ตื่นเช้ามาเปิดโทรทัศน์ จะมีวันไหนไหมนะ ที่ไม่มีข่าวร้าย แต่ละวันต้องมีข่าวร้ายมากมาย ดูข่าวร้ายๆ แล้วส่งผลทำให้เราใจร้าย ไปด้วยหรือเปล่านะ ลองถามใจตัวเองกันนะคะ
ข่าวล่าสุดนี้ กับเด็กผู้หญิงคนหนึ่่งที่หายตัวไปจากขบวนรถไฟ ตอนแรกแม่ดาวไม่กล้าจะฟัง หรือติดตาม ใช้วิธีผ่าน ๆ หู แบบไม่ตั้งใจดูหรือฟัง เพราะในวันนั้นตรวจเช็คสุขภาพจิตตัวเองแล้วว่า "ไม่พร้อม" ไม่อยากทำร้ายใจตัวเอง พอวันนี้มีสติมากพอพร้อมเปิดดูข่าวร้าย ๆ ไม่ผิดที่อย่างที่คาดไว้ ข่าวนี้ยังอยู่ และเป็นข่าวที่คนติดตามกันมากจริง ๆ ข่าวไม่ดี ข่าวร้าว คนมักอยากรู้ อยากติดตาม ต้องถามตัวเองกันว่า เราจะอยากรู้ไปเพื่ออะไร
ส่วนตัวแม่ดาวอยากรู้ข่าวนี้ เพราะแม่ดาวมีลูก และมีเพื่อน ๆ ที่มีลูกมากมาย อยากรู้ไว้ เพื่อใช้ประโยชน์ พอนั่งดูใจเริ่มสั่น อาการทางกายเริ่มเปลี่ยน น้ำตาไหล ด้วยหัวอกคนเป็นแม่ เข้าใจ เห็นใจ และสงสารครอบครัวผู้ประสบเหตุเหลือเกิน มันมีความคิดและความรู้สึกมากมายเกิดขึ้นขณะที่ได้ดู ไม่ว่าจะเป็น สงสาร หดหู่กับสังคม ปรารถนาอยากให้ครอบครัวเขาผ่านพ้นเรื่องร้าย ๆ นี้ไปได้ด้วยดี ขอให้ดวงวิญญาณไปสู่สุขคติ ความสงสัยใคร่รู้ หลายเรื่องวน ๆ ในหัว แต่ที่อยากรู้ที่สุดคือ "ผู้ก่อเหตุเขาถูกเลี้ยงดูมาอย่างไร" เพราะนี้คือจุดเริ่มต้นของทุก ๆ ปัญหา ไม่ว่าจะเป็น การที่ผู้ก่อเหตุเสพยา ข่มขืนฯลฯ
มีความรู้สึกไม่พอใจกับการที่นักข่าวไปสัมภาษณ์ครอบครัวผู้เสียชีวิต เห็นแล้วรู้สึกทั้งสงสารครอบครัวเขา และไม่พอใจกับนักข่าว การอยากนำเสนอข่าวให้ประชาชนได้รู้ก็เป็นสิ่งดี แต่ควรมีวิจารณญาณในการทำงานนี้ด้วยว่าไหม เหมือนยิ่งไปตอกย้ำซ้ำเติม สัมภาษณ์จ่อไมค์ไป โดยไม่สนใจว่าใครจะรู้สึกอย่างไรอย่างนั้นหรือ อยากได้ข่าว จนลืมเห็นใจกันเกินไปหรือเปล่า เรียกว่าฟุ้งเลย สักพักสติทำงาน รู้สึกว่าเริ่มจะจมกับอารมณ์ไม่ปกติเหล่านี้ ดึงตัวเองกลับมาที่ลมหายใจ อยู่กับกายปัจจุบัน บอกตัวเองว่า "จุดตะเกียงซะ อย่าไปด่าความมืด"
พอไปอ่านในโลกสังคมออนไลน์ อีกครั้ง คำถ้อยคำ ข้อความ ร้าย ๆ ที่แพร่กระจายยิ่งกว่าโรคระบาด เราเสียใจ แล้วยังทำให้คนอื่นใจเสียไปด้วยหรือเปล่า ถ้อยคำยั่วยุ โกรธแค้น เหล่านี้ มันแก้ปัญหาได้จริง ๆ ไหม แต่เห็นมีบางรายก็ลุกขึ้นมากทำอะไรบางอย่างที่ไม่ใช่เพียงการต่อว่าด่าทอ
การแก้ปัญหาสำคัญที่ต้องแก้กฎหมายจริงหรือ หรือควรแก้ระบบความคิดตัวเอง วิธีปฏิบัติการดำเนินชีวิตในสังคมทั้งที่มีต่อตัวเราและต่อผู้อื่น เรากำลังเจอเรื่องร้าย ๆ ข่าวร้าย ๆ แล้วกำลังทำให้เราใจร้าย ๆ ไปด้วยหรือเปล่า ส่วนตัวมองว่าจุดเริ่มต้นของปัญหามาจากครอบครัว การเลี้ยงดู สิ่งแวดล้อมทางสังคม เราเปลี่ยนสังคมได้แม่ดาวเชื่อว่าสักวัน หากพวกเราทุกคนร่วมด้วยช่วยกัน มันเป็นเรื่องยาก แต่ช่วยกันใครทำสิ่งไหน ทำอะไรได้ที่จะช่วยให้มันดีขึ้นให้ลงมือทำ การแก้กฎหมายเหมือนเป็นการแก้ที่ปลายเหตุ อยากให้ย้อนกลับมามองที่ต้นกำเนิดของปัญหา อะไรที่ทำให้เขาเติบโตมาเป็นเช่นนี้ คนในสังคมควรได้ตระหนักรู้ มากกว่า ผู้ก่อเหตุเสพยาบ้า ดื่มสุรา ดูหนังโป๊ อยากได้ทรัพย์สินของผู้ตาย
เริ่มต้นจากตัวเองก่อน ส่วนตัวเช่น
- ตั้งใจและพัฒนาจิตใจตนเองให้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เช่น มีศีล 5 เป็นที่ยึดเหนี่ยวให้ปฏิบัติ ไม่เกี่ยวข้องกับอบายมุขทั้งหลายทั้งปวง ใส่ใจกับการแต่งกายของตัวเองที่อาจส่งผลกระทบต่อผู้อื่นให้มากขึ้น ฯลฯ
-ตั้งใจและใส่ใจกับวิธีการเลี้ยงลูกของตนเอง
--สนใจและใส่ใจกับเพื่อนร่วมโลก เห็นอะไรไม่เหมาะ ไม่ควร ทำอะไรได้จงทำ
ถ้าแม่ดาวเป็นผู้วิเศษ ผู้มีอำนาจ แม่ดาวมีอะไรอยากจะทำหลายอย่าง เช่น
- ห้ามขาย ห้ามเสพ สุรายาเสพติด มันมีประโยชน์อะไร ที่ต้องนำมาขาย จำหน่าย มีแต่โทษ
- ห้ามประกอบการค้าที่ทำให้เสื่อมศีลธรรม ไม่ว่าจะเป็น ร้านเหล้า บ่อนการพนัน ฯลฯ
มีอีกมากมายในหัว ขำ ๆ ค่ะ แต่ทำไม่ได้ แค่เพ้อ ๆ
***ฝากไว้ะนะคะ ไม่แน่นะคะ คนที่กำลังอ่านอยู่นี้อาจจะมีตำแหน่งหน้าที่ฐานะทางสังคมที่พอจะช่วยกันสร้างสังคมดี ๆ ให้เกิดขึ้นได้มากกว่าคนธรรมดา ๆ อย่างแม่ดาว ร่วมด้วยช่วยกันค่ะ
อีกครั้งที่อยากชวนกัน "จุดตะเกียง ดีกว่าด่าความมืด"
เห็นด้วยค่ะ ว่าเราต้องเริ่มที่ตัวเอง
เริ่มต้นทำสิ่งดีๆ ให้สังคมด้วยตัวเอง สอนลูก ชักชวนคนในครอบครัว
พี่ชอบและสนับสนุนทุกข้อค่ะ