คณะทำงานศึกษาแนวทางการช่วยเหลือคนพิการที่ไม่มีสถานการณ์ทะเบียนราษฎร
: จุดเริ่มต้นแห่งความหวังของคนพิการไร้รัฐในประเทศไทย
โดย นางสาวศิวนุช สร้อยทอง ผู้จัดทำรายงานบูรณาการองค์ความรู้สู่สังคม ภายใต้โครงการชายแดนไทยพม่าศึกษา
เมื่อวันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๗
-----------------------------------------
ที่มาของงานเขียน
-----------------------------------------
ด้วยวันนี้ (๑๙ ส.ค. ๕๗) ผู้เขียนมีโอกาสติดตามอาจารย์แหวว (รศ.ดร.พันธุ์ทิพย์ กาญจนะจิตรา สายสุนทร) เข้าร่วมประชุมคณะทำงานศึกษาแนวทางการช่วยเหลือคนพิการที่ไม่มีสถานะการทะเบียนราษฎร ครั้งที่ ๑/๒๕๕๗ ณ ห้องประชุม ชั้น ๓ APCD บ้านราชวิถี ถนนราชวิถี เขตราชวิถี กรุงเทพฯ และผู้เขียนได้เห็นประเด็นน่าสนใจเกี่ยวกับ “ข้อกฎหมายในการจัดการสิทธิคนพิการซึ่งไร้รัฐในประเทศไทย” ภายใต้พระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. ๒๕๕๐ และ “บทบาทอันสำคัญต่อประเทศไทยของคณะกรรมการชุดนี้”
ผู้เขียนจึงคิดว่าเป็นการดีที่จะเขียนบันทึกเพื่อเผยแพร่/แลกเปลี่ยนกับมวลมิตร และเพื่อนำข้อมูลเหล่านี้ไปเขียนในรายงานบูรณาการองค์ความรู้สู่สังคม ภายใต้โครงการชายแดนไทยพม่าศึกษา ซึ่งผู้เขียนรับผิดชอบจัดทำรายงานอยู่นั่นเอง
-----------------------------------------
คณะกรรมการเหล่านี้เป็นใคร?
-----------------------------------------
คณะกรรการนี้มีขื่อว่า “คณะทำงานศึกษาแนวทางการช่วยเหลือคนพิการที่ไม่มีสถานการณ์ทะเบียนราษฎร” ซึ่งแต่งตั้งขึ้นโดยคำสั่งสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ ที่ ๑๖๙/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ซึ่งมีภารกิจในการ “จัดทำแนวทางในการส่งเสริมให้คนพิการซึ่งไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎรตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎรให้ได้รับความช่วยเหลือที่เหมาะสมตามหลักศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์จากรัฐ และสอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศที่ประเทศไทยเป็นภาคีและให้สัตยาบันไว้”
กล่าวโดยง่าย คือ “ยกร่างระเบียบแนวทางการให้ความช่วยเหลือคนพิการซึ่งไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร ตามมาตรา ๑๙/๑[๑]” แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. ๒๕๕๐ และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๖ นั่นเอง
-----------------------------------------
คณะกรรมการชุดนี้เป็นความหวังของคนพิการไร้รัฐอย่างไร?
-----------------------------------------
เมื่อพิจารณาชื่อคณะกรรมการชุดนี้ และที่มาของคณะกรรมการ (มาตรา ๑๙/๑) ย่อมชัดเจนว่า คณะกรรมการชุดนี้ตั้งขึ้นเพื่อเข้ามาจัดการปัญหา “คนพิการ” ซึ่ง “ไม่มีสถานะการทะเบียนราษฎร” นั่นหมายถึง คนพิการซึ่งตกอยู่ในความไร้รัฐ (statelessness) หรือคนพิการซึ่งไม่มีเอกสารประจำตัว/เอกสารพิสูจน์ตนใด ๆ (undocumented) หรือคนพิการซึ่งไม่ได้รับการรับรองในทะเบียนราษฎรของรัฐใดเลยบนโลกใบนี้
ภารกิจของคณะกรรมการชุดนี้จึงเป็นการประกันอย่างชัดเจนว่า รัฐไทย พยายามอย่างยิ่งที่จะรับรองและส่งเสริมสิทธิของ “คนพิการทุกคน” ในประเทศไทย ไม่ว่าเขาเหล่านั้นจะมีสถานะเป็นราษฎรไทยหรือไม่ เขาเหล่านั้นก็จะไม่ตกหล่นจากการดูแลของรัฐไทย ข้อเท็จจริงเพียงว่าเป็น “มนุษย์ซึ่งประสบปัญหาความพิการ” ก็เพียงพอแล้วที่จะได้รับการให้ความช่วยเหลืออย่างเหมาะสมตามกฎหมายนี้ โดยไม่จำเป็นต้องเรียกร้องเอกสารใด ๆ ซึ่งสอดคล้องกับหลักการของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิของคนพิการ ค.ศ. ๒๐๐๗ ซึ่งประเทศไทยได้ให้สัตยาบันเมื่อวันที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๑ และมีผลบังคับเมื่อวันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๕๑ นั่นเอง
ดังนั้น ระเบียบนี้จึงเป็นความหวังสำคัญของคนพิการหลายคนในประเทศไทย อาทิ น้องผักกาด (ดูเพิ่มเติม) น้องเก้วา (ดูเพิ่มเติม) น้องบิวตี้ (ดูเพิ่มเติม) น้องนาแฮ (ดูเพิ่มเติม) ซึ่งยังประสบปัญหาความไร้รัฐ เพราะไม่ได้รับการบันทึกรับรองทางทะเบียนราษฎร แม้กระทั่งว่าบางคนมีสิทธิในสัญชาติไทย เพราะมีพ่อไทยแม่ไทยก็ตาม และประการสำคัญคนเหล่านี้ก็ตกหล่นจากการรับรองและส่งเสริมสิทธิตามระเบียบภายใต้มาตรา ๑๙[๒]
อย่างไรก็ดี คณะกรรมการหลายท่านยังคงมีความห่วงใยเป็นพิเศษถึงคนพิการบางกลุ่ม ซึ่งแม้ว่าจะมีสถานะทางทะเบียนราษฎร (กล่าวคือ เป็นราษฎรไทย) แต่ก็ไม่ได้รับการรับรองและส่งเสริมสิทธิตามมาตรา ๑๙ เนื่องจากระเบียบตามมาตรา ๑๙ นี้ ระบุว่าจะดูแลเฉพาะคนพิการซึ่งมีสัญชาติไทยเท่านั้น
-----------------------------------------
ความห่วงใยที่ส่งถึงคณะกรรมการชุดนี้ และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์?
-----------------------------------------
[๑] มาตรา ๑๙/๑ แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. ๒๕๕๐ และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๖ บัญญัติว่า “คนพิการซึ่งไม่มีสถานะการทะเบียนราษฎรตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร อาจได้รับความช่วยเหลือที่เหมาะสมตามหลักศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์จากรัฐ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนดในระเบียบ”
[๒]มาตรา ๑๙แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. ๒๕๕๐ บัญญัติว่า “เพื่อประโยชน์ในการได้รับสิทธิตามมาตรา ๒๐ คนพิการอาจยื่นคำขอมีบัตรประจำตัวคนพิการต่อนายทะเบียนกลางหรือนายทะเบียนจังหวัด ณ สำนักงานทะเบียนกลาง สำนักงานทะเบียนจังหวัด หรือสถานที่อื่นตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนด
ในกรณีที่คนพิการเป็นผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถหรือคนไร้ความสามารถหรือในกรณีที่คนพิการมีสภาพความพิการถึงขั้นไม่สามารถไปยื่นคำขอด้วยตนเองได้ ผู้ปกครอง ผู้พิทักษ์ ผู้อนุบาลหรือผู้ดูแลคนพิการ แล้วแต่กรณี จะยื่นคำขอแทนก็ได้ แต่ต้องนำหลักฐานว่าเป็นคนพิการไปแสดงต่อนายทะเบียนกลางหรือนายทะเบียนจังหวัด แล้วแต่กรณี ด้วย
การยื่นคำขอมีบัตรประจำตัวคนพิการ การออกบัตร การกำหนดเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจออกบัตรประจำตัวคนพิการ การกำหนดสิทธิหรือการเปลี่ยนแปลงสิทธิ การขอสละสิทธิของคนพิการ และอายุบัตรประจำตัวคนพิการ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนด
ในกรณีที่บัตรประจำตัวประชาชนสามารถบรรจุข้อมูลคนพิการได้ครบถ้วนตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ใช้บัตรประจำตัวประชาชนแทนบัตรประจำตัวคนพิการ
[๓] ข้อ ๖ แห่ง ระเบียบคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการยื่นคำขอมีบัตรประจำตัวคนพิการ การออกบัตร และการกำหนดเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจออกบัตรประจำตัวคนพิการ การกำหนดสิทธิ หรือการเปลี่ยนแปลงสิทธิ และการขอสละสิทธิของคนพิการ และอายุบัตรประจำตัวคนพิการ พ.ศ. ๒๕๕๖ บัญญัติว่า “คนพิการซึ่งมีสัญชาติไทยไม่ว่าจะอยู่ในกรุงเทพมหานครหรือจังหวัดอื่นอาจยื่นคำขอมีบัตรต่อสำนักงาน สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ศูนย์บริการคนพิการระดับจังหวัด หรือหน่วยงานของรัฐ ตามที่ผู้อำนวยการหรือผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศกำหนด แล้วแต่กรณี”
ไม่มีความเห็น