ทางออกซึ่งเป็นความหวังอันน้อยนิดของประเทศไทย


เฮือกสุดท้ายของฝ่ายอำมาตย์

ดูสถานการณ์ของบ้านเมือง นับวันดูเหมือนฝ่ายอำมาตย์จะยืนยันการแตกหัก เข้าสู่สถานการณ์ที่ดิฉันเคยวิเคราะห์ และคาดเดาเหตุการณ์เข้ามาทุกขณะ ถึงแม้ว่าดิฉันภาวนาอยู่ตลอดเวลา ให้ฝ่ายอำมาตย์นึกสงสารประเทศไทยบ้าง แต่นับวันน่าจะล้มเหลว เพราะเราได้เห็นการยืนยันที่จะนำประเทศสู่การแตกหักมากขึ้นทุกวันๆ และยังยืนยันที่จะตั้งนายกที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งให้ได้ ในเมื่อนายกมาจาก ม. 7 ไม่ได้ ก็ขอเรียกว่า นายกเฉพาะกิจก็ได้ว่ะ แต่สุดท้ายน่าจะจบที่ทำปฏิวัติรัฐประหารโดยใช้ทหาร เพราะทางเดียวที่สามารถตั้งนายกรัฐมนตรีได้ นี่แหละสิ่งที่ดิฉันบอกว่า ฝ่ายอำมาตย์เค้ามองโลกแบบดาวพระศุกร์ เพราะเค้าสามารถมองจากที่สูงจริง สามารถเห็นโลกได้ทั้งใบ แต่ขอโทษทีเห็นโลกเฉพาะตอนหัวค่ำ ไม่สามารถเห็นโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงแบบพลวัต หรือพูดง่ายๆ ว่าเห็นโลกตอนช่วงอื่นๆ เช่น เจอแสงตะวันได้เลย เปรียบได้ว่าฝ่ายอำมาตย์มองเห็นแต่อำนาจ และบริวารของตัวเอง เลยไม่สามารถประเมินพลังและแนวทางของคู่ต่อสู้ทางการเมืองของตัวเอง จึงไม่สามารถมองเห็นอันตราย ความเสี่ยง ที่แผ่นดินจะลุกเป็นไฟได้เลย ดิฉันพยายามคิดว่าฝ่ายอำมาตย์มองโลกแบบดาวพระศุกร์แบบที่วิเคราะห์นะคะ เพราะจะได้รู้สึกดีว่า เค้าไม่คิดที่จะทำลายประเทศไทยเพื่อแลกกับอำนาจและผลประโยชน์ของตัวเอง

เรื่องของการเมือง ก็สมควรจะจบด้วยการใช้การต่อสู้ด้านการเมือง การชนะการต่อสู้เชิงการเมือง ต้องชนะด้วยการกุมหัวใจของประชาชนที่เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย ในขณะที่ชัยชนะที่ทางการทหาร ต้องทำลายล้างฝ่ายตรงข้ามให้มากที่สุด เพราะฉะนั้น การที่จะเอาอำนาจทหารเข้ามาหยิบชัยชนะทางด้านเมือง จึงไม่น่าจะไม่เป็นผลดีกับใครเลย ทั้งกับประชาชนและประเทศชาติ โดยเฉพาะในระยะยาว ตอนนี้ฝ่ายอำมาตย์รู้หรือไม่ ว่าคู่ต่อสู้ของฝ่ายตัวเองคือใคร หรือพูดง่ายๆ ว่าสู้อยู่กับใคร ตอนนี้คุณไม่ได้สู้กับระบอบทักษิณ และตระกูลชินวัตรนะคะ แต่คุณสู้อยู่กับประชาชนที่เรียกร้องเสรีประชาธิปไตยครึ่งค่อนประเทศ แน่นอนมันไม่มีทางเหมือนกับอดีต ในประวัติศาสตร์การเมิองไทย ที่ฝ่ายอำมาตย์ใช้วิธีทำรัฐประหารชนะมาตลอด เพราะที่ผ่านมา ประชาชนไม่ได้ถูกปลุกให้ขึ้นมาต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยเหมือนในครั้งนี้ แน่นอนไม่ยากเลยที่ฝ่ายอำมาตย์สามารถเอาชนะได้ เพราะฝ่ายอำมาตย์มีพร้อมทุกอย่าง ทั้งอำนาจทางการทหาร การปกครอง เศรษฐกิจ ระบบราชการ ขาดแต่เพียงประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศสนับสนุนเท่านั้นเอง ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่อยู่ฝ่ายเสรีประชาธิปไตย ดังนั้นปัญหามันไม่ได้อยู่ตรงที่ฝ่ายอำมาตย์ชนะได้หรือไม่ แต่มันอยู่ที่ เมื่อชนะแล้วมันเกิดอะไรขึ้นต่างหาก ก็เหมือนที่ดิฉันเคยพูดไว้ หากคุณชนะแล้ว คุณสามารถปกครองประเทศได้หรือไม่บนความขัดแย้งที่มากมายมหาศาลขนาดนี้ หรือฝ่ายอำมาตย์คิดว่า ปิดฉากตระกูลชินวัตร หรือทำกับคุณยิ่งลักษณ์เหมือนกับคุณทักษิณ และใช้กฏอัยการศึกปราบประชาชนหรือคะ ในสภาวะที่บ้านเมืองเป็นแบบนี้ ฝ่ายอำมาตย์ทำลงไป แผ่นดินลุกเป็นไฟเท่าน้้นเอง ยกเว้นแต่ฝ่ายอำมาตย์ ทำไปเพราะต้องการแยกประเทศ ในเมื่อฝ่ายอำมาตย์ไม่สามารถครอบครองประเทศได้ทั้งหมด ก็ขอยอมสูญเสียพื้นที่ประเทศไทยไปบางส่่วน แต่จะไม่ยอมสูญเสียอำนาจและผลประโยชน์ของตัวเองเลย ที่สำคัญต้องการหาที่ยืนให้กับตัวเอง พร้อมหาทางลงให้กับคุณสุเทพ แกนนำ กปปส และพรรคประชาธิปัตย์ พอพูดถึงตอนนี้ พวกสลิ่ม มักจะยกตัวอย่างจากแกนนำ นปช. คุณณัฐวุฒิ ไสยเสื้อ ที่พูดว่า "ถ้าฝ่ายอำมาตย์ ตั้ง นายก ม.7 หรือนายกที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน หรือทำรัฐประหาร จะตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นทันที" และพวกสลิ่มก็บอกว่า "การใช้คำว่าตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น เป็นการส่อเจตนาในการแบ่งแยกประเทศ ย่อมเป็นการแสดงเจตนาที่จะกระทำผิดต่อกฏหมายรัฐธรรมนูญ" แล้วพวกสลิ่มเคยคิดบ้างไหมว่า ถ้าฝ่ายอำมาตย์ตั้งนายกที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง นั่นหมายถึง ฝ่ายอำมาตย์ฉีกรัฐธรรมนูญทันทีเสียเอง และที่สำคัญฝ่ายเสรีประชาธิปไตยจะตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นไปทำไม ถ้าฝ่ายอำมาตย์ยอมรับกติกาสังคม และกฏหมายรัฐธรรมนูญ

ทางออกของปัญหาของบ้านเมืองเราตอนนี้หรือคะ ดิฉันมองว่า ทางออกมี แต่ไม่ยอมเดิน ซึ่งหากยังไม่สามารถจัดการการเลือกตั้งได้ ก็ขอให้ทำประชามติหรือประชาพิจารณ์ ให้ประชาชนทั้งประเทศเป็นผู้ตัดสิน ว่่าจะเลือกตั้งไปพร้อมกับการปฏิรูป หรือจะให้ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง ไม่ใช่ดันทุรังตั้งนายกรัฐมนตรีเฉพาะกิจ หรือก่อความวุ่นวายจนต้องนำไปสู่การทำรัฐประหาร แต่เราก็รู้คำตอบรู้แล้วไม่ใช่หรือคะ ว่าพวกขี้แพ้นะหรือ จะยอมทำประชามติหรือประชาพิจารณ์ และปัญหาทั้งหมดที่มันเกิดขึ้นกับประเทศไทย ไม่มีอะไรหรอกคะ ปัญหาเกิดจากพวกขี้แพ้ แล้วไม่ยอมรับความเป็นจริง ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ ไม่ยอมรับกฏกติกาของการอยู่ร่วมกันของสังคม ไม่ยอมเดินตามกฏกติกา ไม่ยึดหลักกฏหมายรัฐธรรมนูญ ทำผิดกฏหมายทุกอย่าง และยอมแม้กระทั่งให้ชาวโลกประนามว่าเป็นพวก "เผด็จการ" และถ้าหากฝ่ายอำมาตย์ยังยืนยันที่จะทำเหมือนเดิม คือ ตั้งนายกเถื่อนให้ได้ โดยไม่ฟังเสียงข้างมากของประชาชน ยืนยันที่จะฉีกรัฐธรรมนูญ แล้วถ้าเป็นอย่างนี้จะไม่ให้ประชาชนส่วนใหญ่เค้าคิดว่า อำมาตย์ต้องการแยกประเทศเพื่อหาที่อยู่ให้ตัวเอง แล้วจะให้คิดว่าอะไรคะ? ยกเว้นพวกสลิ่มเท่านั้นเอง ที่ยังไร้เดียงสาทางการเมือง ตกหลุมคุณธรรมจริยธรรมที่มโนขึ้นมาเอง และต้องทำลายล้างระบอบทักษิณให้สิ้นจากประเทศไทยถึงแม้ว่าจะต้องทำลายระบอบประชาธิปไตยของไทยไปด้วยก็ตาม

ขอเอาใจช่วยประเทศไทยให้รอดพ้นจากวิกฤติการณ์ครั้งนี้ และยังคงรักษาไว้ซึ่งขวานทองของเราตลอดไป

หมายเลขบันทึก: 568169เขียนเมื่อ 16 พฤษภาคม 2014 16:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 ตุลาคม 2015 10:02 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ชอบข้อเขียนนี้ค่ะ

คิดอย่างไรคะกับการที่ศาลออกหมายจับให้แต่มีเงื่อนไขที่สรุปได้ว่าจับได้แล้วไม่ให้คุมตัว ทำไมกับผู้ร้ายกลุ่มอื่นไม่มีเงื่อนไขแบบนี้  อยากบ้าแทนดีเอสไอจริง ๆ

ขอบคุณมากคะ อาจารย์ ที่ชอบข้อเขียน และเป็นกำลังใจให้ตลอดคะ นี่แหละคือปัญหาหนึ่งขององค์กรอิสระ จริงๆ วัตถุประสงค์การตั้งองค์กรอิสระเหล่านี้ ตั้งขึ้นเพื่อกำจัด และป้องกันการเกิดคอรัปชั่น ป้องกันการทุจริตของนักการเมือง แต่เป็นอย่างไรคะ ก็อย่างที่เห็น ตอนนี้ดูเหมือนคนไทย จะโทษการทุจริต คอรัปชั่นเกิดขึ้นเพราะนักการเมือง ดิฉันมองว่ารากเง้าของการเกิดทุจริตคอรัปชั่น ก็คือ พวกข้าราชการประจำนี่แหละคะ สันดานนิสัยคนไทยเรานี่แหละ สำคัญที่สุด มันไม่แปลกอะไรเพราะโดยทั่วไป คนเรามักจะโทษคนอื่น หรือโยนความผิดให้คนอื่นเสมอ และมองไม่เห็นตัวเอง เลยไม่เคยคิดจะปรับหรือแก้อะไร เพราะตัวเองดีอยู่แล้วคะ มันก็เลยออกมาอย่างที่เห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท