การพักสงบที่ทุ่งอารอฟะฮ์ (การวูกุฟ)


วูกุฟ คือ หัวใจของฮัจญ์

การวูกุฟที่ทุ่งอารอฟะฮ์

เต้นท์ที่อารอฟะฮ์

การวุกุฟ คือการพักสงบที่ทุ่งอารอฟะฮ์ โดยเริ่มตั้งแต่ดวงอาทิตย์คล้อยของวันที่ 9 ซุลฮิจญะฮฺจนกระทั่งดวงอาทิตย์ตกดิน เป็นรุกุ่นฮัจญ์ที่ต้องทำ ไม่ทำไม่ได้คะ (ตรงกับวันที่ 14 ตุลาคม 2556) วูกุฟ คือ หัวใจของฮัจญ์คะ

อาจารย์ชัยรัตน์ ทั้งยืนและนั่ง คุ้มเวลา 6 ชม.จริงๆ

อาจจะเนื่องมาจากตื่นเต้นเพราะทุกอย่าง ทุกกระบวนการ เริ่มเข้าสู่พิธีฮัจย์ ทำให้ตั้งแต่มาถึงมีนาคืนแรกแทบจะไม่ได้นอนเลย อาจจะผิดที่และนอนรวมกันเยอะๆ นอนติดกัน เลยแทบจะไม่ได้นอนหลับเลย แปลกที่ ไฟสว่าง พอตอนกลางวันเริ่มรู้สึกมีอาการไอคะ เพราะเค้าไอกันทั้งเต้นท์คะ ตอนแรกก็พอไอบ้างแต่ไม่มากนัก พอมาถึงมีนาเริ่มไอมากขึ้นคะ จนกระทั่งถึงกลางคืนวันอาทิตย์คะ ไอเยอะมาก จิบน้ำจนตัวเย็นเฉียบเหยื่อออกไม่ได้นอนเลยแม้แต่นิดเดียวทั้งคืนคะ อาจจะเนื่องมาจากตื่นเต้นด้วย กังวล ไม่รู้ว่าทุ่งอารอฟะเป็นอย่างไร ไม่หลับจริงๆ น้องย๊ะตกใจพลอยไม่นอนไปด้วย น้องย๊ะเอากระเป๋าเดินทางมาวางให้ดิฉันนั่งหลับ พอได้งีบบ้าง น่าจะประมาณตีสามหรือตีสี่ พองีบนิดเดียวก็ถูกปลุกให้ละหมาดอีก บรรยายความรู้สึกนั้นไม่ถูกจริง เวลานั้นคิดถึงมะยีสาว สุดๆ คะ บอกตัวเองว่าต้องเข้มแข็ง ต้องอดทน ต้องผ่านไปให้ได้แถมยังกังวลกับการที่ต้องไปวูกุฟที่ทุ่งอารอฟะในวันรุ่งขึ้นอีก ไม่ทราบว่าจะเจออะไร สถานที่เป็นอย่างไร แล้วที่สำคัญเราจะไหวไหมในวันพรุ่งนี้ นึกถึงและนั่งดุอาว์ขอความคุ้มครองจากอัลเลาะห์(ซบ) พระองค์เท่านั้นที่ช่วยเราได้จริงๆ ในเวลานั้น

เสร็จพิธีวูกุฟ ดวงอาทิตย์ตกแล้วนะคะ

พอตอนเช้าอ.สมาน มาบอกว่าจะต้องทำอะไรบ้าง ดิฉันฟังไม่รู้เรื่องคะหลับอย่างเดียวคะ น้องย๊ะถามว่าพี่ยาไหวไหมกอดกันร้องไห้ อ๋อลืมบอกไปคะน้องย๊ะเองก็กำลังท้องด้วยนะคะ ดิฉันก็สงสารน้องย๊ะคะ ที่ต้องมาดูแลเราอีก เค้าเรียกเราให้ขึ้นรถประมาณ 8.30 น. เห็นจะได้คะ ตอนแรกกะว่าจะเดินไปหาบัง(คุณสามี) แต่ก็ไปไม่ได้คะ เพราะเค้าให้ผู้หญิงขึ้นรถก่อนคะ ก่อนขึ้นรถแซะท์เค้าบอกว่าให้เราดูแลกันเองอย่าแยกกัน เพราะพอไปถึงจะหากันไม่เจอเพราะคนเยอะมาก ดิฉันขึ้นรถบัสไปกับน้องย๊ะนั่งกอดกับน้องย๊ะร้องไห้ และบอกว่าเมื่อกี้ยังไม่ได้เจอบังเลย แล้วไปถึงอารอฟะแล้วเราจะเจอบังไหม ย๊ะบอกว่าถ้าอัลเลาะห์(ซบ) ให้เราเจอเราก็จะเจอคะ ใช่คะ...เราต้องหลุดและมอบหมายทุกอย่างไว้กับอัลเลาะห์ให้มากที่สุด...หลังจากนั้นดิฉันขอฝากทุกอย่างไว้กับอัลเลาะห์แม้กระทั่งตัวเองคะ ….อัลฮัมดูลิลละ

ผ่านบรรยากาศการร้องไห้มาหมาดๆ

พอไปถึงอารอฟะประมาณ 9.30 น.คะเค้าให้เราเดินไปรวมกันที่เต้นท์ของคนไทยคะ ซึ่งเค้าจัดให้เป็นโซนๆ เหมือนเดิม เต้นท์แยกเป็นประเทศๆ คะ เต้นเราอยู่หลังสุด ติดเขตรั้วคะ เลยโล่ง โปร่งสบาย ลมพัดเย็น มีต้นไม้อย่างที่เห็นคะ ไม่แออัด นี่ก็อัลเลาะห์ให้อีกเหมือนกัน เพราะถ้าอยู่ตรงกลาง ๆ คนจะแน่นมาก แทบจะไม่มีที่อยู่เลยคะ นี่ก็อีกหนึ่งที่อัลเลาะห์ (ซบ) ให้เรามากๆ คะ

ที่อารอฟะเป็นเต้นท์เปิดโล่ง มีต้นไม้เล็กน้อย อากาศไม่ร้อนอย่างที่คิดคะ มีห้องน้ำประมาณ 10 ห้องคะ ต้องเข้าคิวเหมือนเดิมคะ เต้นท์ของผู้ชายอยู่ตรงกันข้ามกับเรา

น้องย๊ะ กับก๊ะเย๊าะห์

พอถึงอารอฟะบอกได้เลยว่าสิ่งเดียวที่เจอ คือคลายกังวล ดิฉันนอนหลับเลยคะ หลับสนิทมากๆ ตื่นอีกทีนึงเกือบเที่ยงคะ สดชื่นเลยคะ พลังหัวใจเต็มเปี่ยม ล้างหน้า อาบน้ำละหมาดดุฮา พร้อมทำภาระกิจหลักแล้วคะ ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาวูกุฟคะ


“เราทำอะไรบ้างที่อารอฟะ

วูกุฟ คือ หัวใจของการทำฮัจญ์คะ เวลาวูกุฟ คือเริ่มตั้งแต่ตะวันคล้อยหรือเวลาละหมาดซุฮ์รี จนถึงพระอาทิตย์ตกดินคะ ประมาณ 6 ชม. ทำไมดิฉันถึงเรียกว่า “วูกุฟคือหัวใจของฮัจย์” คะ นั่นก็เพราะว่า เวลาวูกุฟคือเวลาแห่งการที่ได้เข้าเฝ้าอัลเลาะห์ เหมือนเป็นเวลาพิเศษที่พระองค์เปิดประตูรับเรา เป็นวันเวลาที่อัลเลาะห์(ซบ) ให้เกียรติเราให้เราเข้าเฝ้าพระองค์ได้ และใกล้ชิดกับพระองค์มากที่สุด โดยที่เราสามารถสัมผัสความรู้สึกนั้นได้จริงๆ เปรียบง่ายๆ ให้เห็นภาพคล้ายๆ กับเราเข้าเฝ้ากษัตริย์ แล้วอัลเลาะห์(ซบ) ยิ่งกว่าอะไรทั้งหมดในดุนยานี้อีกคะ ดังนั้นเราจึงควรจะตักตวงเวลานั้นให้มากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ เราจึงต้องใช้เวลาทั้งหมดคุยกับพระองค์และอยู่กับพระองค์ไม่ใช่หรือคะ จะร้องขออะไรก็ให้รีบขอคะ อัลเลาะห์เปิดรับดุอาว์และให้อภัยโทษกับเรา เราต้องตักตวงมันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ 6 ชม.แห่งการทรงคุณค่าและต้องอยู่กับอัลเลาะห์(ซบ) อย่างแท้จริงขอดุอาว์และขออภัยโทษจากพระองค์ให้มากที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้ มันไม่ควรจะทำอะไรเลยนอกจากอยู่กับอัลเลาะห์ คุยกับอัลเลาะห์ ขอจากอัลเลาะห์ในความดีทั้งหลายทั้งดุนยาและอาคีเราะห์ ขออภัยโทษจากพระองค์ในความผิดพลาดทั้งหมดทั้งชีวิต หากอัลเลาะห์ให้หัวใจเราไม่หยาบกระด้างเกินไปและซาบซึ้งอย่างเพียงพอ มีความรู้สึกกับอัลเลาะห์อย่างต่อเนื่องในชั่วโมงนั้น รับรองได้ว่าน้ำตาของคุณจะไหลออกมาเองโดยไม่รู้ตัวจริงๆ คะ บางครั้งอาจจะเป็นโอกาสเดียวของชีวิตของคุณก็ได้ใครจะไปรู้คะ ดังนั้นจงทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ตักตวงกำไรให้มากที่สุด ใช้เวลานั้น ณ ที่ตรงนั้นให้คุ้มค่าที่สุด เท่าที่สามารถจะทำได้คะ …..อัลฮัมดูลิลละ </p>

ดิฉันได้อะไรบ้างจากวูกุฟ ...อย่างแรกเลยคะ ได้การ ตะวักกัลอลัลเลาะห์ (ซบ) ฝากทุกสิ่งทุกอย่างไว้กับอัลเลาะห์ แม้กระทั่งชีวิตตัวเอง ...เพราะจำได้ว่าระหว่างทางที่นั่งรถบัสจากมีนาไปอารอฟะอ์ รู้สึกไม่ไหวจริงๆ เหมือนอยู่คนเดียว ไม่มีใครเลย...นอกจากอัลเลาะห์ (ซบ) ขอบคุณอัลเลาะห์ที่สุด ที่ให้ดิฉันได้เจอกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่มีนา จนทำให้ดิฉันได้หลุดพ้น และได้เจอกับอารมณ์ และความรู้สึกอย่างนั้น และพระองค์ก็ได้ประทานความอิ่มเอม ความชุ่มชื่นในหัวใจและพลังในหัวใจให้ดิฉันได้ปฏฺิบัติภารกิจฮัจญ์ อย่างลุล่วงเป็นอย่างดีในวันนั้น และในคืนนั้น ที่มุซดาลิฟะห์

อีกอย่างหนึ่งก็คือ ทำให้ดิฉันได้เข้าใจถึงภาพจำลองการเดินทางสู่ทุ่งมะห์ซัรในวันสิ้นโลก (วันกิยามัต) เพราะทุ่งอารอฟะฮ์ คือ ทุ่งมะห์ซัร หรือดินแดนที่อัลเลาะห์ (ซบ) ใช้พิพากษามนุษย์ในวันกิยามัต และฮัจย์ก็คือการจำลอง การเดินทางไปสู่ ทุ่งมะห์ซัร ในวันกิยามัต นั่นเอง

หมายเลขบันทึก: 574766เขียนเมื่อ 18 สิงหาคม 2014 13:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 8 สิงหาคม 2016 14:14 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท