"เป้าหมาย (คน) ไทย"


 

                                                                                

ผู้เขียนมองภาพรวมของคนไทยหลายปีที่ผ่านมา ยอมรับว่ "ฉาบฉวย อำนวยผิด" มาก เวลาได้พูดคุยกับผู้คนทั่วไปและอ่านจากสื่อต่างๆ เราสามารถประเมินได้ว่า ประเทศไทยกำลังถอยหลังไปเรื่อยๆ อ่อนแอลงสม่ำเสมอ เข้าลักษณะที่ว่า "ท่าดี ทีเหลว"

ครั้นเวลาใครๆ พูดถึงต่างประเทศ เราก็มักจะสรรเสริญบ้านเมืองคนอื่นในแง่ดี อย่างนั้น อย่างนี้ ทั้งๆ ที่แค่ได้ไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ตามบริษัทพาไป มิได้ท่องเที่ยวซอกแซก สอบถาม เรียนรู้กับชาวบ้าน ชาวเมือง และประวัติที่มาของเขาเลย กลับมองแค่จุดที่เห็นเท่านั้น เลยมองภาพพจน์ประเทศนั้นว่า "ดี" (?) ไม่เหมือนเรา

ทำไมเรายอมรับหรือสยบสมองให้กับต่างชาติหรือเมืองนอก เมืองนากันมากมายขนาดนั้น เราคนไทยกำลังสูญเสียจุดยืนที่มั่นคงของตนไปอยู่ กำลังสูญเสียการทรงตัว เพราะต้องพิงพาอาศัยต่างชาติเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ เรามักอ้างว่า เพื่อพัฒนาประเทศ ให้บ้านเมืองเจริญ อยู่ดี กินอร่อย มีเงินใช้ มีงานทำ เหล่านี้คือ "หัวใจ" ของเป้าหมายของคำว่า ประเทศไทยหรือไม่

ผู้เขียนชื่นชมมาเลย์เซียที่ไม่ก้มหัวให้อเมริกา ที่ยืนหยัดด้วยศักยภาพของคน แม้แต่พม่า ลาว กัมพูชา แต่ก่อนก็ไม่แยแสชาติตะวันตกเช่นอเมริกา (ยกเว้นอังกฤษ ฝรั่งเศส) ส่วนไทยเสียเกียรติให้อเมริกา (ยอมให้เขาใช้ฐานทัพ) และฝรั่งเศสไปตั้งแต่สงครามอินโดจีน

ปัจจุบันคนไทย (ส่วนหนึ่ง) ได้สูญเสียสมองให้กับอเมริกาไปแล้ว จึงมองข้ามชาติเพื่อนบ้านของตนไปซะงั้น ว่ากันว่า คนไทย (ชั้นสูง กลาง) รู้จักอเมริกาดีกว่าชาติเอชียซะอีก สมองครึ่งหนึ่งจึงจุข้อมูลอีตาแซมไว้อวดตัวว่า "เจริญแล้ว"

ภาพที่สื่อออกมาคือ วิธีคิด ตรรกะ ปรัชญา การเมือง ทุนนิยม สื่อ วัฒนธรรม การศึกษา นิสัย ภูมิศาสตร์ในสมอง ฯ มักจะถือเอาอเมริกาเป็นมาตรฐานวัด ISO ว่า เป็นระดับสากล ยอมรับว่า วัฒนธรรมอเมริกา มีอิทธิพลต่อชาติที่กำลังพัฒนามาก

หากเรายังเทหัวใจและสมองให้กับอเมริกาว่าคือ เป้าหมายเชิงอุดมคติของการดำรงชีวิตละก็ คุณจะไม่มีวันเข้าใจรากเหง้าเค้ามูลของบรรพบุรุษตนเองเลย และจะไม่มีใจที่จะหวงแหนหรืออนุรักษ์วัฒนธรรมที่ดีไว้เป็นแน่

ในฐานะคนไทย ที่ต้องการเห็นประเทศพัฒนาไปในทางที่ไม่เสียดุลยภาพ (ระหว่างตนกับชาติอื่น) เราควรมีใจเป็นไทย หน้าตาไทย ผสมกับวิถีต่างชาติหน่อย เพื่อให้ตนเองถูกเรียกว่า "พัฒนา เจริญ" แบบสากลบ้าง

แต่อย่าดูถูกชาติไทย วัฒนธรรมไทย ที่สร้างลูกปลูกเชื้อมาเป็นเอกลักษณ์ตน ที่กล้าพูดได้ว่า เอกลักษณ์ไทยคือ วัฒนธรรมหนึ่งของโลก หรือว่าเรามองเห็นเชื้อชาติไทย ไม่เจริญ ไม่พัฒนาแบบสากลเขา จึงยกเอาอเมริกาเป็นหมุดหมายปลายทางการดำรงชีวิต

ดังนั้น จึงอยากสะท้อนภาพพจน์คนไทย ที่มีกระแสไปในทิศทางต่างชาติ ที่เปิดประเทศให้เป็นสากล เพื่อให้ตนเองกลายเป็นวัฒนธรรมเดียวกับชาติตะวันตก แหละเพื่อต้องการเป้าหมายเชิงอุดมคติ ๑๐ ประการดังนี้

 

๑) "รวย" = ประเทศไทยกำลังพัฒนาคน สาธารณูปโภค และด้านอื่นๆ ไปตามทิศทางที่เรียกว่า "รวย" (Get rich) เพราะจะทำให้ตนเองมีเงิน มีทรัพย์ ใช้สอยได้สะดวก ดำเนินชีวิตสบาย นี่คือ เป้าหมายอันดับหนึ่งของคนไทย

๒) "เสรีภาพ" =  ประเทศ(คน)ไทยต้องการความอิสระ เสรีภาพ ด้านสิทธิ อัตตาตัวตน ให้มากขึ้น ต้องการความเป็นใหญ่ในตัวเอง อยากอิสระจากกฎหมาย ระเบียบ ศีลธรรม และกฎทั้งหลาย เพื่อให้ตนเองใช้สิทธิเต็มที่ จนไม่รู้จัก "หน้าที่" และขาดจิตสำนึกในความเป็นส่วนรวมคือ ความเป็นไทย เลยกลายเป็นตัวใครตัวมัน และเป็นอภิเสรีในตนเองสูง

๓) "สากล" = ประเทศไทยเป็นชาติเอเชีย มิใช่ชาติหัวหอกในการเป็นแม่แบบชาวโลก ยังมองเห็นตัวเองด้อยไปกว่าอเมริกาหรือยุโรปอยู่มาก จึงต้องการสร้างภาพพจน์ของตนให้เป็นระดับอินเตอร์ เพื่อสะท้อนว่าตัวเองเจริญ เทียบเท่ากับอเมริกา ดังนั้น อเมริกาจึงกลายเป็นแม่แบบสากลของคนไทย (ส่วนใหญ่) จึงไม่แปลกที่คนไทยมักไปเรียนและพูดแต่เรื่องราวของอเมริกาๆ ๆ

๔) "อเมริกา" = เป็นประเทศที่คนไทยยอมรับว่า การที่จะพัฒนา หาเงิน มีชื่อเสียง เป็นที่ยอมรับ อเมริกาคือ เป้าหมายปลายทางของชีวิตที่ดำรงอยู่ในโลกนี้ เพราะเป็นแหล่งชุบชีวิตให้ดูดี มีเกรด มีระดับ สง่างาม ภูมิฐาน ภูมิใจ เมื่อกลับมาเมืองไทย แม้แต่พระสงฆ์ในศาสนาพุทธก็พากันบ้าไปด้วย ไปสอนฝรั่งหรือไปสอนคนไทยกันแน่ (เขารู้เขาดีแค่ไหน เรารู้เราดีแค่ไหน)

๕) "ภาษาอังกฤษ" = ภาษาอังกฤษที่ทั่วโลกใช้กันอยู่ มีกลุ่มใหญ่ๆ สองกลุ่มคือ แบบอเมริกันและแบบอังกฤษ ส่วนประเทศไทยชอบนิสัยอเมริกา เด็กไทยที่จบอเมริกามามักจะมีสำเนียงแบบนั้น คือ ลิ้นรัวๆหน่อย เขาว่า น่ารัก เป็นธรรมชาติ และไพเราะ แต่รังเกียจสำเนียงแบบอังกฤษ นั่นเพราะมีประวัติศาสตร์ด้านเชื้อชาติและภาษามาก่อน จึงไม่แปลกที่ศูนย์ภาษาในเมืองไทยจึงมีสไตล์อเมริกัน นี่คือ การปูพื้นฐานไปยังเป้าหมายอเมริกานั่นเอง

๖) "ทันสมัย" = ข่าวสารบ้านเมืองของอเมริกา อยู่ไกลโพ้นทะเลของไทยมาก เวลาอเมริกามีเหตุการณ์บ้านเมืองต่างๆ คนไทย สื่อสาร ข่าวสาร นักวิชาการ นักลงทุน ครูบาอาจารย์ในระดับมหาวิทยาลัย ฯ มักจะกล่าวถึง แสดงความเห็น วิเคราะห์ วิจารณ์ ไปต่างๆ นานา เสมือนว่ารู้ดี เข้าใจเขาดีมาก ซึ่งก็สะท้อนให้รู้ว่าเมืองไทยก้าวหน้าทันสมัย ไม่ตกยุค ถ้าพูดถึงอเมริกา ถ้าข่าวต้อง CNN หรือนิวยอร์คไทม์ สิ่งเหล่านี้คือ สัญลักษณ์แห่งความทันสมัยของโลกกระนั้นหรือ

๗) "วิทยาศาสตร์" = ประเทศไทยเคยนับถือบรรพบุรุษ ผี พุทธ เทพทั้งหลาย ตามป่าเขา ฯ มาก่อน แต่ปัจจุบันเรื่องเหล่านี้ กำลังถูกมองว่ "งมงาย" เพราะมีแนวคิดใหม่ด้านหลักการแบบธรรมชาติ ตรรกะ ที่สามารถทดลอง พิสูจน์ได้ หากไม่ตรงตามเกณฑ์นี้ ถือว่า งมงาย ไม่พัฒนา ยังล้าหลังชาติอื่นอยู่ เป้าหมายนี้ ทำให้เยาวชนคนใหม่ (ปัญญาชน) ไม่มีชุดความเชื่อแบบเก่าหลงเหลือยู่ แถมชอบท้าทายอีกด้วย จึงมองเห็นเป้านี้เป็นทางที่จะพัฒนาผู้คนให้ก้าวพ้นสิ่งมายา จากพ่อแม่ ปู่ย่า ตาทวดสอนมา อะไรๆ ก็เป็นวิทยาศาสตร์ๆ (แม้จะเดินคู่ไปกันกับไสยศาสตร์ก็ตาม)

๘) "ความเป็นหนึ่งเดียว (อาเซียน)" = ประเทศไทยคือ ประเทศหนึ่งในแผ่นดินโลกนี้ อยู่ในซีกเอเชียใต้ ซึ่งกำลังจะร่วมมือกันในการรวมกันเป็นเอกภาพเดียวกัน เพื่อต่อรองกับโซนอื่นๆ ของโลก เนื่องจากเป็นประเทศที่ด้อยพัฒนา จึงต้องจับมือกันให้เข้มแข็ง ในปลายปีหน้าเรียกว่า เออีซี มี ๑๐ ประเทศที่ต้องเป็นสมาชิกชาติกลุ่มเดียวกัน แต่ต่างวัฒนธรรมกัน สองสามปีที่ผ่านมาเราจะได้ยินภาพดีๆว่า เราจะเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อพัฒนาประเทศหรือทำลายประเทศที่ยังไม่ถูกนายทุนล้างสมองกันหนอ

๙) "ความสะดวก สบาย" = นี่คือ เป้าหมายของชีวิตแต่ละชีวิตของมนุษย์ เพราะทุกคนต้องการความสุข ความสบาย ความสะดวก ในกิจกรรมต่างๆ โดยเฉพาะคนไทยที่เรียกร้องให้รัฐจัดการด้านสาธารณูปโภค การขนส่ง การทำกิน การงาน การค้า การขาย การท่องเที่ยว รายได้ ฯ สุดท้ายจะเกิดผลคือ ความสบาย ความสะดวก ที่เรียกว่า เสพสุข ไม่เดือดร้อน

แต่เป็นภาพมายาหรือเป็นยาเสพติดที่รัฐหรือนายทุนหลอกให้เรากิน จนกลายเป็นลูกค้าถาวรกันแน่ แล้วสบายจริงหรือ หรือต้องมานับศพ มาไล่จับโจร คนชั่วเต็มบ้านเต็มเมือง

๑๐) "ประชาธิปไตย" = นี่คือ เป้าหมานหนึ่งที่เราแก้ปัญหาไก่กับไข่กันไม่จบ เรื่องการเมือง ที่เรียกร้องไปสู่เป้าหมายคือ "ประชาธิปไตย" (ประชา+อธิปไตย) แปลว่า ความเป็นใหญ่ของปปกส.เอ๊ย ของประชาชน อะไรคือ ความเป็นใหญ่ของประชาชน      

รุสโซ่ กล่าวว่า ความต้องการของประชาชนมีสองอย่างคือ ความต้องการส่วนตัว และความต้องการส่วนรวม ทั้งสองจะกลายเป็นอำนาจที่เรียกร้องให้เกิดการปกครอง โดยเลือกผู้นำไปเป็นตัวแทนบริหารความต้องการอย่างเป็นธรรม แต่ผู้นำกลับใช้อำนาจเด็ดขาด ทำให้ประชาชนเสียอำนาจ จึงเรียกร้องสิทธิเดิมคืนมา ทั่วโลกจึงมีลักษณะอำนาจนี้อยู่เช่น คอมมิวนิสต์ เผด็จการ ฯ

ประเทศไทยก็เช่นกัน มีนายทุนนิยมมีอำนาจเหนืออำนาจสิทธิของประชาชนที่เลือกเข้ามา แล้วไม่ดูแล ไม่บริหารความต้องการของประชาชนให้อยู่ดี กินดี มีแต่ถูกหลอก ถูกเจ้าหน้าที่รัฐใช้อำนาจบีบคั้น ด้วยเหตุนี้คำว่า "ประชาธิปไตย" จึงไม่เกิดขึ้น

เพราะไม่มีประเทศไหนให้ประชาชนปกครองประเทศ นอกจากต้องหาตัวแทนเข้าไปปกครอง จนลืมที่มาว่า ใครเลือก ใครส่งมา ประชาชนจึงเป็นใหญ่แค่ไม่กี่เดือนช่วงหาเสียงเท่านั้น จากนั้น ประชาชนเป็นแค่ "จุลิปไตย" เท่านั้น มิใช่ "อภิมหาประชาชน" ที่กำลังเรียกร้องกันอยู่นี้  ฮาาาาๆ

-----------------------<๑๗-๓-๕๗>------------------------

คำสำคัญ (Tags): #เป้าหมาย#คนไทย
หมายเลขบันทึก: 566191เขียนเมื่อ 18 เมษายน 2014 00:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 เมษายน 2014 06:39 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ประเทศไทย ความจริง มีของดี ๆ มากมาย แต่คนไทยไม่ค่อยนึกถึง อาจเนื่องมาจากฝังใจว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่กำลังพัฒนากระมังค่ะ จึงมองไม่ค่อยเห็นจุดดี จุดเด่นของตัวเอง แล้วหันไปมองสิ่งต่าง ๆ ของบ้านเมืองอื่น...ถ้าคนไทยหันมาดูของดีจากประเทศตนเอง และก็ไปนำจุดดีของต่างชาติมาผสมผสานกันด้วย พี่ว่า...จะทำให้เราเป็นประเทศที่ดีกว่าปัจจุบันนะคะ เพราะของต่างชาติ บางสิ่งก็มีทั้งดี ทั้งไม่ดี ขึ้นอยู่ที่ว่า เราจะเลือกสิ่งไหนมา จริงไหมค่ะ???

"โลกเปลี่ยนไป..มุมมองแตกต่าง..วัฒนธรรมจำเป็นแปรปรวน..เข้าเมืองตาหลิ่ว..ต้องหลิ่วตาตาม...ชาติ..ภาษา..จะไม่แตกต่างในวันข้างหน้า..การแข่งขัน..เพียงช่วยกันให้อยู่รอด..ของมวลชน"..ชนชั้นวรรณะ..เทียบเท่ากันในความเป็นคน..ที่ไม่จำเป็นต้องเดิน..สี่ขาต่อไป..เดินถอยหลังไม่ได้..ขับรถถอยหลังใช้เทคนิค.."..อิอิ....(อีกหน่อยก็ใช้หุ่นยนต์..ๆก้าวหน้ายึด..ประชาธิปไตย?.อ้ะะๆๆ)

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท