รัฐมีอำนาจอย่างไรต่อธุรกิจโรงเรียนกวดวิชา
“โรงเรียนกวดวิชา” คือ โรงเรียนเอกชนประเภทกวดวิชาที่ได้รับการอนุญาตจากกระทรวงศึกษาธิการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกวดวิชาบางวิชาตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการซึ่งถือเป็นการประกอบธุรกิจอย่างหนึ่ง เมื่อเป็นธุรกิจการแข่งขันเพื่อหารายได้ระหว่างโรงเรียนกวดวิชาด้วยกันเองจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ การลงโฆษณาหรือขึ้นป้ายขนาดใหญ่ เพื่อเชิญชวนให้ผู้บริโภคมากวดวิชากับโรงเรียนของตน โดยอาจเสนอโปรโมชั่นที่ดูผิวเผินแล้วคุ้มค่ากับเงินที่ผู้บริโภคต้องจ่ายไป “สมัครวันนี้ลดทันที 50%” “มาสมัคร 2 ท่านเรียนฟรี 1 คอร์ส” หรือใช้ถ้อยคำที่ดึงดูดความสนใจ เช่น “เป็นโรงเรียนที่มีเด็กสอบเข้ามหาวิทยาลัยมากที่สุด” ฯลฯ นี่คือกลยุทธ์ทางการตลาดของผู้ประกอบธุรกิจที่หวังเพิ่มจำนวนลูกค้านั่นเอง ซึ่งในส่วนนี้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) จะเป็นผู้กำกับดูแลมิให้ผู้ประกอบธุรกิจใช้ข้อความโฆษณาที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค หากตรวจพบข้อความโฆษณาใดๆ ที่เป็นเท็จหรือเกินความจริง ก็ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ซึ่งผู้ปกครองที่จะนำบุตรหลานเข้าโรงเรียนกวดวิชา ควรพิจารณามาตรฐานของโรงเรียนกวดวิชาจากสิ่งเหล่านี้
Ø โรงเรียนกวดวิชา ต้องมีการดำเนินการขออนุญาตต่อกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการกำหนดมาตรฐานโรงเรียนเอกชนประเภทกวดวิชา พ.ศ.2534 แห่งพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ.2525 และแสดงให้ผู้บริโภคเห็นอย่างชัดเจน
Ø ต้องจัดห้องเรียนให้ครบกับหลักสูตร และหรือรายวิชาตามที่ขออนุญาตอีกทั้งสถานที่ต้องไม่แออัดจนเกินไป มีความกว้างขวางเพียงพอกับจำนวนนักเรียนคือพื้นที่ถูกสุขอนามัยมีการดูแลรักษาความปลอดภัยที่ดี ไม่อยู่ใกล้กับกิจการที่ไม่เหมาะสมแก่กิจของโรงเรียน
Ø ต้องจัดให้มีสื่อและอุปกรณ์การเรียนการสอนและการบริการอื่นๆ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชนกำหนด
Ø ครูใหญ่และอาจารย์ผู้สอน จะต้องมีความรู้และประสบการณ์ตามที่ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการกำหนดความรู้และประสบการณ์ของผู้ขอใบอนุญาตให้เป็นครูใหญ่และความรู้ขอรับใบอนุญาตให้เป็นครูโรงเรียนเอกชน
ไม่มีความเห็น