กินดีรักษาสิวได้ ด้วยวิธีกินรักษาสิวให้หายใน 2 สัปดาห์


กินดีรักษาสิว

    1. เพิ่มโอเมก้า 3 ด้วยน้ำมันตับปลา

    เริ่มต้นด้วยการเสริมโอเมก้า 3 ให้ร่างกาย กรดไขมันที่มีประโยชน์นี้ช่วยให้เซลล์แข็งแรง ต่อต้านอาการอักเสบได้ดี จึงทำให้อาการของการอักเสบของสิวทุเลาลง ทั้งยังบรรเทาอาการแดงและระคายเคือง ทำให้ผิวหนังกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีขึ้นผิวจึงไม่แห้งกร้าน ทำให้สิวที่กำลังเป่งหายเร็วขึ้นด้วย นอกจากนี้มันยังช่วยในการผลิตฮอร์โมนอารมณ์ดีของร่างกาย ที่ไม่เพียงทำให้จิตใจแจ่มใสเบิกบาย แต่ยังทำให้ผิวพรรณผุดผ่องตามไปด้วยนะคะ

    โดยคุณสามารถได้โอเมก้า 3 จากการกินปลา ซึ่งควรบริโภคสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง หรือเพื่อความสะดวกจะกินน้ำมันปลาในรูปอาหารเสริมแทนก็ได้ค่ะ

      2. ลดหวาน

      น้ำตาลเป็นอีกหนึ่งตัวการของการเกิดสิว ไม่ว่าจะมาในรูปของน้ำตาลที่เราใช้ปรุงอาหาร หรือมาจากอาหารที่มีความหวานอยู่แล้วในตัว ถึงแม้จะเป็นความหวานจากธรรมชาติอย่างผลไม้ต่าง ๆ ก็ตาม

      ในช่วง 2 สัปดาห์นับจากนี้ คุณจึงควรลดการบริโภคความหวานเสีย เพราะความหวานเมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วจะมีสภาพเป็นกรด ทำให้เซลล์เกิดการอักเสบได้ง่าย จึงไม่ดีกับผิวที่เป็นสิวแน่ ๆ แถมยังส่งผลเสียกับระบบฮอร์โมนอีกต่างหาก เมื่อบริโภคหวานมากไป อินซูลินจะถูกหลั่งออกมามากขึ้น และอินซูลินที่ไหลพรั่งพรูก็จะไปกระตุ้นฮอร์โมนอื่น ๆ ให้หลั่งออกมาผิดปกติอีกเช่นกัน โดยหนึ่งในนั้นคือฮอร์โมนแห่งความเครียด ที่เมื่อคุณเครียดแล้วสิวก็จะผุดตามออกมาเป็นผลพวงพ่วงมาอีกนั่นเองค่ะ เห็นผลเสียที่น้ำตาลให้กับร่างกายคุณมากขนาดนี้แล้ว อย่างงี้จะไม่ลดการกินหวานได้ยังไงกันล่ะคะ

        3. ลด-เลี่ยงแป้งขัดขาว

        อาหารประเภทแป้งหรือคาร์โบไฮเดรตส่งผลต่อผิวพรรณของคุณไม่ต่างไปจากน้ำตาล เพราะเมื่อคุณกินเข้าไป มันก็จะถูกย่อย และเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดให้สูงขึ้นได้ โดยคาร์โบไฮเดรตแต่ละประเภทก็จะเพิ่มระดับน้ำตาลในเส้นเลือดในอัตราต่าง ๆ กัน ตามดัชนีชี้วัดที่เรียกว่า ไกลเซมิก อินเดกซ์ (Glycemic index) ซึ่งมีค่าที่ 1-100 โดยแป้งขัดขาวนั้นถูกจัดให้มีดัชนีไกลเซมิกสูงถึง 100 เลยทีเดียว และยิ่งดัชนีตัวนี้สูง ก็ยิ่งส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเส้นเลือดมาก ส่งผลกระทบต่อไปยังเรื่องเซลล์ที่จะอักเสบง่าย และผิวพรรณที่มีปัญหาสิวอยู่แล้วทรุดลงกว่าเดิม เพราะฉะนั้นถ้าอยากให้สิวหายเร็วหายไว ก็ต้องเลี่ยงและลดการบริโภคแป้งขัดขาวด้วยนะคะ ไม่ว่าจะมาในรูปข้าว ขนมปัง หรือธัญพืชก็ตาม

        5. กินโปรตีนดี ๆ

        โปรตีนช่วยให้สิวคุณหายได้ไวขึ้น ด้วย 2 คุณสมบัติเด่น ๆ ประการแรกคือ มันช่วยรักษาสมดุลของดัชนีไกลเซมิก จึงไม่ทำให้ร่างกายรู้สึกโหยหรือเพลีย จนเผลอซัดขนมหวาน ๆ เติมเข้าไปให้ตัวเองรู้สึกสดชื่นและได้น้ำตาลมาบ่อนทำลายผิวอีก ส่วนประการที่สองนั้น ก็เพราะโปรตีนช่วยซ่อมแซมและเพิ่มความแข็งแรงของเซลล์ผิวได้เป็นอย่างดี ทำให้สิวทุเลาไว แผนจากสิวหายได้เร็วขึ้น อีกทั้งคอลลาเจนในผิวของคุณก็เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งเหมือนกันนะ กินโปรตีนไปช่วยเสริมโปรตีนแบบนี้ ผิวจะได้สวยเต่งตึงยืดหยุ่นด้วยไงล่ะ

        โปรตีนดี ๆ ที่สาว ๆ กินได้หายห่วง ก็คือโปรตีนที่ได้จากพืช เช่น ผักโขม สาหร่ายสไปรูลินา ถั่วบางชนิด รวมไปถึงกรีกโยเกิร์ต ส่วนโปรตีนที่ได้จากสัตว์ก็เห็นจะเป็นไข่ขาวจากไข่ต้ม ส่วนโปรตีนจากเนื้อนั้นสามารถกินสลับ ๆ กันไปได้ โดยเน้นเนื้อที่ไม่ติดมันจะดีที่สุด7. กินผักให้มาก

        ไม่ใช่แค่เน้นกินแต่ผักใบเขียวเท่านั้น คุณยังต้องเผื่อแผ่การบริโภคไปถึงผักสีต่าง ๆ ชนิดอื่น ๆ ด้วย ร่างกายจะได้รับวิตามินและแร่ธาตุครบถ้วน ทั้งวิตามินเอ บี ซี และเค

        ทั้งนี้วิตามินเคที่พบได้ในผักกาดหอม ช่วยในเรื่องการไหลเวียนของเลือด ผิวพรรณจึงดูเปล่งปลั่งขึ้นได้ ส่วนแครอท มันเทศ ฟักทอง ซึ่งอุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน ก็ช่วยต่อต้านสิวได้เหมือนกันนะ ยารักษาสิวอย่างแอคคิวเทนที่จริงแล้วก็เป็นสารสังเคราะห์เลียนแบบเบต้าแคโรทีนนะ ฉะนั้นกินให้ได้เบต้าแคโรทันจากผัก สิวก็จะหายได้ ในราคาที่ถูกกว่ากันเยอะเลย9. ดื่มน้ำเปล่าเยอะ ๆ บีบน้ำมะนาวผสมในน้ำด้วย

        การดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอต่อที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องทำให้เป็นนิสัย และถ้าเป็นไปได้ลองบีบน้ำมะนาวเพิ่มลงไปในน้ำที่คุณดื่มดูด้วยสิ น้ำมะนาวช่วยดีทอกซ์ร่างกายโดยรวม โดยเฉพาะที่ตับซึ่งเป็นอวัยวะที่กรองสารพิษออกจากร่างกาย ถ้าระบบภายในดี ผิวพรรณที่อยู่ด้านนอกก็จะดีตามไปด้วยได้ไม่ยาก นอกจากนี้มันยังเต็มไปด้วยวิตามินซีที่ทำให้ผิวสุขภาพแข็งแรง และช่วยให้ผิวซ่อมแซมตัวเองได้ดีขึ้น ผิวที่เป็นสิวจึงดีวันดีคืนหากคุณได้ดื่มน้ำผสมน้ำมะนาวทุกวันนั่นเองค่ะ 

        ขอบคุณ Kapook.com นะจ๊ะ

         
คำสำคัญ (Tags): #รักษาสิว
หมายเลขบันทึก: 573775เขียนเมื่อ 4 สิงหาคม 2014 08:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 สิงหาคม 2014 08:47 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท