๆ คำตอบจะอยู่ในบทสนทนาหรือ ข้อความที่ได้ยินเลย
เว็บสำหรับสมัครสอบ cu-tep
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น