Amazing Turkey ตอนที่ 5 (สุดท้ายแล้วจ้า) Sight seeing Istanbul


Amazing Turkey ตอนที่ 5 (สุดท้ายแล้วจ้า) Sight seeing Istanbul

ทักทายกันด้วยวิวสวยๆ จากห้องพัก

 

เจ้าลูกชายบอกว่า ที่พักที่นี่อะไร อะไร ก็ดี ยกเว้นภาพนี้ภาพเดียว ไม่ปลื้มเลย

และนี่ก็คือที่พักของเรา เป็นโรงแรม Ramada เหมือนที่ Cappadocia สงสัยดีลพิเศษ

หลังกินอาหารเช้าที่โรงแรม เป็นอาหารบุฟเฟต์ ที่หน้าตาเหมือนๆ กับทุกวัน ก็ออกเดินทางเข้าเมืองด้วยรถบัสคันเดิม นี่เป็นวิวระหว่างทางค่ะ หมายเหตุ วิวระหว่างทางทุกภาพใน Amazing Turkey เป็นวิวที่ถ่าพภาพจากรถบัสนะคะ บางครั้งจะเห็นเงา หรือแสงที่ไม่สวย หรือบางภาพก็ไม่ค่อยชัด ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้

วันนี้โปรแกรมอัดแน่นมาก โดยที่แรกที่ไปก็คือสนามแข่งม้าของชาวโรมันหรือ Hippodrome หรือจัตุรัสสุลต่างอาห์เมต  ตอนแรกก็งงว่ามันเป็นสนามยังไงก็มีแต่ลานคนเดิน  ปรากฏว่า สนามจริงๆ แล้วอยู่ลึกลงไปประมาณ 4 เมตร ซะงั้น สิ่งที่เห็นก็เลยเป็นลานกว้างๆ มีคนเดินเยอะแยะเต็มไปหมด อ้าว รถบัสขับผ่าน Blue Mosque ซะด้วยสิ เดี๋ยวมานะจ๊ะ

 

มาถึงแล้วค่ะ Hippodrome หรือจตุรัสสุลต่านอาห์เมต ตอนนี้ยังเช้าอยู่ คนยังไม่มากเท่าไหร่ 

มีเสาโอเบลกส์ 3 ต้น โดยต้นที่อยุ่ตรงกลางจะเรียกว่า เสางู คือมันพันๆ กัน เหมือนงู แต่ส่วนหัวขาดไป เห็นแต่ตัวงูค่ะ  

ส่วนของลานกว้าง ก็มีนักท่องเที่ยวเยอะแยะเลย  ที่นี่มีห้องน้ำด้วยราคา 1 TLA เป็นแบบหยอดเหรียญเพื่อผลักที่กั้นเข้าไปด้านใน  มีรถเข็นขายของกิน มีแผงขายซิมการ์ด ฯลฯ

ที่นี่จะมีทางเชื่อมต่อไปยัง Blue Mosque จะเข้าไปด้านข้าง มีประตูเชื่อมอยู่ มีร้านอาหารเล็กๆ บรรยากาศน่านั่งมากเลย

มีเจ้าตูบมาด้วยแฮะ

ถ่ายรูปกันสักพักก็เดินต่อเพื่อไป Blue Mosque ระหว่างทางเดินไปก็มีป้ายบอกการปฏิบัติตัว

สุเหร่าสีน้ำเงิน หรือ Blue Mosque ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยสุลต่านอะห์เมตที่ 1 ซึ่งมีพระประสงค์จะสร้างมัสยิดของจักรวรรดิออตโตมันให้มีความงดงามและยิ่งใหญ่กว่าโบสถ์เซนต์โซเฟีย (St. Sophia) ของจักรวรรดิ์ไบแซนไทน์ ให้ได้  โดยสุเหร่าแห่งนี้ได้สร้างประจันหน้ากับโบสถ์เซนต์โซเฟีย  อย่างไรก็ตาม  โบสถ์เซนต์โซเฟียก็ยังคงเป็นโบสถ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศตุรกีจวบจนปัจจุบัน  นักท่องเที่ยวเยอะมากมาก หายใจแทบไม่ออกเมื่อเข้าไปด้านใน อ้อ ผู้หญิงต้องคลุมผมด้วยนะคะ

บรรยากาศด้านใน คนเยอะมาก เพราะเค้าจะกั้นให้นักท่องเที่ยวอยู่ด้านขอบๆ ไม่ให้เข้าไปถึงด้านใน นักท่องเที่ยวก็จะออกันอยู่ นี่ยังดีเป็นหน้าหนาว ถ้าเป็นน่าอื่นกลิ่นคงจะน่าดูชมทีเดียวค่ะ อยู่ได้แป๊ปเดียว ยังไม่ได้ดื่มด่ำกับความงามเลยก็ต้องระเห็จออกมาแล้ว เพราะไม่ไหวจริงจริง

ทางออกจะเป็นอีกทางหนึ่ง ไม่ใช่ทางเดียวกับทางเข้า โผล่ออกมาแล้วค่อยหายในโล่งหน่อย

มีนิทรรศการบริเวณทางออกด้วย

ออกมาแล้วก็เดินต่อไปยังโบสถ์เซต์โซเฟีย ซึ่งอยู่ประจัญหน้ากันกับ Blue Mosque เลยล่ะ เดินไปสักพักหันมาถ่ายรูปก็จะได้รูปถ่ายที่สวยงามแบบนี้

เดินกันต่อมุ่งหน้าไปยังโบสถ์เซนต์โซเฟีย ดูไกลๆ ก็งดงามมากมาย

ระหว่างที่เดินไปก็มีรถเข็นขายของมาอีกละ ของปิ้งของที่นี่หอมน่ากินมากเลย ขอบอก

 

ก่อนที่จะเข้าไป ไกด์ให้เราใช้ Audio set เพราะเค้าบอกว่า คนในนั้นเยอะมาก เวลาที่เค้าบรรยาย เสียงก็จะออกมาที่หูฟังของเรา ก็จัดมาเลย เปิดเครื่องเตรียมพร้อม

ตรงนี้เป็นที่ขายตั๋ว แต่ของพวกเราได้ตระเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วจากทีมไกด์

นักท่องเที่ยวเยอะมากเลยค่ะ และก็มีเด็กๆ มาทัศนศึกษาด้วย น่ารักจริงๆ

โบสถ์เซนต์โซเฟีย  ซึ่งเป็นศิลปะแบบไบแซนไทน์  ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ  สร้างขึ้นสมัยจักรพรรดิคอนสแตนตินของจักรวรรดิไปแซนไทน์  เดิมใช้เป็นโบสถ์คริสต์  แต่หลังจากจักรวรรดิออตโตมันเข้ามาปกครองจึงได้เปลี่ยนโบสถ์ดังกล่าวมาเป็นมัสยิด  แต่ได้เปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติสมัยเคมาล อะตาเติร์ก  หลังจากที่เป็นโบสถ์ในศาสนาคริสต์เป็นเวลากว่า 916 ปี และเป็นมัสยิดของศาสนาอิสลามอีกกว่า 447 ปี ภายในมีภาพประดับโมเสกทอง ที่สวยงาม  ต้องขึ้นไปชั้นสองเพื่อชมภาพดังกล่าว 

   

  

ได้เวลานัดก็เดินออกมากัน ระหว่างทางเจอทิวลิปกระชากใจ สวยมาก

 

บรรยากาศด้านนอก ระหว่าง Blue Mosque กะ โบสถ์เซนต์โซเฟีย

อาหารกลางวันเป็นเคบัปค่ะ หลังอาหารมีไอศครีมตุรกีจำหน่าย กรวยละ 5 TLA เด็กก็ไม่พลาดอยู่แล้ว

 

จากร้านอาหารเดินไปขึ้นรถบัส เจออีกแล้ว ทิวลิป คราวนี้มีดอกบานด้วย ไม่เคยเห็นค่ะ ขอซัก 2 รูปนะคะ

จากนั้นไปต่อกันที่พระราชวังทอปกาปึ (Topkapi Palace) ซึ่งสร้างขึ้นสมัยสุลต่านเมห์เมตที่ 2 หรือ เมห์เมตผู้พิชิต  ภายหลังที่ทรงตีกรุงคอนสแตนติโนเบิลหรืออิสตันบูลในปัจจุบันได้แล้ว ทรงมีพระราชประสงค์ที่จะให้เมืองนี้เป็นศูนย์กลางของอาณาจักรออตโตมัน จึงโปรดให้มีการสร้างพระราชวังขึ้นเป็นที่ประทับอย่างถาวร  พระราชวังนี้มีอาณาบริเวณกว้างมาก ล้อมรอบด้วยกำแพงสูงตามแนวฝั่งทะเลมาร์มารา ภายในประกอบด้วยตำหนักน้อยใหญ่ รวมทั้งฮาเร็ม ซึ่งถ้าจะเข้าฮาเร็มจะต้องเสียเงินเพิ่มค่ะ  ด้านในก็มีห้องจัดแสดงเครื่องแต่งกาย  ถ้วยชามของใช้  เครื่องราชฯ เครื่องประดับ  และเพชร 96 กะรัต  กริชมรกต  สวยงามอลังการมาก  แต่คนเยอะไปหน่อยค่ะ หายใจไม่ออก  ไม่ได้ดื่มด่ำกับของเลยเพราะคนเยอะ ต้องแบ่งกันดู และไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป ดูได้อย่างเดียว  บรรยากาศด้านในก็สมเป็นพระราชวังค่ะ กว้างมาก 

 

ขอทิวลิปอีกซักรูปนะคะ อยู่ด้านหลังพระราชวัง 

เดินผ่านดอกไม้อะไรก็ไม่รู้ ทั้งหอมทั้งสวยเลยค่ะ

 

ที่นี่มีร้านขายของที่ระลึกด้วย เพื่อไม่ให้เสียโอกาส เราก็จัดไป 1 ชิ้น จากที่นี่ค่ะ 300 TLA คือที่เป็นรูปดาวเดือนนะคะ ส่วนดาวิด (ตุ๊กตา) ซื้อจากตลาดแกรนด์ ราคา 10 TLA 

ต่อด้วยตลาดแกรนด์ หรือ แกรนด์บาร์ซาร์  เป็นตลาดเก่าแก่ค่ะ ที่นี่ local guide บอกว่าของส่วนใหญ่ทำมาจากประเทศจีน ให้ต่อรองราคาได้ตามความสามารถ 

 

ที่นี่เราเจอร้านขายคริสตัล ถามแล้วเค้าบอกว่าของเค้าทำจากโรงงานในตุรกี ไม่ได้ทำจากจีน  ได้มาอีกชิ้น St. Sophia อันนี้ 90 TLA และก็ได้ของชิ้นเล็กชิ้นน้อยอีกนิดหน่อย

ต่อด้วยอาหารเย็นที่ช้อปปิ้งมอลล์  ห้างก็เหมือนบ้านเราน่ะแหละ บรรยากาศข้างในก็เป็นแบบนี้

และก็ไปสนามบินกันละค่ะ ระหว่างทางเด็กก็หมดฤทธิ์ซะแล้ว

ที่สนามบิน เราเจอแม่ลูกคู่นึง  นั่งรอเกทเปิดอยู่ตรงกันข้ามกัน  ก็ยิ้มให้กันไปมา  แล้วก็เลยคุยกันได้ความว่า เค้าจะกลับซาอุดิอาระเบีย  พลาดไป 1 เที่ยวบินเพราะอยู่ในเลาท์แล้วไม่มีคนเรียก  ก็เลยออกมารอด้านนอก  ลูกสาวเค้าน่ารักมากเลยค่ะ

จบแล้วค่ะตุรกีทริป  สนุกมากเลย Amazing Turkey จริงๆ ชักจะติดใจการมาเที่ยวกะบริษัททัวร์ซะแล้วสิ

ขอบคุณข้อมูลจากเอกสารนำเที่ยวของบริษัททัวร์  ขอบคุณครอบครัวที่มาด้วยกัน และขอบคุณทุกคนที่ทำให้ได้มาในครั้งนี้ ขอบคุณทรีทามค่ะ

คำสำคัญ (Tags): #turkey#ตุรกี#istanbul
หมายเลขบันทึก: 565467เขียนเมื่อ 5 เมษายน 2014 23:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 เมษายน 2014 23:26 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท