วันนี้เตรียมบรรจุกระเป๋าเดินทาง พร้อมภรรยาเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น เพื่อพักผ่อนและให้เวลากับครอบครัวตลอดระยะเวลาที่สมรสกันมารวม ๑๐ ปี เพราะอากาศที่ร้อน งานที่มากมาย ความเครียดที่สะสม ทำให้สุขภาพจิตเสียบ่อยๆ จังตัดสินใจใช้เวลาวันหยุดราชการซึ่งตรงกับความต้องการเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นซึ่งใฝ่ฝันไว้นานแล้ว ว่าจะไปเที่ยวเมืองเก่าสมัยเอโค๊ะ ซามูไร และความศิวิไลน์ไฮเทคมากถึงแม้ว่าจะมีค่าช้จ่าหัวละ สี่หมื่นแปดพันบาทนับว่าน่าจะคุ้มค่า เพราะเป็นการนำเงินอนาคตมาจ่ายก่อนค่อยผ่อนที่หลัง เดินทางโดยสารรถตู้จ้างเหมาจาก นครปฐม เวลา ตี ๓ เพื่อไปขึ้นเครื่องบินที่สุวรรณภูมิเวลาตจี ๕ กว่าจะตรวจหนังสือเดินทางโหลดกระเป๋าและรอผู้โดยสารทรปเดียวกัน ๓๐ คนน่าจะเดินทางเวลา แปดนาฬิกาวันที่ ๔ เมษาย ๒๕๕๗ ใช้เวลาเดินทาง ๖ ชั่วโมงหักเวลาที่เดินทางบวกกับเวลาที่เร็วกว่าประเทศไทย ๒ ชั่วโมง น่าจะถึงที่นาริตะ ประมาณ บ่ายโมง ขณะที่เขัยนบันทึกอากาศร้อนมาก พัดลมเป่า ๒ ตัว ชาร์ตเเบตเตอรรี่โทรศัพท์เคลื่อนที่ ก็ไม่รู้จะได้ใช้หรือเปล่าเพราะค่าโทรราคาแพงทั้งเข้าโทรออก แม้จะมีแคมเปญจูงใจคิดแลเวก็ไม่น่าจะสิ้นเปลืองโดยใช้เหตุ
น่าสนใจค่ะ...รอติดตามอ่านเที่ยวเมืองเก่าสมัยเอโค๊ะ ซามูไร และความศิวิไลน์ไฮเทค...
พบคนไทย บ้านอยุ่ ยโสธร แต่ไม่ได้ขายลาบ แต่ทำข้าวมันไก่ ก๋วยเตี๋ยวอร่อย เพราะอดมา ๕ วันอาหารไทย เป็นร้านอาหารไทย เจ้าของเป้นญี่ปุ่น คลั่งมวยไทยมาก เอากางเกง มวยมาอวด ลดราคาข้าว ๖๐ เยน