5 มิถุนายน 2557
เป็นอีกวันที่ใช้ชีวิต ณ สุราษฎร์ธานี อากาศตอนเช้าๆ สบายน่าวิ่ง
วิ่งเสร็จพอมีเวลานั่งลงริมน้ำ รู้สึกดีกับผิวกายที่ได้รับลม เอื่อย
ชีวิตตอนเช้าต่าวจากตอนเย็นแม้กระทั่งสายน้ำ น้ำนิ่งผักตบลอย
ส่วนตอนเย็น ๆน้ำไหล ลมแรง หรืออาจจะมีเรือควักไขว้ ผักตบติดริมตลิ่ง
นั่งทบทวนอะไรทำได้ อะไรยังทำไม่ได้เพราะอะไร
การจัดอาหารถวายครูทำได้ แต่ยังขาดความใส่ใจ
สิ่งที่ท่านชี้ให้ระงับยังคงเตรียมมา
ระหว่างทานไม่รู้จัก สังเกตดูแล ถ้าใจรู้จักคำว่า ดูแลเอาใจใส่สิ่งเหล่านี้เกิดอะไรขึ้นเราจะเห็น
ทำงานตลอดวันรูว่า ครูใช้พลังเยอะขับเคลื่อนใจผู้คน
จนเสียงเปลี่ยน เสียงที่เปลี่ยนสะท้อน ความอ่อนแรงของร่างกาย
แต่ใจครูพร้อมที่จะ ให้สิ่งที่ดีที่สุดกับทุกคน จึงไม่เคยหยุดทำแม้แทบหมดแรง
เป็นตัวอย่างที่ครูทำให้เห็นเสมอ ๆ
ตกเย็นครูเมตตาทดสอบ เรื่องในการให้ทานของหนู
ได้ข้อสรุปกับตนเอง ยังไม่ผ่าน
ยังไงถึงจะผ่าน ก็ต้องฝึกต่อไป
วันนี้เปลี่ยนการวิ่ง จากที่วิ่งริมน้ำมาลองวิ่งในฟิสเนส
ใจรู้สึกผิดกัน ปั่นจักรยาน ก่อนประมาณสิบห้านาทีเพราะลู่ไม่ว่าง
พอได้ขึ้นวิ่ง บอกไม่ถูก ใจคิดถึงเทรนเนอร์ที่เคยสอน
ว่าอย่าวิ่งแบบที่วิ่งบนดินธรรมดา มันจะกระแทกเข่าจะเสื่อมให้ลงน้ำหนักเข่าเบาๆ
ได้เหงื่อไปอีกแบบ แต่ใจชอบวิ่งตามถนนธรรมดามากกว่า
ไม่มีความเห็น