การจัดการความรู้สู่การจัดการชีวิตตัวเองผลเป็นอย่างไร


เมื่อครั้งรับราชการเป็นพนักงานราชการ ทำงาน 1 คน 3 งาน ตามนโยบายผู้บริหาร ผมเองอาจไม่รู้สึกลำบากอะไรมากมายในการทำงาน เพราะได้รู้จัก KM และเพราะ KM นี่เองทำให้สามารถตัดสินใจลาออกจากราชการเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้อย่างไม่ลังเล เพราะมั่นใจว่า เมื่อเรานำ KM มาใช้ในการทำงานได้อย่างดีแล้วนั้น KM ย่อมสามารถนำมาจัดการชีวิตทั้งชีวิตเราได้เช่นเดียวกัน เลยอยากจะ AAR แบ่งปันชีวิตหลังจากลาออกจากการเป็นพนักงานราชการได้ 2 ปีแล้ว เพื่อมาเป็นนายจ้างตัวเอง ก่อนที่เราจะแก่จนเริ่มต้นใหม่ไม่ไหว ว่า KM ช่วยชีวิตเราได้แค่ไหน

เมื่อก่อน ดี๋ยวนี้
ตื่นเช้ามากกินข้าวแต่งตัวรีบมารอรถรับส่งไปให้ทันแปดโมงครึ่งทุกวัน ตื่นเช้าไปออกกำลังกายจ่ายตลาดทำอาหารกินเองไปทำงานสายๆ เก้าโมงกว่าๆ
นั่งหน้าคอมฯ ทำสปอต ทำสื่อ พิมพ์บันทึกงานไว้ตอบตัวชี้วัด เดี๋ยวประเมินไม่ผ่าน นั่งหน้าคอมฯ อัฟเฟชบุ๊ก เปิดเพลงให้คนไข้ฟัง พิมพ์เอกสารความรู้แจกคนไข้
งานนอกสถานที่ทำจิปาถะ ถ่ายภาพ เป็นพิธีกร จัดเอกสาร จัดสถานที่ ทำกระบวนการ บางทีต้องสรุปงานให้ชาวบ้านด้วย ค่าตอบแทนแล้วแต่เจ้าของงานเขาเมตตา งานนอกสถานที่ เป็นอาจารย์พิเศษ เป็นวิทยากร เป็นทีมทำงาน ที่มีเกียรติ เราแค่ดูคิวงาน รับงานให้ไม่ชนกัน รายได้กำหนดได้ค่าตัวจะเรียกเท่าไหร่เขาก็ยินดีจ่าย
สุขภาพแย่ เดี๋ยวป่วยเดี๋ยวป่วย บ่าคอตึงตลอดเวลา เครียดง่าย ทั้งที่พยามบอกตัวเองว่าไม่เครียด เป็นหมอเองแล้วไม่เคยป่วยเลย แถมอยู่ดีกินอร่อย คอยแต่ควบคุมน้ำหนักแทนควบคุมความเครียด
ความก้าวหน้าในงานมองไม่เห็นคิดไม่ออกว่าจะอยู่อย่างไรถ้าทำไปจนเกษียณเพราะสวัสดิการหลังเกษียณก็ไม่มีอะไรมากสำหรับพนักงานราชการทุกวันนี้ ความก้าวหน้าไม่มีความกดดันเลยเพราะเป็นธุรกิจที่อาศัยทักษะเฉพาะตัว แถมไม่มีคู่แข่งทางการตลาด แค่เงินเก็บหนึ่งปีกว่าที่ผ่านมาก็ไม่กลัวชีวิตในยามแก่เฒ่าแล้ว
รายได้ตามเกณฑ์มาตรฐานราชการที่เขาจ่ายได้ ส่วนเงินจะขึ้นทำงานมากทำงานน้อยผลก็พอพอกันขึ้นอยู่ผู้ประเมิน ทำงานตามปกติไม่ต้องดิ้นรนอะไรมากมายรักษามาตรฐานฝีมือแค่ให้คงที คนป่วยขึ้นทุกวัน คนไข้ก็เยอะขึ้น และถ้ายิ่งพัฒนาตัวเองก็ยิ่งส่งผลดีต่อตนเองโดยตรงไม่ต้องรอให้ใครมาคอยตัดสิน
การช่วยเหลือสังคมทำในบทบาทที่ได้รับมอบหมายไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรพิเศษก็มันเป็นงานเท่านั้นเอง เต็มใจตลอดที่ได้ช่วยเหลือคนอื่น แถมภูมิใจที่ได้ทำอย่างสม่ำเสมอ
รู้สึกมีค่าและเดี๋ยวนี้มีเพียงพอที่จะเป็นผู้ให้แล้ว

หมายเลขบันทึก: 571600เขียนเมื่อ 3 กรกฎาคม 2014 15:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 3 กรกฎาคม 2014 16:00 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท