ข้อคิดที่ได้จากการชมภาพยนตร์ amazing grace


   ภาพยนตร์ เรื่อง amazing grace เป็นภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ  "ทาส" ซึ่งเป็นเรื่องราวของ ยุคสมัยที่ประเทศอังกฤษ ยังมีมุมมองที่ว่ามนุษย์ที่มีสีผิวต่างกัน มีค่าความเป็นมนุษย์ไม่เท่ากัน จนมีบุคคลมองเห็นความสำคัญของคุณต่าชีวิตมนุษย์ จึงได้ต่อสู้เพื่อร่างกฏหมายว่าด้วยการห้ามค้าขายทาสขึ้น

   ข้อคิดที่ได้จากการรับชบภาพยนตร์ Amazing grace

   ประการที่หนึ่ง ตัวละคร เอกของภาพยนตร์ได้มีแนวคิดที่ว่า มนุษย์ทุกคนย่อมมีค่าความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกัน ดังนั้นการค้าขายทาส นำบุคคลมาใช้เช่นสัตว์จึงเป็นสิ่งที่ขัดต่อศีลธรรม จึงพยายามที่จะร่างกฏหมายห้ามค้าทาสขึ้น 

   ซึ่งการพยายามร่างกฏหมายห้ามค้าทาสขึ้นนั้น ถูกขัดขวางจากชนชั้นสูง โดยอ้างว่าหากไม่มีทาส จะกระทบกระเทือนต่อระบบเศรษฐกิจ แต่ด้วยความศรัทธา และ ความมุ่งมั่น ตัวละครเอก ได้ต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งกฏหมายที่เกี่ยวกับทาส โดยได้มีการต่อสู้มาเป็นเวลายาวนาน สังเกตุได้จากทรงผมของตัวละครในภาพยนตร์ ในตอนแรกตัวละครยังต้องใส่ผมปลอมอยู่ แต่ภายหลังตัวละครมีผมยาวพอที่จะไม่ต้องใส่ทรงผมปลอมแล้ว

    ซึ่งเหตุที่ทำให้การร่างกฏหมายเกี่ยวกับทาส เป็นไปด้วยความยากลำบากถูกขัดขวางจากบรรดา ชนชั้นสูงนั้น มีส่วนที่เกิดมาจากความทะนงตนลืมไปว่าตัวเองก็มีพื้นฐานเป็นมนุษย์เช่นเดียวกับทาส กล่าวคือ ตำแหน่ง หน้าที่ อำนาจ ทำให้บุคคลลืมตัวไปว่าตนเองก็เป็นมนุษย์เดินดินเช่นเดียวกับทาส ทำให้คิดว่าตัวเองสูงส่งกว่าบุคคลอื่น สังเกตุได้จากที่ตัวละคนหนึ่งได้กลาวไว้ตอนท้าย ของภาพยนตร์ว่า "ผู้ดีตีนแดง"

   ถึงแม้ว่าจะได้มีกฎหมาย ว่าด้วยเรื่องการห้ามค้าขายทาส แต่กฎหมายนั้นมิได้มีผลให้การกดขี่ข่มเหงมนุษย์หมดสิ้นไป  ดังจะเห็นได้จากการที่ยังมีการเอาเปรียบแรงงาน การใช้แรงงานเด็ก โดยความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนมีความเห็นว่า กฎหมายห้ามค้าขายทาสนั้นมิได้ทำให้การถูกกดขี่ข่มเหนมนุษย์หมดไป เพราะยังมีการกดขี่ข่มเหงมนุษย์ในรูปแบบอื่นอีกมากมาบ

   ประการต่อมา คือ การแก้ปัญหาของตัวละครเอง เป็นการแก้ปัญหาในเชิงของประชาธิปไตย สังเกตุได้จาก ฉากที่มีการรวบรวมรายชื่อของประชาชนเพื่อเสนอร่างกฏหมาย อีกทั้งการแก้ปัญหาหาของตัวเองยังมิใช่การกระทำในเชิงการใช้ความรุนแรงแต่เป็นการกระทำในการปลูกจิตสำนึก โน้มน้าวความคิด ใช้วิธีการโดยสงบ และไม่ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่าทันทีทันใดเพื่อให้บุคคลในสังคมเคยชินกับความเปลี่ยนแปลง

    ประการสุดท้าย คือ ได้เห็นถึงผลสำเร็จของความพยายาม ซึ่งการต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งกฏหมายเกี่ยวกับการซื้อขายทาสนั้นมีขวาดหนามต่างๆมากมาย จนในบางครั้งมองไม่เห็นถึงประตูแห่งความสำเร็จ แต่ตัวละครเอกก็มิได้ย่อท้อ ต่อสู้ในระยะเวลาที่ยาวนาน จนในที่สุดก็ได้มาซึ่งกฏหมายซึ่งเกี่ยวกับการค้าขายทาส

    จากการชมภาพยนตร์เรื่อง amazing grace ทำให้ผู้เขียนได้รับข้อคิดต่างๆมากมาย ที่สามารานำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน และ ทำให้เกิดความเข้าใจในการเรียนรู้วิชากฎหมายสิทธิมนุษยชนดียิ่งขึ้น 

คำสำคัญ (Tags): #HR-LLB-TU-2556-TPC
หมายเลขบันทึก: 565178เขียนเมื่อ 1 เมษายน 2014 21:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 2 เมษายน 2014 17:51 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท