คิด... ตัดสินใจ... แก้ปัญหา อย่างสมเหตุสมผล
...ช่วงเด็กปิดเทอมใหญ่ ครูได้พักผ่อน แต่ศึกษานิเทศก์ถูกเรียกเข้าอบรมกับส่วนกลางถี่ขึ้น คราวนี้ผมร่วมคณะไปรับรู้นโยบาย แนวคิด ในการพัฒนาทักษะกระบวนการคิดของเด็ก โดยอิงองค์ความรู้จากการเข้าร่วมโครงการ PISA ที่คนในวงการศึกษาขั้นพื้นฐานรู้กันดีว่า เป็นการประเมินผลนักเรียนนานาชาติ (PISA : Programmed for International Student Assessment) ที่เป็นการทดสอบคุณภาพการเรียนรู้ที่ผู้เรียนต้องใช้องค์ความรู้ที่มี มาคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ ตัดสินใจ แก้ปัญหาตามเหตุการณ์ สถานการณ์ที่กำหนดอย่างสมเหตุสมผล พอออกจากห้องประชุมได้เอกสารมาชุดใหญ่ พร้อมรับมาตรการ 6 ข้อ เป็นแนวปฏิบัติสำหรับเขตพื้นที่ พอถึงคราวปฏิบัติจริงผู้อำนวยการเขตก็คงมอบหมายศึกษานิเทศก์ออกแบบกิจกรรมสู่ชั้นเรียน...ผมจึงต้องเตรียมใจล่วงหน้า.... การสอนให้คนคิดเป็น ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ใครจะทำได้สำเร็จชั่วข้ามคืน สังคมที่วุ่นวายอยู่ทุกวันนี้ก็ล้วนมีต้นตอมาจากผู้คนในสังคมมีปัญหาในการคิดทั้งสิ้น....ไม่ว่าจะคิดสุดขั้ว...คิดเอาแต่ได้...คิดผิดทาง....คิดสั้น....คิดทางเดียว....คิดต่าง...ไม่ต้องคิด(ทำตามอย่างแบบผิดๆ) ฯลฯ งานนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก หากจะทำเพื่อรายงาน เพื่อแสดงตัวเลขการพัฒนา ตามที่เคยเป็นมาก็ไม่สู้กระไร หากจะทำงานให้ลงถึงตัวเด็กอย่างยั่งยืน เห็นทีจะต้องขันน็อตอีกหลายตัว
...อันที่จริง มาตรการ 6 ข้อที่รับมาจากส่วนกลาง ก็อาศัยตรรกะที่ควรเป็นไปได้ในการแก้ปัญหากระบวนการคิดของเด็ก แล้วจัดกิจกรรมเขี่ยลูกเพื่อเริ่มเกมนั่นเอง ....ทุกวันนี้กิจกรรมพัฒนาถูกอัดลงไปโรงเรียนมากมาย แต่ครูรับได้ทีละเรื่อง เมื่อครูหมดสนุกกับการออกแบบการสอน เด็กเวลาเรียนน้อยลง กิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นการปฏิบัติ การคิดค้น การเผชิญสถานการณ์ ก็เกิดขึ้นในชั้นเรียนได้ยากขึ้น โอกาสที่เด็กๆจะได้ใช้กระบวนการคิด ตัดสินใจ แก้ปัญหาอย่างสมเหตุสมผล ก็ลดลงไปเรื่อยๆ.... ยิ่งไปเน้นการเรียนแบบกวดวิชา มุ่งเตรียมสอบ O NET ประกวดตัวเลขผลสัมฤทธิ์ ...ยิ่งไปกันใหญ่
....มองจากห้องประชุม เห็นขบวนเรือโยงกำลังลอดสะพานข้ามแม่น้ำ...ผมเริ่มมองเห็นรูปธรรมการพัฒนาคุณภาพการศึกษาไทยแจ่มชัดขึ้น...ใช่เลย
ทุกอย่างขึ้นอยู่ที่ " ครู " ต่อให้หลักการสอนดีเลิศประเสริฐศรีเพียงใด อบรมสักกี่ร้อยกี่พันครั้งก็ตามที หากครูไม่ใส่ใจ
ในการนำมาปฏิบัติ ทุก ๆ เรื่อง ก็จบลงที่ " ชอล์ก และ กระดานดำ " เท่านั้นจ้ะ .... ทำอย่างไรจึงจะให้ครู...คิด
เป็น...สำคัญกว่า....ทำอย่างไรจะให้เด็กคิดเป็น
เห็นด้วยกับครูมะเดื่อมากๆ เราพัฒนากันด้วยรูปแบบ หลักการมานานแล้ว ที่อ้างว่าพัฒนาโดยอุดมการณ์ หาคนทำยาก ระบบราชการทำแบบนี้เปลืองตัวจริงๆ