เรือที่แล่นจากฝั่งหนึ่ง ไปยังอีกฝั่งหนึ่ง
โดยมีหมุดหมายชัดเจนว่า
ปลายทางฝั่งฝันนั้นอยู่ตรงไหน
ถือเป็นการเดินทางที่มีคุณค่าและความหมาย
เพราะดีกว่าเดินทางออกจากฝั่ง
แต่ไม่รู้ว่าฝั่งฝันอีกฟากอยู่หนใด
ขึ้นอยู่กับว่าต้องใช้เวลายาวนานสักปานใดในการไปถึงซึ่งฝั่งฝันดังปรารถนา
ชีวิตคนเราก็ไม่ต่างกัน
ในยามลงมือทำสิ่งใดก็ตาม
ล้วนเป็นไปในครรลองเดียวกับเรือที่แล่นออกจากฝั่งเสมอ
เพียงแต่ทำอย่างไร
ชีวิตจึงจะไม่มุ่งมั่นกับปลายทางอันเป็นฝั่งฝันมากจนเกินเหตุ
มากจนทำให้เราละเลยต่อเรื่องราวระหว่างทาง
หรือมุ่งสู่ฝั่งฝันอย่างเอาเป็นเอาตาย-
จนชีวิตเหือดแห้ง... ไร้ชีวิต
เรื่องราวระหว่างทาง
ล้วนมีจุดหมายในตัวของมันเอง
แต่ละจุดหมายในระหว่างทาง
ย่อมเป็นส่วนผสมเติมเต็มจุดหมายใหญ่ที่รออยู่บนฟากฝั่งที่เรา-
หรือแม้แต่เรือกำลังแล่นไป
ชีวิต และเส้นทางแห่งชีวิต
ล้วนเติบโตบนฐานแห่งการเรียนรู้แบบไม่แยกส่วน
ทุกอย่างล้วนยึดโยงเกาะเกี่ยวสัมพันธ์กันอย่างไม่อาจหลีกหลบ
บางสิ่งอาจเป็นต้นธารแห่งความสุข
ขณะหนึ่งอาจเป็นต้นธารแห่งความทุกข์
แต่ทั้งปวงนั้น ล้วนเป็นครรลองวิถีที่ชีวิตทุกชีวิตต้องพบพาน - จากพราก
และเติบโตบนปรากฏการณ์แห่งสุขและทุกข์
หรือบนชะตากรรมแห่งการพบ และพราก
เรือที่แล่นจากฝั่งหนึ่งไปยังอีกฝั่งหนึ่ง
โดยมีหมุดหมายชัดเจนว่า
ปลายทางฝั่งฝันนั้นอยู่ตรงไหน
ถือเป็นการเดินทางที่มีคุณค่าและความหมาย
เพราะดีกว่าเดินทางออกจากฝั่ง
แต่ไม่รู้ว่าฝั่งฝันอีกฟากอยู่หนใด
ขึ้นอยู่กับว่าต้องใช้เวลายาวนานสักปานใดในการไปถึงซึ่งฝั่งฝันดังปรารถนา
แต่หากต้องหลงทาง หรือจำต้องปล่อยเลยไปตามคลื่นลมและกระแสน้ำอันเชี่ยวกราก
ก็หาใช่จะเป็นตัวชี้วัดความล้มเหลวของการเดินทางเสียทั้งหมด
เพราะการหลงทาง ย่อมถือเป็นองค์ประกอบหนึ่งของการเดินทางอยู่วันยังค่ำ
หรือบางที ทิศทางที่พลัดหลงไปนั้น
อาจจะเป็นจุดหมายปลายทาง หรือฝั่งฝันอันแท้จริงที่เราเพิ่งค้นพบก็เป็นได้
ใคร - จะไปรู้ ?
ในระหว่างทางย่อมเกิดบางสิ่งที่ทำให้ชีวิตแปรปรวน...แต่ถ้าเราผ่านมันไปได้ นั่นคือ จะทำให้เราพบกับความสำเร็จในชีวิต...แม้แต่เรื่องการเดินหลงทาง...ทางที่เราพลัดหลงไปนั้นอาจเป็นจุดหมาย...แต่พี่ว่า คนเราไม่ค่อยคำนึงเรื่องผลสำเร็จของการพลัดหลงกันมากเท่าไหร่เพราะเป็นไปได้ยากที่จะทำให้เกิดผลสำเร็จ...
สิ่งหนึ่งที่พี่เชื่อ...ชีวิต คือการเดินทางค่ะ เว้นแต่จะเลือกเดินทางโดยทางไหน อาจมีหลากหลายเส้นทางที่เราใช้ในการเดินทางของชีวิต...ขอบคุณค่ะ...
ขอบคุณข้อคิดดีๆ ค่ะอาจารย์
เขาเปรียบครูเหมือนเรือจ้าง แม้จะรู้ว่าจะส่งศิษย์ที่ฝั่งฝันใด แต่หนทางช่างคดเคี้ยว มากมายด้วยอุปสรรคนะจ๊ะ ขอบคุณบันทึกดี ๆ มีสาระจ้ะ
เรือกับคน
มีอะไรคล้ายกันนะครับ
ขอบคุณมากๆครับ
...อ่านแล้วนึกถึงเพลงเรือมนุษย์ ...เพลงเก่าแต่มีความหมายดีมาก...เรือมนุษย์ คำร้อง สุรัฐ พุกกะเวส ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน ขับร้องโดยคุณ บุษยา รังสี
ได้เรียนรู้ จากครูผ่านบล็อค ขอบคุณครับ
นานๆได้เข้ามาที มาแวะเยี่ยมยามค่ะ
สมดุลขณะนี้ และเพื่อชีวีปลายทางนะคะ
ครับพี่ บุษยมาศ
การหลงทาง ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางเสมอ
การหลงทาง ย่อมท้าทายต่อการหาทางกลับเพื่อไปสู่จุดหมายให้ได้เร็วที่สุด
เรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงแห่งการหลงทางนั้น จะเป็นทุนชีวิตอันยิ่งใหญ่ที่ทำให้เรามีพลังต่อการขับเคลื่อนชีวิต...
ขอบคุณครับ
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยือนนะครับ คุณtuknarak
ภาพและอารมณ์นึกคิดในบันทึกนี้ ผมบันทึกไว้ในช่วงที่ลงชุมชนครับ...
คุณตาแจวเรือข้ามฝากพร้อมกับเรื่องราวที่ก้องกระหึ่มในหัวใจของผม โดยเฉพาะภาพความเปลี่ยนแปลงจากแหล่งน้ำในอดีตอันกว้างลึก มาสู่ตื้นเขิน และถุกขุดรอกในรอบใหม่....
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ คุณมะเดื่อ
เรือที่แล่นโดยปราศจากลมคลื่น ย่อมเปราะบางทั้งลำเรือและคนแจว.....
(กระมัง ครับ) ....55
ครับ อ.ขจิต ฝอยทอง
เรือ และ คน ....คล้ายกัน
และเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน....
ท้องน้ำ ก็เป็นประหนึ่งหนังสือ -แบบเรียน สนามชีวิตให้เรือและคนได้เรียนรู้ บ่มเพาะตัวเอง ครับ
ครับ อ.ฤทธิไกร มหาสารคาม
... ยินดีที่ได้พบปะ และเรียนรู้ไปด้วยกัน ครับ
สวัสดีครับ พี่มณีวรรณ ตั้งขจรศักดิ์
คิดถึงเช่นกันครับ
เป็นยังไงบ้าง
ว่าจะเดินทางแถวนั้นอีกรอบ
คงได้พบเจอ เสริมพลังกันอีกครั้งเป็นแน่ครับ
รักษาสุขภาพนะครับพี่
ครับ พี่หมอ ธิรัมภา
สมดุลของวันนี้ ยังเป็นจุดที่ผมต้องเรียนรู้ บริหารและจัดการ ครับ...
ยากยิ่งไม่ใช่ย่อย แต่ก็ยังท้าทายอยู่ครับ