ผู้ป่วยชายไทย อายุ 50 ปี ป่วยเป็นมะเร็งลำไส้คุณชัย(นามสมมติผู้ป่วย) ถูกส่งตัวมาฉายรังสี 25 แสง ทุกครั้งที่มาจะมีผู้คุมมาด้วยทุกครั้ง เนื่องจากคุณชัยเป็นผู้ต้องขังทำให้ฉันสนใจชีวิตคุณชัยเป็นพิเศษ วันหนึ่งฉันได้มีโอกาสนั่งคุยกับคุณชัย
คุณชัยเล่าว่า “ในปี 2538 เมื่อศาลพิพากษาให้ผมต้องโทษจำคุกตลอดชีวิตในคดีฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตายด้วยเจตนาเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวจริงๆ ในชีวิตความโกรธเข้าครอบงำจิตใจ ทำให้ขาดสติการกระทำเลวร้ายได้ถึงเพียงนี้ “กรรม” ก็สมควรแล้วกับโทษที่ได้รับหลายเดือนที่อยู่ในเรือนจำกลางบางขวาง ความคิดมากมายที่เกิดขึ้นนานัปการคำว่าจำคุกตลอดชีวิต มันทำให้รู้สึกได้ถึงความท้อแท้ หมดหวัง และหมดกำลังใจ สุดจะบรรยายได้ถึงความทุกข์ยากที่ได้รับทั้งทางร่างกายและจิตใจ คิดถึงลูก คิดถึงเมีย คิดถึงพ่อ-แม่-พี่-น้อง น้ำตาลูกผู้ชายถึงจะไม่มีไหลให้ใครเห็น แต่ความรู้สึกแล้วยากที่จะพูดให้ใครได้รับรู้และเข้าใจ “เคยคิดฆ่าตัวตาย”
หลังจากคิดฆ่าตัวตายเกิดความคิดและรู้สึกได้ถึงความอ่อนแอจิตมันอ่อนแอนะ คนที่คิดฆ่าตัวตายพูดง่ายๆ คือ ไม่สู้ยอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่ขึ้นเวที ถ้าพูดว่าเป็นนักมวยนะใจมันสั่งให้สู้ ถึงจะรู้ว่าสู้ไม่ชนะก็สู้แลก่อนนะ และทำวันนี้ก่อนทำให้ดีที่สุด
คิดดีพูดดีและทำดีสำหรับอนาคตข้างหน้า อดีตข้างหลังอย่าไปกังวล ที่สุดแล้วผมรู้สึกว่าดีขึ้น จิตใจไม่สับสนและเกิดความสุขขึ้นในใจ ผมทำงานทุกอย่างที่เจ้าหน้าที่ของเรือนจำได้มอบหมายให้ด้วยความเต็มใจ ทำให้ดีขยันและมีความสุขกับงาน ต่อมาผมได้เข้าศึกษาหาความรู้โดยสมัครเข้าเรียนธรรมศึกษาในระยะเวลา 3 ปี ผมสอบผ่านนักธรรมชั้นตรี ชั้นโท ชั้นเอกตามลำดับและผมก็ปฏิบัติตัวอยู่ในระเบียบวินัยของเรือนจำตลอดมา จนได้รับความไว้วางใจและทางเรือนจำกลางบางขวางแดน1 ได้มีการสอบเลื่อนชั้นเป็นนักโทษชั้นดี ชั้นดีมากและชั้นเยี่ยมตามลำดับ หลังจากได้เป็นนักทาชั้นเยี่ยม ทางฝ่ายการศึกษาพัฒนาจิตใจของเรือนจำกลางบางขวางได้มอบหมายให้เป็นครูช่วยสอนธรรมศึกษาให้กับผู้ต้องขังอื่นที่สนใจเรียนและศึกษา ความรู้สึกในตอนที่เป็นครูช่วยสอนธรรมศึกษารู้สึกดีขึ้นตามลำดับ มองชีวิตนี้ยังมีความหมาย ยังมีค่ามองโทษตลอดชีวิตนั้นเป็นเรื่องเล็กเรื่องธรรมดา หากร่างกายนี้ยังมีลมผมจะสู้และอดทนอย่างน้อยๆ ชีวิตนี้ก็ยังมีคุณค่าและยังสามารถทำให้อีกหลายคนได้เรียนรู้ได้ศึกษา ซึ่งพระธรรมคำสอนของพระบรมสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เป็นแนวทางให้กับชีวิต มีแนวความคิดที่ถูกที่ควรเมื่อพ้นโทษไปก็สามารถที่จะพัฒนาตัวเองนำพาชีวิตขึ้นสู่คุณภาพสังคมจะได้ตอบแทนคุณแผ่นดินสร้างความดีเพื่อรางวัลชีวิต
จากที่ได้สร้างสมความดีตั้งแต่เป็นนักโทษชั้นเยี่ยมแล้ว ก็ได้รับการยกย่องเป็นที่ไว้วางใจของเจ้าหน้าและเป็นที่รักของเพื่อนผู้ต้องขังและที่สำคัญได้รับพระราชทานอภัยโทษ ลดโทษลำดับจากโทษตลอดชีวิต ในเดือนธันวาคมนี้ผมจะพ้นโทษ แต่ที่สุดแล้วพอมาวันหนึ่งผมได้รับรู้ว่าเป็นโรคร้าย คือ เป็นโรคมะเร็งที่ลำไส้ใหญ่” คุณชัยหยุดพูดพร้อมสีหน้าเศร้าๆ
“คุณชัยรู้สึกอย่างไรกับการป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ค่ะ” ฉันถาม
คุณชัยตอบ “ ถ้าให้ถามความรู้สึกว่าเป็นเช่นไรกับการที่ต้องมาเป็นโรคนี้ กับที่ผ่านมาก็นับว่าแย่มากๆแล้วครับ ชีวิตผมนับว่าโชคร้ายเอามากๆ จะเป็นกรรมอะไรนั้นผมไม่อยากจะคิดแล้วที่ผ่านมานั้นนับได้ว่าชีวิตผมตกลงสู่เหวลึกแต่ผมก็จะสู้ และอดทนมองชีวิตว่ายังมีคุณค่า ผมจึงพยายามที่จะขึ้นจากเลวลึกนั้นให้ได้ที่สุดแล้วเมื่อผมพยายามผมก็ขึ้นมาได้ถึงปากเหวแต่แล้วผมก็กลับตกลงไปอีกและรู้สึกจะลึกกว่าเก่ากับอายุที่มากขึ้นผมจะมีแรงขึ้นจากเหวได้หรือ แต่คำว่าชีวิตนี้ยังมีค่าและมีความหมายอยู่จึงทำให้ผมเกิดพลังใจไม่ยอมแพ้แต่ต่อสู้”
“ที่แล้วมาคุณชัยสามารถผ่านวิกฤตของชีวิตมาได้และครั้งนี้เชื่อมั่นว่าคุณชัยก็ทำได้เช่นกัน ขอเป็นกำลังใจให้นะค่ะ” ฉันพูดให้กำลังใจ
“ ขอบคุณครับวันนี้ผมรู้สึกสบายใจ ถึงแม้จะรู้ตัวเองนั้นเป็นโรคมะเร็งแต่ใจก็คิดเสมอว่าชีวิตนี้ยังมีค่า ยังมีความหวังจึงทำตัวให้สบายๆ สู้และอดทน ลูกสองคนยังรอคอยผมอยู่ หากผมไม่สู้ท้อแท้ เสียเวลาที่ผมต่อสู้มานั้นยาวนานนักกับชีวิตในเรือนจำกับแค่โรคมะเร็งแค่นี้มันไม่สามารถทำให้ใจผมเสียได้หรอก ผมรู้สึกได้ถึงพลังขุมหนึ่งที่เกิดขึ้นภายในจิตใจว่า สามารถที่จะหยุดโรคร้ายได้ระดับหนึ่ง นั้นก็คือ ความสุข สงบ และสบายใจ”
ขอบคุณ อาจารย์ พี่ ฟ่ง ที่นำบันทึกนี้มาแบ่งปัน แบ่งกำลังใจ
“ที่แล้วมาคุณชัยสามารถผ่านวิกฤตของชีวิตมาได้และครั้งนี้เชื่อมั่นว่าคุณชัยก็ทำได้เช่นกัน ขอเป็นกำลังใจให้นะค่ะ” ฉันพูดให้กำลังใจ
มาให้กำลังใจพี่ฟ่ง ดูแลผู้ป่วยต่อไปค่ะ