เคล็ดลับ(แบบไม่ลับ)ในการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ได้เรียนรู้จากแม่คือ ต้องพูดคุยกันสัตว์เลี้ยง ดังนั้นแม่ของครูนกจะเป็นผู้สนทนาหลักกับบรรดาสัตว์เลี้ยงทั้งที่บ้านและของเพื่อนบ้าน สนทนากับไก่ สนทนากับแมว สนทนากับสุนัข ซึ่งดูราวกับเพื่อนรู้ใจ
บทสนทนาก็ตั้งแต่เรื่องดินฟ้าอากาศ เรื่องพี่น้องและครอบครัว อาหารและการกิน
เจ้าโทนเป็นลูกของนางกระรอกซึ่งเป็นแมวของเพื่อนบ้านซึ่งเป็นบ้านที่มีกิจการค้าขาย แต่เจ้าโทนดูจะชอบความสงบเลยมักจะมาอยู่ที่บ้าน และช่างฟ้องเมื่อมีเหตุการณ์ที่ไม่พึงพอใจ
แมวที่ไร้เจ้าของ.....แม่ก็พูดุคยแม้จะน้อยกว่าตัวอื่นๆ ด้วยแม่บอกว่าไม่อยากให้เจ้าตัวนี้มาอยู่ที่บ้านเพราะมีนิสัยอันธพาล คอยไล่บรรดาเจ้ากระรอกและเจ้าโทนของแม่
เหล่าบรรดาไก่ของแม่...ไม่ว่าจะไก่บ้าน ไก่แจ้ หรือลูกไก่ แม่ก็จะตั้งชื่อหมดทุกตัว และเรียกพูดคุยแบบสั่งได้ อย่างในภาพล่างสุดคือ คุณดี้ แม่ไก่แก่ที่ไข่จนหมดไข่แล้ว
สรุปการพูดุคยเป็นหน้าต่างอีกบานของการเลี้ยงสัตว์ที่เราจะต้องเปิดออกด้วยการทักทาย พูดุคยให้เป็นกิจวัตรประจำวัน แล้วจะเข้าใจซึ่งกันและกันค่ะ
น่ารักมาก ๆ ชอบค่ะ
อ่านบันทึกนี้แล้วได้บรรยากาศชนบท เรียบง่าย อบอุ่น เนิบช้า
ชอบค่ะครูนก
คุยกับสัตว์คือคนที่ใจดีค่ะครูนก
น่ารัก :) มีความสุขกับคุณครูนกไปด้วยค่ะ
สัตว์ทุกชนิดทุกตัว คงมีความรู้สึกเหมือนคน
เพิ่งจะถึงบางอ้อว่า ทำไมตอนที่ แม่ ยังอยู่ สัตว์เลี้ยงต่างๆ จะรักแม่มากกว่าใครๆ ความจริงรวมทั้งลูกหลาน คนข้างบ้าน คนงาน ฯลฯ บันทึกนี้ทำให้เข้าใจว่า การพูดคุย การสือสารด้วยใจ... เป็นสายใยแห่งมิตรภาพจริงๆ
ขอบคุณค่ะ ชอบค่ะ :)
ทำให้คุณแม่ไม่เหงาด้วยนะคะ แม่ไก่แก่ตัวอ้วน น่ารักทุกตัวเลยค่ะ
ขอบคุณทุกท่านค่ะ
คุณหมอ ภูสุภา ใช่เลยค่ะน่ารักจริงๆ
คุณหมอnui บ้านครูนกยังชนบทอยู่ค่ะ ห่างจากเมืองหาดใหญ่ประมาณ ๒๖ กิโลเมตร
คุณครู tuknarak เป็นสมมติฐานที่น่าจะจริงค่ะ....แม่ใจดีค่ะ
คุณ กุหลาบ มัทนา ยินดีสุขร่วมกันค่ะ
คุณหยั่งราก ฝากใบ ชอบคำนี้จังเลยค่ะ สื่อสารด้วยใจ
คุณครูหยิน ยินดีค่ะ มีโอกาสจะเดินทางไปพบในทันทีค่ะ
พี่กานดาน้ำมันมะพร้าว แม่ไก่อ้วน...จนครูนกบอกแม่ว่า เขาจะกล้ากินแม่ไก่แบบนี้....ฮาๆๆๆ ครูนกไม่เอาด้วยคนค่ะ ขอคุยอย่างเดียว