ผู้ทรงสิทธิในการมีสุขภาพดี


ผู้ทรงสิทธิในการมีสุขภาพดี

              สิทธิในการมีสุขภาพดีเป็นอีกหนึ่งสิทธิมนุษยชนที่มนุษย์ทุกคนควรจะมี และรัฐทุกรัฐมีหน้าที่อำนวยความสะดวกให้ประชาชนของรัฐนั้นๆ สามารถเข้าถึงสิทธิในการมีสุขภาพที่ดีได้ โดยที่ประเทศไทยเองก็มีการบัญญัติถึงสิทธิในการมีสุขภาพดีไว้ในกฎหมายของประเทศไทย กล่าวคือ พระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแหงชาติพ.ศ. ๒๕๔๕ วางหลักในเรื่องสิทธิในการมีสุขภาพดีของประชาชนไว้ว่า

              มาตรา 3 "บริการสาธารณสุข หมายความว่า บริการด้านการแพทย์และสาธารณสุขซึ่งให้โดยตรงแก่บุคคลเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค การตรวจวินิจฉัยโรค การรักษาพยาบาล และการฟื้นฟูสมรรถภาพ ที่จำเป็นต่อสุขภาพและการดำรงชีวิต ทั้งนี้ ให้รวมถึงการบริการการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบโรคศิลปะ"

               มาตรา 5 วรรค 1 "บุคคลทุกคนมีสิทธิได้รับบริการสาธารณสุขที่มีมาตรฐานและมีประสิทธิภาพตามที่กำหนดโดยพระราชบัญญัตินี้" [1]

               เนื่องจากในพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพของประเทศไทยใช้คำว่า ”บุคลคลทุกคนมีสิทธ...” มิได้กำหนดว่าจะต้องมีสัญชาติไทย ดังนั้นบุคคลทุกคนในประเทศไทยควรมีสิทธิได้รับบริการสาธารณสุขที่มีมาตราฐานตามพระราชบัญญัติดังกล่าว

               ในกรณีศึกษาที่ข้าพเจ้าสนใจนั้น คือกรณีของ น้องผักกาด ที่เกิดในโรงพยาบาลแม่สอด จังหวัดตาก มีลักษณะร่างกายที่พิการ สมองบวมในลักษณะที่ไม่น่าจะมีชีวิตรอด ทางแพทย์และพยาบาลของโรงพยาบาลจึงมิได้ทำการแจ้งเกิดอย่างถูกต้องให้กับน้องผักกาด เพราะคิดว่าอาจอาจจะเสียชีวิตในเวลาไม่นาน เป็นเหตุให้น้องผักการมิได้แจ้งเกิด และไม่มีสัญชาติไทย แต่กระนั้นน้องผักกาดก็สามารถรอดชีวิตมาจนถึงปัจจุบันแม้ถูกมารดาที่ถูกสัฐนิษฐานว่าเป็นชาวพม่าทิ้งไว้ที่โรงพยาบาล ด้วยความที่น้องผักกาด มิได้มีสัญชาติไทยและตกเป็นบุคคลไร้รัฐในปัจจุบัน ทำให้น้องผักกาดไม่สามารถเข้าถึงสิทธิ และความคุ้มครองของรัฐไทยได้เช่นเดียวกับประชาชนคืนอื่น ๆ เคราะห์ยังดีที่ ในปัจจุบันน้องผักกาด อายุ 8 ปี ได้รับการช่วยเหลือหน่วยงานของคณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ที่สนใจและเข้าช่วยเหลือผู้ที่ประสบปัญหาตกเป็นบุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติ ทำให้ในปัจจุบันกรณีของน้องผักกกาดได้รับความสนใจ และได้รับการช่วยเหลือให้สามารถเข้าถึงสิทธิในการมีสุขภาพดีได้เช่นเดียวกับประชาชนคนอื่นๆได้

              จากเหตุการณ์กรณีศึกษาของน้องผักกาดนั้น ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกว่า ปัจจุบันเหตุการณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชนของประชาชาชนนั้นมักเกิดขึ้นโดยมิได้ตั้งใจของหน่อยงาน หรือบุคคลต่างๆ กล่าวคือ ในกรณีของน้องผักกาดหากได้รับการแจ้งเกิด และได้รับสัญชาติไทยในเบื้องต้น น้องผักกาดก็จะสามารถเข้าถึงสิทธิในการมีสุขภาพที่ดีได้โดยไม่ยากเย็น แต่น้องกลับถูกสัฐนิษฐานว่าจะไม่รอดชีวิต จึงทำให้ไม่มีสัญชาติ และตกเป็นคนไร้รัฐที่ไม่สามารถเข้าถึงสิทธิต่างๆได้เลย ดังนั้นข้าพเจ้าคิดว่า รัฐจึงควรให้ความสำคัญและไม่ละเลยในส่วนของการรับรองสถานะบุคคลทางทะเบียนให้กับมนุษย์ทุกคนแม้ว่าจะมีร่างกายเช่นไรก็ตาม เพราะการที่บุคคลใดๆก็ตามตกเป็นบุคคลไร้รัฐ ด้วยเหตุเพราะการกระทำของรัฐนั้นๆ ก็เปรียบเสมือนว่า บุคคลนั้นกำลังถูกละเมิดดสิทธิมนุษยนโดยรัฐนั้นแล้ว

อ้างอิง

[1] พระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติพ.ศ. ๒๕๔๕

http://www.thailandlawyercenter.com/index.php?lay=...

หมายเลขบันทึก: 568063เขียนเมื่อ 15 พฤษภาคม 2014 18:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 พฤษภาคม 2014 18:47 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท