.
.
นิตยสาร "ดิ อีโคโนมิสต์" วิเคราะห์ไว้เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2011/2554 ว่า
ปัจจัยที่มีผลต่อความปั่นป่วนใน "โลกอาหรับ" มี 5 ปัจจัยได้แก่
.
(1). years in power
= จำนวนปีที่ (จอมเผด็จการ) อยู่ในอำนาจ
ไม่ว่าจะเป็นเผด็จการแบบบุคคล, คณะบุคคล หรือสถาบันใด
ยิ่งครองอำนาจนาน, ยิ่งเพิ่มโอกาสสังคมปั่นป่วน
.
กลไกที่เป็นไปได้ คือ ยิ่งอยู่นาน ยิ่งเกิดกลุ่มอิทธิพล หรือกลุ่มอภิสิทธิ์ชน (elite) = "คนพิเศษกลุ่มน้อย"
ทำให้คนที่ "ไม่พิเศษกลุ่มใหญ่" เสียโอกาสในการศึกษา ทำมาหากิน และอะไรๆ อีกหลายอย่าง
ความไม่เท่าเทียมกันในสังคม ทำให้คนกลุ่มใหญ่ไม่พอใจ
ความไม่พอใจ นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางสังคม
.
(2). population under 25, % of total
= ร้อยละของประชากรที่มีอายุต่ำกว่า 25 ปี (จากทั้งหมด)
คนอายุน้อยรุ่นใหม่ มีโอกาสดู TV (ภาพยนต์ ข่าวต่างประเทศ ฯลฯ) + ใช้อินเตอร์เน็ต + ได้ฟังเรื่องราวจากคนที่ไปทำงานต่างประเทศ_อพยพไปต่างประเทศ
ทำให้อยากเห็นบ้านเมือง (อาหรับ) เจริญแบบโลกตะวันตกบ้าง
.
ความกดดันนี้จะเพิ่มขึ้น ถ้าคนอายุน้อย "ตกงาน"
ความกดดันจากการตกงานในโลกอาหรับมีความรุนแรงสูงกว่าส่วนอื่นของโลก
เนื่องจากธรรมเนียมของที่นั่น ไม่นิยมให้ผู้หญิงทำงานนอกบ้าน
ผู้ชายอาหรับที่จะเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดีได้... จะต้องมีรายได้มากพอที่จะจัดงานแต่งงาน
.
แต่งงานแล้ว ฝ่ายผู้หญิงจะทำหน้าที่แม่บ้าน + มีลูก (มากๆ)
หัวหน้าครอบครัว (อาหรับ) ที่ดี จะต้องมีงาน (ที่ดี) ทำ จึงจะเลี้ยงครอบครัวลูกดกได้
.
(3). population under 25, million
= ประชากรอายุต่ำกว่า 25 ปี อย่างน้อย 1 ล้านคนขึ้นไป
ถ้ามีคนอายุน้อยมากพอ จะขับเคลื่อนการประท้วงใหญ่ได้ง่ายขึ้นมาก
.
(4). GDP (ผลผลิตประเทศ)
ประเทศอาหรับที่มีการเมืองนิ่ง จะต้องมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่
ใหญ่พอที่จะทำให้คนในประเทศมีงาน (ที่ดี) ทำ
แถมผลผลิตประเทศ หรือเศรษฐกิจจะต้องโตขึ้นเฉลี่ยทุกปี
.
เพื่อรองรับอัตราการเพิ่มของประชากรในวัยทำงานได้
(ถ้าเศรษฐกิจโตไม่พอ หรือไม่โตขึ้น, จะทำให้สัดส่วนคนว่างงานเพิ่มขึ้น)
สัดส่วนคนว่างงานประเทศใด, สูงเกิน 10%
ประเทศนั้นจะเริ่มเสี่ยงการเมืองไม่นิ่ง
.
(5). ระบอบประชาธิปไตย
ประเทศใดมีการปกครองแบบประชาธิปไตยในระดับสูง
ประเทศนั้นมักจะมีการเมืองนิ่ง
ประเทศใดมีการปกครองแบบประชาธิปไตยในระดับต่ำ หรือมีความเป็นเผด็จการสูง
ประเทศนั้นมักจะมีการเมืองไม่นิ่ง
.
(6). คอรัปชั่น_โกงกิน
ประเทศใดมีอัตราการคอรัปชั่น โกงกินสูง,
ประเทศนั้นมักจะมีการเมืองไม่นิ่ง
ประเทศที่เข้าสูตรนี้ค่อนข้างมาก คือ อินเดีย
.
อินเดียเป็นประเทศที่มีความเป็นประชาธิปไตยสูง
แต่การเมืองไม่นิ่ง
เนื่องจากเป็นประชาธิปไตยแบบ "ไส้กลวง"
ยังไม่เลิกการแบ่งชนชั้นวรรณะ + มีการคอรัปชั่นสูง
.
(7). press freedom
= เสรีภาพของสื่อมวลชน
ประเทศที่สื่อมวลชน ทั้งรูปแบบเดิม เช่น หนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ ฯลฯ
และรูปแบบดิจิตอล เช่น การแสดงความคิดเห็นผ่านอินเตอร์เน็ต สำนักข่าวออนไลน์ บล็อกเกอร์ ฯลฯ
.
ประเทศใดที่สื่อมวลชนมีเสรีภาพต่ำ ถูกควบคุมเข้มงวด แสดงความคิดเห็นไม่ได้
ประเทศนั้นจะเสี่ยงการเมืองไม่นิ่งในระยะยาว
นิตยสาร "ดิ อีโคโนมิสต์" วิเคราะห์ดัชนีชี้วัด หรือปัจจัยเสี่ยง "บ้านเมืองป่วน" ของโลกอาหรับไว้ เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2011/2554 = 2 ปี 5 เดือน ว่า ประเทศอาหรับที่น่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครอง หรือบ้านเมืองป่วนมากที่สุดได้แก่
.
ตรงกันข้าม, ประเทศที่มีสัดส่วนคนอายุน้อยต่ำ มีจำนวนคนอายุน้อยต่ำ เศรษฐกิจดี มีแนวโน้มจะมีบ้านเมืองป่วนน้อยได้แก่
.
การสำรวจเร็วๆ นี้พบว่า อัตราการว่างงานในโลกอาหรับสูงมากที่ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา
อัตราการว่างงานที่นั่นสูงกว่า 40%
ก่อนหน้านี้มีการนำแผนที่อากาศ (อุตุนิยมวิทยา) ย้อนหลังมาใช้พยากรณ์ว่า
ประเทศใดจะเกิดความไม่สงบ
.
ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิอากาศพบว่า
ปรากฏการณ์ฝนแล้ง_ฝนทิ้งช่วง มีส่วนเพิ่มความไม่สงบ หรือเปลี่ยนแปลงการปกครอง
เช่น ภัยแล้งเริ่มในรัสเซีย ทำให้รัสเซียงดส่งออกข้าวสาลีที่ใช้ทำขนมปัง 1 ปี
ทำให้ราคาข้าวสาลีในตลาดโลกสูงขึ้น
.
ราคาอาหารที่สูงขึ้น เพิ่มเงินเฟ้อ
และมีส่วนในการเกิด "อาหรับสปริง" ในเขตซะฮารา
ซะฮารา = เขตแขกขาว หรืออาหรับในอาฟริกาตอนบนสุด
ต่างจากซับซะฮารา = เขตคนดำ หรืออาฟริกันแท้ในทวีปอาฟริกา
.
ปรากฏการณ์ฝนทิ้งช่วง 2 ปีเศษ
เกิดก่อนประเทศอิรักแตก
กลุ่ม ISIL/ISIS ยึดอำนาจได้
และตั้งประเทศ "คอลีฟะ" ใหม่ ระหว่างซีเรียกับอิรัก
.
เรื่องนี้บอกเป็นนัยว่า
ถ้าเราอยากให้การเมืองนิ่งขึ้น... 1 ในเรื่องที่น่าทำที่สุด คือ ทำการศึกษาแบบที่ "จบมาแล้วมีงานทำ"
.
แทนที่เราจะผลิตสาขาที่จบมาแล้วไม่มีงานทำ เป็นหมื่น เป็นแสนคนต่อปี
เราน่าจะเพิ่มการผลิตสาขาที่จบมาแล้วมีงานทำ คือ
.
ถ้าเพิ่มการผลิตสาขาที่จบมาแล้วมีงานทำ จะทำให้เด็กรุ่นใหม่มีขวัญ มีกำลังใจ
มีความหวัง มีพลังคิดไปถึงอนาคต
เมื่อคนรุ่นใหม่มีงานทำ จะไม่ว่างงาน
เมื่อไม่ว่างงาน จะฟุ้งซ่าน ป่วนบ้านป่วนเมืองน้อยลง
.
เมื่อมีงานทำ จะมีเงินเลี้ยงแม่เลี้ยงพ่อ เลี้ยงครอบครัว
จะมีเงินเสียภาษี
และจะเป็นพลังขับเคลื่อนประเทศชาติไปสู่หนทางที่ดีขึ้น
ประเทศไทยประสบความสำเร็จสูงในด้านการท่องเที่ยว + เมดิคัลฮับ (ท่องเที่ยว + รักษาพยาบาล) แล้ว
.
ถ้าทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางการศึกษาสุขภาพของอาเซียน
โดยเฉพาะ ถ้าทำให้ชาวพม่า ลาว กัมพูชา + ชาติอาเซียนอื่นๆ เข้ามาเรียนในไทยได้
ประเทศไทย น่าจะมีรายได้จากการศึกษา ค่าหอพัก ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าท่องเที่ยว (จากนักศึกษา_ผู้ปกครอง) มากขึ้นในระยะยาว
คล้ายๆ กับที่ออสเตรเลีย มีรายได้จากการศึกษาแบบนานาชาติมาแล้วเช่นกัน
.
ถึงตรงนี้... ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ
.
Thank The Economist > http://www.youtube.com/watch?v=P30s4-94C1A&list=PLBD4DD2C0D4598CF2&index=10
ไม่มีความเห็น